รถมอเตอร์ไซค์ต่ำกว่า 400 cc.
รถบิ๊กไบค์
ผลิตภัณฑ์ทางน้ำ
รถกอล์ฟ
อุปกรณ์เสริม
PARTS & ACCESSORIES
BIGBIKE
บิ๊กไบค์
DEALER & SERVICES
ศูนย์บริการ และผู้จำหน่าย
PRIVILEGE
สิทธิพิเศษ
YAMAHA MOTOR SPORT
ยามาฮ่าเรซซิ่ง
ABOUT US
เกี่ยวกับยามาฮ่า
ค้นหา
เมนู
YAMAHA SOCIETY THAILAND
ผลิตภัณฑ์
ข่าวและกิจกรรม
ยามาฮ่าไลฟ์สไตล์ (บล็อก)
มีเดีย
YAMAHA RIDING ACADEMY (YRA)
สั่งจองอะไหล่
สมุดภาพอะไหล่
ติดต่อยามาฮ่า
ดาวน์โหลดโบรชัวร์
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
คู่มือผู้ใช้รถจักรยานยนต์
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
รถมอเตอร์ไซค์ต่ำกว่า 400 cc. / COMMUTER
รถบิ๊กไบค์ / BIGBIKE
ผลิตภัณฑ์ทางน้ำ / MARINE
รถกอล์ฟ / GOLF CAR
อุปกรณ์เสริม / ACCESSORIES
หน้าหลัก
หมวกกันน็อก
เครื่องแต่งกาย
ยามาลู้ป
อะไหล่
HOME
MODEL
NEWS
CALCULATOR
FIND A DEALER
TEST RIDING
หน้าหลักศูนย์บริการและผู้จำหน่าย
ผู้จำหน่าย
การรับประกัน
โครงการอบรมผู้จำหน่าย
โปรแคร์
ศูนย์บริการสีเขียว
ตารางตรวจเช็กตามระยะ
แนะนำบริการ
หน้าหลักสิทธิพิเศษ
เข้าสู่ระบบ
สิทธิประโยชน์สมาชิก
ข่าวสาร
ข่าวสารความเคลื่อนไหวทั้งหมด
กิจกรรม
บทความทั้งหมด
วิดีโอ
โบรชัวร์
แกลลอรี
wallpaper
สกรีนเซฟเวอร์
เพลง
แอปพลิเคชัน
Home
International
National
Team & Rider Profile
Motorsport Activity
ติดต่อเรา
เกี่ยวกับ YRA
สมัครอบรม
ข่าวสารและกิจกรรม
02-740-8001
ความยั่งยืน
กลุ่มบริษัทยามาฮ่าประเทศไทย
ร่วมงานกับเรา
สมัยก่อน การแข่งขันกีฬาทางน้ำแบ่งประเภทของการแข่งขันได้ไม่กี่ชนิด ได้แก่กีฬาประเภทเรือใบและว่ายน้ำ แต่ในปัจุบันเมื่อมีเทคโนโลยีเข้ามา จึงทำให้กีฬาทางน้ำมีการพัฒนาได้อย่างต่อเนื่อง แต่เดิมกีฬาที่อาศัยแรงลมเป็นแรงขับเคลื่อน กลับกลายมาเป็นกีฬาที่ใช้เครื่องยนต์มาเป็นตัวควบคุมหรือบังคับ ทำให้การแข่งขันมีความเร็วมากขึ้น ซึ่งกีฬาความเร็วทางน้ำในปัจจุบันคงจะหนีไม่พ้น การแข่งขันยานยนต์ทางน้ำ ซึ่งเราอาจจะเคยเห็นกันตามแหล่งท่องเที่ยวริมทะเลหรือในทะเลสาบ หรือบางคนอาจถึงขั้นเคยได้สัมผัส ในขณะเดียวกันบางคนยังไม่เคยได้ลองจับกีฬาความเร็วทางน้ำชนิดนี้ ซึ่งส่วนมาก จะถูกใจชาวต่างชาติมากกว่าชาวไทย เพราะเนื่องด้วยอุปกรณ์ต่างๆในการเล่นนั้นมีราคาค่อนข้างสูง และ ประกอบกับยังเป็นชนิดกีฬาที่ต้องใช้สรีระในการบังคับทิศทางอาจทำให้ไม่ค่อยเหมาะกับคนไทย และไม่เป็นที่นิยมมากนัก สำหรับการขับขี่ Wave Runner สิ่งแรกและสำคัญที่สุด คุณต้องสวมเสื้อชูชีพที่ได้รับมาตรฐานไว้ตลอดเวลา และสวมหมวกกันน็อก แว่นกันแดด ถัดมาเป็นเรื่องของตัวเรือที่จำเป็นต้องได้รัมาตรฐานความปลอดภัยจากผู้ผลิต หากเกิดการตกน้ำ สิ่งแรกคือต้องมีสติและพยายามระมัดระวังไม่ให้ ตนเองได้รับอันตรายจากยานยนต์ทางน้ำต่างๆ ที่เราอาจมองไม่เห็นได้ ยิ่งถ้าหากเราเป็นมือใหม่ ที่ไร้ประสบการณ์ ก็ควรคำนึงเรื่องการบังคับเลี้ยวของ Wave Runner ด้วย เพราะถ้าหากขับขี่หรือ ทำความเร็วไม่เหมาะสมก็มีโอกาสคว่ำได้ รวมถึงห้ามขับขี่ Wave Runner แบบโอ้อวดซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งอันตราย ทั้งนั้น ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเอง เราไปติดตาม 5 ทริคเด็ด ขี่ Wave Runner ให้"พริ้ว – เหนือน้ำ" 1.ทริคการขยับตัว : ผู้ขับ Wave Runner จำเป็นที่จะต้องขยับตัวอยู่ตลอดเวลา พร้อมกับต้อง ถ่ายเทน้ำหนักไปด้านใดด้านหนึ่งเพื่อให้สะดวกในการควบคุมและบังคับเรือ ซึ่งโดยปกติแล้วเรือจะมีการออกแบบมาเพื่อลดแรงกดฝั่งนอกโค้ง ที่ต้องใช้เพื่อให้เรือมีลักษณะตรงและติดกับผิวน้ำไม่เกิด การพลิกคว่ำ แต่อย่างไรก็ตามการถ่ายน้ำหนักไปด้านนอกก็ยังเป็นสิ่งจำเป็นเช่นกัน สำหรับ Wave Runner แบบ Supper jet (เรือยืน) มีหลายคนใช้เทคนิคการเอนตัวเข้าด้านใน และเท้าด้านในเลื่อนไปด้านหน้า โดยวางเท้าด้านหลังไว้ท้ายเรือตรงจุดที่ตนเองสามารถรู้สึกว่าออกแรงกดได้มากที่สุด หากเลี้ยวอีกทางใช้การสลับการวางเท้าดู เพื่อให้ง่ายต่อการควบคุมเรือ 2.ทริคปรับแต่งที่ยืนท้ายเรือ : การปรับแต่งที่ยืนท้ายเรือก็มีผลต่อการบังคับเรือเช่นกัน โดยเราควรปรับที่ยืนท้ายเรือให้ต่ำ เพื่อใช้ในกรณีที่ต้องการใช้แรงควบคุมเรือมากๆ หากไม่จำเป็นก็สามารถปรับที่ยืนท้ายเรือให้สูงขึ้น เพื่อให้ช่วงท้ายไม่แน่นมาก และยังช่วยให้ขับขี่สบายมากขึ้น 3.ทริคการใช้ทริม : ทริมคือ เครื่องมือที่ใช้ในการปรับหัวเรือให้เชิดขึ้น หรือกดลง ซึ่งเรือ บางชนิดอาจจะไม่มีทริมครับ ส่วนวิธีการปรับทริมนั้น หากเราต้องการบังคับเรือให้ออกตัวเร็วมากๆ ให้ปรับทริมลง ซึ่งจะทำให้หัวเรือจะเชิด และเมื่อได้ความเร็วที่ต้องการแล้ว ก็ควรปรับทริมขึ้นเพื่อให้หัวเรือกดลง เพื่อทำให้เรือสัมผัสน้ำน้อยลงมีแรงต้านน้อยลง มีความสมดุลของเรือ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มความเร็วปลายได้อีกทางหนึ่ง สำหรับเรือบางลำที่หัวหนัก เวลาเจอคลื่นแล้วชอบมุดคลื่นตลอด การปรับทริมขึ้นให้หัวเชิดก็เป็นการแก้ปัญหาได้ ดังนั้นควรปรับให้เหมาะสมกับการใช้ งานเพื่อปะโยชน์สูงสุดครับ 4.ทริคการยืน : การยืนควรเป็นในลักษณะเดียวกับการปรับแต่งที่ยืนท้ายเรือ โดยให้ถ่ายน้ำหนักการยืนไปข้างหน้าที่แฮนด์บาร์ ซึ่งช่วยกดตัวเรือลงเวลาเร่งเครื่อง โดยเฉพาะเรือที่มีกำลังเครื่องยนต์สูงซึ่งอาจทำให้เรือของเราหงายได้ กรณีที่เราเกิดเจอคลื่นแรงๆ ดังนั้นการยืนในลักษณะดังกล่าวก็จะช่วยได้ครับ เพราะการยืนนั้นเราให้ขาเรารับน้ำหนักรับแรงกระแทกแทนแถมยังมั่นคงด้วย ไม่เหมือนการนั่งที่หลังเราต้องรับแรงไปเต็มๆ อาจทำให้เกิดอาการปวดหลังตามมาจากการขับขี่ได้ครับ 5.ทริคการหักเลี้ยว : การเลี้ยวเรือที่ดีนั้นอาศัยการเตรียมหัวเรือล่วงหน้าครับ ดังนั้น ก่อนจะเลี้ยวเรือหรือเข้าทุ่น สัก 2-3 วินาทีให้หยุดคันเร่งเพื่อพักหัวเรือ จากนั้นค่อยบิดคันเร่งอีกครั้งขณะเลี้ยวผ่านแล้ว ซึ่งจะช่วยให้ได้จังหวะการเลี้ยวที่ดีขึ้น และเร็วขึ้นด้วยครับ ซึ่งสามารถดูวิธีการได้จากภาพด้านล่างครับ 1.เริ่มปล่อยคันเร่ง 2.เตรียมตัวรอจังหวะหักเลี้ยว 3.ช่วงการหักเลี้ยว 4.บิดคันเร่งเต็มแรง สำหรับบทควานนี้เราขอจบการนำเสนอ 5 ทริคเด็ด Wave Runner ให้"พริ้ว – เหนือน้ำ" ไว้เพียงเท่านี้ หากใครที่สนใจและยังไม่เคยลอง ก็สามารถนำทริคดีๆไปทดลองใช้กันนะครับ
คำนวณค่างวด
เปรียบเทียบ
ค้นหาผู้จำหน่าย
สนใจซื้อรถมอเตอร์ไซค์