ผู้ตรวจสอบบัญชี
ผู้ตรวจสอบบัญชี
ผู้ตรวจสอบบัญชี
ผู้ตรวจสอบบัญชี
รู้จักอาชีพ > นักจัดการ (Organize) > ผู้ตรวจสอบบัญชี

       ทุกธุรกิจย่อมต้องเกี่ยวข้องกับการเงิน เมื่อมีเรื่องของเงินก็ต้องมีฝ่ายบัญชีคอยดูแลจัดการ ให้การใช้จ่ายเป็นไปตามนโยบายของบริษัทนั้น ๆ แต่รายงานจากฝ่ายบัญชีในบริษัทอาจมีความเสี่ยงที่ข้อมูลบางอย่างจะตกหล่น คลาดเคลื่อน ดังนั้นต้องมีการจัดหาผู้ตรวจสอบบัญชี ซึ่งเป็นผู้ประกอบวิชาชีพภายใต้การกำกับดูแลของสภาวิชาชีพบัญชี เพื่อทำการตรวจสอบและรับรองความถูกต้อง ความครบถ้วนของตัวเลขในบัญชี เอกสารทางการเงินต่าง  ๆ ที่ถูกบันทึกไว้ 

       การตรวจสอบบัญชีเปรียบได้กับการตรวจร่ายกายอย่างละเอียดโดยหมอ ซึ่งมีประโยชน์มากต่อธุรกิจ ทำให้ทราบถึงผลการดำเนินงานในแต่ละรอบบัญชี ช่วยประเมินฐานะทางการเงิน ประเมินความเสี่ยง ตรวจหาข้อผิดพลาด การทุจริต มีผลต่อการบริหารและใช้ทรัพยากรต่าง ๆ ในอนาคต มีประโยชน์ต่อผู้ร่วมลงทุนในการพิจารณาผลประกอบการ สร้างความน่าเชื่อถือต่อธนาคาร ดังนั้น อีกทั้งผู้สอบบัญชีบางคน ก็สามารถแนะนำจุดอ่อน รวมถึงแนวทางแก้ไขให้กับเจ้าของธุรกิจได้ด้วย อาชีพผู้สอบบัญชีจึงมีความสำคัญอย่างสูงต่อธุรกิจกิจการต่าง ๆ

ผู้ตรวจสอบบัญชี  (Auditor)

ผู้ตรวจสอบบัญชี  (Auditor)

ผู้ตรวจสอบบัญชี  (Auditor)

 

ลักษณะงาน  

       ตรวจสอบความถูกต้องครบถ้วนของบัญชี ตรวจสอบเอกสารทางการเงิน การโอนรายการต่าง ๆ หลักทรัพย์ที่ซื้อขาย รายการบัญชีรายวัน บัญชีแยกประเภท ใบเสร็จ รายการสิ่งของ ยอดเงิน ต้นทุน สินทรัพย์ หนี้สิน กำไร ค่าเสื่อม และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

       ในความจริงงานตรวจสอบบัญชีไม่ใช่งานที่มีเพียงตัวเลขเท่านั้น เพราะผู้ที่ได้รับมอบหมายจะต้องเข้าไปทำความรู้จัก ทำความเข้าใจในธุรกิจนั้น ๆ โดยละเอียดทุกระบบที่เกี่ยวข้อง ยกตัวอย่าง ไปตรวจสอบบริษัทประกอบรถยนต์ ก็ต้องรู้ว่าแต่ละชิ้นส่วนมาจากไหน ส่งต่อไปหน่วยไหน มีอะไรเกี่ยวข้องบ้าง จนครบถ้วนกระบวนความทั้งระบบของธุรกิจนั้น เพื่อจะได้นำข้อมูลทุกอย่างมาพิจารณา หาข้อผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้น เรียกได้ว่าเป็นอาชีพที่ไม่น่าเบื่อเลย ที่ได้เจอธุรกิจใหม่ ๆ เสมอ แถมแต่ละธุรกิจก็ได้เข้าไปสัมผัสอย่างลึกซึ้ง ทำให้ได้รับประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากอาชีพอื่น

ขั้นตอนการทำงาน 

  • รับมอบหมายงานจากผู้จัดการ
  • ศึกษาทำความเข้าใจธุรกิจของลูกค้า
  • วางแผนการตรวจสอบ ว่าสถานที่ไหน กับใครบ้าง มีรายละเอียดอะไรที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ
  • ติดตามข้อมูลเอกสาร ที่จำเป็นในการทำบัญชีจากหน่วยงานต่าง ๆ ในบริษัท
  • นำข้อมูลมาวิเคราะห์ ตรวจสอบโดยละเอียด
  • ตรวจทานความถูกต้องของข้อมูล
  • ออกรายงานของผู้ตรวจสอบบัญชีรับอนุญาต

สถานที่ทำงาน

  • สำนักงาน ที่ทำงานของผู้ตรวจสอบบัญชีเอง จัดเก็บเอกสารต่าง ๆ ประชุมงาน วางแผนงาน สรุปข้อมูล และอื่น ๆ
  • บริษัทของลูกค้า ผู้สอบบัญชีจะได้เข้าไปทำความรู้จักกับบริษัทของลูกค้าอย่างละเอียด ซึ่งมีความหลากหลายตามแต่รูปแบบธุรกิจของลูกค้า

ผู้ที่ต้องทำงานด้วย 

  • ลูกค้า ลูกค้าที่ต้องพบเจอมีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะแนวธุรกิจ อุตสาหกรรมแฟชั่น บันเทิง ธนาคาร ประกัน โรงแรม มาหมดแน่นอน ซึ่งคนที่เราจะต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวมากที่สุดคือบัญชีของบริษัทนั้นๆ ต้องขอเอกสาร ต้องถามข้อมูลตลอด
  • เพื่อนร่วมงานในบริษัท ประกอบไปด้วยหัวหน้างาน และคนดูแลโปรเจคงาน
  • ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง  แต่ละธุรกิจจะใช้ความรู้ไม่เหมือนกัน หลายครั้งที่ต้องเข้าไปพูดคุยกับคนทำงานเพื่อถามข้อมูลเชิงลึกนำมาประกอบการพิจารณางบบัญชีเพื่อความถูกต้องโปร่งใสที่สุด

ทางเลือกอาชีพ 

ความรู้ด้านการเงินสามารถใช้ประกอบอาชีพได้หลากหลายนอกเหนือจากงานตรวจสอบบัญชี อาทิ

  •  พนักงานบัญชี
  • เจ้าหน้าที่งบประมาณ
  • พนักงานธนาคาร
  • งานประกันภัย
  • นักบัญชีต้นทุน
  • ที่ปรึกษาทางการเงิน
  • ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษี

 

เงินเดือน ผู้ตรวจสอบบัญชี



     เริ่มจากการเป็นผู้ช่วยผู้ตรวจสอบบัญชี โดยต้องยื่นคำข้อแจ้งการฝึกหัดงานต่อสำนักงาน ก.บช. ในทันทีที่เริ่มฝึกหัดงานเพื่อนับระยะเวลาและจำนวนชั่วโมง ฝึกหัดงานสะสบประสบการณ์จบครบ จากนั้นไปยื่นสอบเป็นผู้ตรวจสอบบัญชี หรือ CPA (Certified Public Accountant) เมื่อผ่านทั้งการฝึกหัดงานครบตามเงื่อนไข และผ่านการสอบตามกำหนดสภาวิชาชีพบัญชี ก็สามารถยื่นคำขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาตต่อสำนักงาน ก.บช. เพื่อออกใบอนุญาต

       ในแง่ของลำดับทางสายอาชีพ เริ่มต้นจากระดับปฏิบัติการทั่วไป และขึ้นไปในลำดับอาวุโสไป จากนั้นจะขยับเป็นผู้ช่วยผู้จัดการและเป็นผู้จัดการตามลำดับ 

  • มีความต้องการในตลาดอยู่เสมอ
  • มีการเติบโตในหน้าที่การงานสูงและเร็ว
  • ผลตอบแทนดี
  • ได้ทำความรู้จักธุรกิจหลากหลายรูปแบบ รู้จักคนในระดับสูงของธุรกิจนั้น ๆ
  • ต้องมีความละเอียดรอบคอบอย่างที่สุด ไม่ควรเกิดความผิดพลาดในรายงานบัญชี
  • ช่างสังเกต แต่ละบริษัทจะมีรายละเอียดการทำงานที่ต่างกันมาก ผู้ประกอบการเองมีความเคยชินกับธุรกิจของตัวเองอยู่แล้ว อาจจะข้ามหรือตกหล่นรายละเอียดบางอย่างไป ผู้สอบบัญชีในฐานะสายตาของคนนอกจึงต้องช่างสังเกต สอบถามข้อมูลเพื่อความถูกต้องเสมอ
  • มีสมาธิ มีวินัย อดทน สามารถจดจ่ออยู่กับงานที่ต้องมีรายละเอียดมากได้เป็นเวลานานอย่างต่อเนื่อง ต้องใช้ความคิดตลอดเวลา
  • มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี เพราะผู้สอบบัญชีจะต้องเข้าไปคลุกคลีกับธุรกิจนั้น ๆ การมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี การวางตัวดี จะช่วยให้ได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการและผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างดี
  • ละเอียดรอบคอบ งานเกี่ยวกับตัวเลขเป็นงานที่ต้องใช้ความละเอียดรอบคอบอย่างมาก หากมีความผิดพลาดเกิดขึ้นอาจนำมาซึ่งความเสียหายทั้งต่อลูกค้าและผู้ตรวจสอบ ไม่ควรมองข้ามอะไรไปอย่างเด็ดขาด ซึ่งกว่าจะสิ้นสุดแต่ละงานต้องตรวจทานหลายรอบเพื่อความแน่ใจ เพราะความถูกต้องคือหัวใจสำคัญ
  • มีความรับผิดชอบ มีมาตรฐานในการปฏิบัติงาน ทำงานอย่างถูกต้องตามขั้นตอน ตามหลักการ และรับผิดชอบต่องาน ต่อวิชาชีพของตนเอง
  • มีความเที่ยงธรรม ซื่อสัตย์สุจริต เรื่องของการเงินเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของหลายฝ่าย ผู้สอบบัญชีต้องมีความซื่อสัตย์ เที่ยงตรง นำเสนอข้อมูลอย่างตรงไปตรงมาไม่ลำเอียง ไม่ปกปิดหรือบิดเบือน ไม่อยู่ภายใต้อิทธิพลใด ๆ ที่อาจมีส่วนได้ส่วนเสีย อีกอย่างที่สำคัญคือ ความลับทางธุรกิจของลูกค้า เพราะผู้สอบบัญชีจำเป็นจะต้องรู้ข้อมูลทุกอย่างของบริษัท แม้แต่ความลับบางอย่าง ถ้าจำเป็นต่อการทำบัญชี ก็ต้องเปิดเผยต่อผู้สอบบัญชี ดังนั้น ผู้สอบบัญชีต้องมีความซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพ ไม่แสวงหาผลประโยชน์จากความลับของธุรกิจนั้น ๆ
  • ทักษะทางวิชาชีพการบัญชี เป็นสิ่งพื้นฐานที่สำคัญที่สุดของวิชาชีพ เพราะงานบัญชีมีรายละเอียดที่ซับซ้อน จึงจำเป็นต้องมีความรู้ในด้านบัญชีจะต้องถูกต้อง แม่นยำ ทั้งเชิงลึกและภาพกว้าง เพื่อการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพถูกต้องชัดเจน
  • ทักษะทางคณิตศาสตร์ เป็นหนึ่งในพื้นฐานของคนในสายวิชาชีพที่สนใจและตั้งใจอยากทำงานสายบัญชี
  • ทักษะการจัดการเวลาและวางแผน งานที่มีรายละเอียดข้อมูลจำนวนมาก ต้องอาศัยการวางแผนที่ดีในการทำงาน เพื่อให้เกิดความถูกต้อง เป็นไปตามขั้นตอน มีความรัดกุมในการทำงาน และยังตรงตามเวลาที่กำหนด
  • ทักษะการสื่อสาร มีความสำคัญต่อการทำงานไม่น้อย เพราะหลายบริษัทมีการติดต่อร่วมงานกับกลุ่มคนหลากหลายอาจทั้งในไทยและต่างประเทศ 
  • ทักษะการใช้โปรแกรมเฉพาะทาง เครื่องมือที่จะช่วยให้งานบัญชีถูกบันทึกอย่างเป็นระบบระเบียบ สามารถนำมาวิเคราะห์ ตรวจสอบ และใช้งานได้อย่างสะดวกรวดเร็ว

เรียน บัญชี

การศึกษา

       สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่ามัธยมศึกษาตอนปลายหรือประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการหรือมีความรู้ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเทียบเท่า (เงื่อนไขการรับขึ้นอยู่กับแต่ละมหาวิทยาลัย) จากนั้นจึงเข้าศึกษาต่อในหลักสูตรบัญชีบัณฑิต เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วมีประสบการณ์ด้านงานบัญชี สามารถฝึกหัดงานสอบบัญชีเพื่อสอบและขอได้รับอนุญาตจากสภาวิชาชีพ

 

ตัวอย่างสถาบันที่เปิดสอน 

มหาวิทยาลัยรัฐบาล 
  • จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
  • มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี
  • มหาวิทยาลัยกรุงเทพสุวรรณภูมิ
  • มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์
  • มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
  • มหาวิทยาลัยขอนแก่น
  • มหาวิทยาลัยเจ้าพระยา
  • มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
  • มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ
มหาวิทยาลัยเอกชน
  • มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
  • มหาวิทยาลัยการจัดการและเทคโนโลยีอีสเทิร์น
  • มหาวิทยาลัยเกริก
  • มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต
  • มหาวิทยาลัยคริสเตียน

เป็นต้น

 

       เริ่มจากตรวจสอบตัวเองว่ามีความรู้ความเข้าใจเรื่องของบัญชีอย่างถูกต้องครบถ้วนหรือยัง สิ่งจำเป็นพื้นฐานในการทำงานไม่ว่าจะเป็นงานเอกสาร การใช้โปรแกรม รู้วิธีการตรวจสอบเชิงลึก มีชั้นเชิงและมองภาพกว้างของงานบัญชีออก เมื่อความรู้แล้ว ก็ให้รู้จักการแบ่งเวลา สามารถบริหารการทำงานและการใช้ชีวิตได้อย่างไม่กระทบกัน แน่นอนว่าต่างคนต่างก็มีนิสัยใจคอไม่เหมือนกัน แต่เมื่อถึงเวลาทำงาน ทุกคนต้องมีความใส่ใจ ละเอียดรอบคอบ เพราะงานเกี่ยวกับตัวเลขต้องถูกต้อง ชัดเจน ถือเป็นหัวใจสำคัญ เรื่องต่อมาถือจรรยาบรรณ ความซื้อสัตย์ที่ผู้สอบบัญชีต้องยึดถือเอาไว้
       ปัจจุบันนักบัญชีไม่ใช่สักแต่จะเป็นแค่นักบัญชีนั่งหลังกองเอกสารเท่านั้น นักบัญชียุคใหม่จะมองภาพกว้าง ต้องรู้ธุรกิจ สามารถติดต่อกับทุกฝ่ายในองค์กร สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้ธุรกิจนั้น ๆ ได้ ต้องปรับมุมมอง วิธีคิด รู้จักพัฒนาตัวเองเสมอ 
 

็Hard Skills

  • แม่นยำหลักการทำบัญชี
  • ติดตามและหาความรู้ความเข้าใจด้านการเงินอยู่เสมอ
  • เรียนรู้การใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่องานบัญชี
  • จัดทำเอกสารต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง
  • ศึกษาข้อมูลธุรกิจหลากหลายประเภท

Soft Skill

  • ช่างสังเกตสิ่งรอบตัว รายละเอียดของธุรกิจต่าง
  • ฝึกวินัย อดทน มีสมาธิในการทำงาน
  • มีความเที่ยงธรรม ซื้อสัตย์สุจริต

กิจกรรมต่างๆ 

  • อ่านหนังสือเกี่ยวกับการเงิน
  • อบรม เพิ่มเติมความรู้ด้านต่าง ๆ
  • ลองทำความเข้าใจ ลองฝึกเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้คนใกล้ตัว

"คิดว่ามันเป็นอาชีพที่มั่นคง สร้างรายได้อย่างยั่งยืน เพราะไม่ว่าบริษัทจะขาดทุนหรือกำไร ยังไงเราก็ต้องทำบัญชีอยู่ดี ขอให้ขยันอ่านหนังสือ เรียนรู้เรื่องต่าง ๆ ให้คล่อง"

ธวัลฉัตร สุขสำราญ พนักงานฝึกหัดผู้ช่วยผู้สอบบัญชี

 

"หลายคนชอบพูดว่าคนที่จะเรียนบัญชีต้องเก่งคณิตศาสตร์ จริง ๆ แล้วคณิตศาสตร์ที่นักบัญชีใช้ก็แค่ บวก ลบ คูณ หาร ความรู้ระดับสูงไม่มีความจำเป็น แต่ลักษณะของคนที่เหมาะจะเรียนบัญชีคือเป็นคนที่รู้สึกสบายใจที่จะต้องทำงานกับตัวเลข แล้วก็เป็นคนที่สามารถวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ เป็นเหตุเป็นผล"

 

รองศาสตราจารย์ ดร.สมชาย สุภัทรกุล
รองคณะบดีฝ่ายวิชาการ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

( ที่มา : ข้อความส่วนหนึ่งจากรายการ I AM ช่องทรูปลูกปัญญา )

ิวิชาที่เรียน

       เมื่อมองการเรียนภาพรวมจะแบ่งเป็นการเรียนทฤษฏี การฝึกปฎิบัติและการสัมมนา ครอบคลุมเนื้อหาด้านเศรษฐศาสตร์ การเงิน การตลาด สถิติ ธุรกิจ การลงทุน กฎหมาย ภาษี การสื่อสาร การบัญชีตรวจสอบบัญชี การบริหารต้นทุน การใช้โปรแกรม ระบบสารสนเทศ

  • ปี 1 เป็นการศึกษาปูพื้นทั่วไป เรียนการบัญชีขั้นต้น ภาษีอากร
  • ปี 2 เรียนการบัญชีขั้นกลาง ภาษีอากรขั้นสูง การสอบบัญชี
  • ปี 3 – ปี 4 เรียนการบัญชีขั้นสูง และรายวิชาที่เป็นการประยุกต์กับงานบัญชี การสัมมนา การฝึกงาน บางมหาวิทยาลัยเน้นวิชาภาษาอังกฤษทุกชั้นปีตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงการตีความ การใช้งาน บางมหาวิทยาลัยเพิ่มเติมกลยุทธ์ทางธุรกิจ การบริหารความเสี่ยง การเจรจาต่อรองทางธุรกิจ แตกต่างกันไปแต่ละมหาวิทยาลัย

       หลายวิชาไม่ได้เรียนแค่ตัวเลขในห้องเท่านั้น แต่มีการลงพื้นที่ชุมชน ไปบริษัท เรียนรู้กระบวนการธุรกิจ ฝึกใช้หลักคิดที่ได้เรียนมาในสถานการณ์จริง

เคล็ดลับการเรียน

       นอกเหนือจากความรู้ด้านบัญชี ไอที การเงินแล้ว ยังต้องมีความสามารถในการสื่อสาร การนำเสนอ เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องพัฒนาระหว่างเรียน
สิ่งที่ควรพัฒนา ฝึกฝนระหว่างเรียนคือทักษะในการคิด วิเคราะห์ การไขแก้ปัญหา ซึ่งเป็นความสามารถที่เทคโนโลยียังไม่สามารถทดแทนได้อย่างดีกว่า และเรื่องของภาษา จะทำให้สามารถก้าวไปได้ไกลในสายงาน ลองปรึกษาอาจารย์เรื่องการเข้าโครงการฝึกงานแบบทั้งปี จะทำให้ได้รับประสบการณ์จากการทำงานจริงมากกว่าฝึกแบบหนึ่งเทอม และมีโอกาสสูงในการได้งานทำต่อทันทีหลังเรียนจบ

ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย 

       ปีแรกที่ได้เจอวิชาพื้นฐานและบัญชีขั้นต้น การเรียนจะยังไม่หนักมาก แต่ก็สำคัญที่สุด เพราะขึ้นชื่อว่าพื้นฐานแล้ว เป็นสิ่งที่จะต้องรู้ให้แม่นยำ มีความรู้แน่น และยังพอมีเวลาให้เพิ่มทักษะด้านภาษาให้เก่งยิ่งขึ้น

       ปี 2 – 4 การเรียนจะเริ่มหนักขึ้นตามลำดับ พร้อมกับค่าชีทที่มีเยอะมาก อีกอย่างคือจะเจอทางเลือกสำคัญอย่างหนึ่งคือการฝึกงาน ว่าจะเลือกแบบฝึกงานหนึ่งเทอม หรือเข้าโครงการฝึกงานแบบทั้งปี แล้วแต่เงื่อนไขของแต่ละมหาวิทยาลัย

       สังคมบัญชีค่อนข้างเป็นคณะใหญ่ มีคนหลากหลายที่เข้ามาจากต่างที่ แต่ก็สนิทกันได้อย่างรวดเร็ว ตลกเฮฮา ช่วยกันเรียน ช่วยกันติว มีกิจกรรม มีชมรม ซึ่งนอกเหนือจากการทำงานกลุ่มกับเพื่อน หากมีโอกาสร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ในคณะและมหาวิทยาลัยจะช่วยส่งเสริมทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น การพัฒนาบุคลิกภาพได้

ค่าเทอมตลอดหลักสูตร 

       ตัวอย่างค่าเทอมของทั้งมหาวิทยาลัยรัฐบาลและเอกชน เช่น

  • จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 39,250 ต่อปี / 167,750 ต่อปี (นานาชาติ)
  • มหาวิทยาลัยกรุงเทพ 80,580 ต่อปี

มหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก

  • Stanford University
  • University of Chicago
  • The Hong Kong University of Science and Technology
  • Stanford University
  • University of Chicago
  • Massachusetts Institute of Technology
  • Duke University
  • Harvard University
  • London School of Economics and Political Science
  • University of Pennsylvania

 

 

  •  พนักงานบัญชี
  • เจ้าหน้าที่งบประมาณ
  • พนักงานธนาคาร
  • งานประกันภัย
  • นักบัญชีต้นทุน
  • ที่ปรึกษาทางการเงิน
  • ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษี

Copyright © 2019 TruePlookpanya. All rights reserved.
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก ทำซ้ำ ดัดแปลง แก้ไข หรือเผยแพร่ส่วนหนึ่งส่วนใดของบทความนี้ก่อนได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร