ปตท. แนะเทคนิค “ขับรถอย่างไรให้ประหยัดพลังงาน”

04 เม.ย. 2565 | 04:26 น.

ราคาน้ำมันยังคงผันผวน เป็นปัญหาใหญ่สำหรับผู้ใช้รถใช้ถนน ปตท. แนะเทคนิค “ขับรถอย่างไรให้ประหยัดพลังงาน” จะดีกว่าหรือไม่ หากเปลี่ยนรูปแบบการใช้รถเพียงเล็กน้อย ช่วยประหยัดพลังงานได้มากกว่าเดิม

ในยุคที่มีทั้งโลกระบาดและความขัดแย้งต่างๆ มากมายได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง เกิดเป็นวิกฤตเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ ของแพง ค่าครองชีพสูงขึ้น และที่สำคัญ “ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก” ยังคงมีราคาที่สูงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาน้ำมันในประเทศไทยต้องปรับราคาขึ้น เป็นปัญหาใหญ่สำหรับผู้ใช้รถใช้ถนนที่ต้องเสียเงินเพื่อเติมน้ำมันมากกว่าเดิม การใช้การขนส่งสาธารณะอาจจะช่วยประหยัดเงินได้บ้างแต่ก็อาจจะไม่ได้สะดวกสำหรับทุกคน

จากสถานการณ์เช่นนี้ ปตท. จึงแนะนำเทคนิคน่ารู้สำหรับผู้ใช้รถยนต์กับแนวทาง “ขับรถอย่างไรให้ประหยัดพลังงาน” เพียงปรับเปลี่ยนรูปแบบการขับรถเพียงเล็กน้อย แต่จะช่วยประหยัดพลังงานได้มากกว่าเดิม

คำอธิบายภาพ: 5 เทคนิค ขับรถอย่างไรให้ประหยัดพลังงาน

1. ไม่เหยียบเบรกกะทันหัน

เพราะการเหยียบเบรกกะทันหัน หรือบ่อยเกินความจำเป็นนอกจากจะสิ้นเปลืองน้ำมันสูงถึง 40% แล้ว ยังส่งผลเสียต่อตัวเครื่องยนต์อีกด้วย ดังนั้นเวลาขับรถควรจะสังเกตสิ่งรอบข้าง และมีสติอยู่เสมอ เพื่อจะได้ไม่ต้องเหยียบเบรกบ่อยๆ ช่วยประหยัดน้ำมัน แถมยังช่วยรักษาสภาพยาง และผ้าเบรกไม่ให้สึกก่อนเวลาได้

2. ขับรถด้วยความเร็วคงที่ ไม่ช้าเกินไป หรือเร็วมากเกิน

การขับรถที่เร็วหรือช้าเกินไปก่อให้เกิดทั้งอันตรายบนท้องถนน และเปลืองน้ำมันโดยใช่เหตุ การรักษาความเร็วให้คงที่ หรือใช้ความเร็วที่สม่ำเสมอกัน 60 - 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมงจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้รถประหยัดน้ำมัน และลดความเสี่ยงต่อการเกิดความเสียหายบนท้องถนนด้วย

3. เปลี่ยนน้ำมันเครื่องและตรวจเช็กเครื่องยนต์ตามระยะทาง 

หนึ่งข้อสำคัญที่คนใช้รถต้องรู้คือการนำรถเข้าศูนย์บริการ เพื่อตรวจเช็กสภาพและสมรรถนะของรถ แต่หลายคนมักละเลยเพราะอาจมองว่าเป็นการสิ้นเปลืองต่อเงินในกระเป๋า เพราะเมื่อนำรถเข้าศูนย์บริการมักเจออุปกรณ์เครื่องยนต์เสียหาย หรือเสื่อมไปตามกาลเวลา แต่ต้องขอเน้นย้ำไว้เลยว่าการตรวจเช็กสภาพรถเป็นประจำตามคำแนะนำของศูนย์บริการจะช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ 3 - 9% เลยทีเดียว

4. บรรทุกของเท่าที่จำเป็น

แน่นอนว่ายิ่งบรรทุกของมาก ยิ่งทำให้รถต้องใช้พละกำลังในการขับเคลื่อนมากขึ้นไปด้วย และเมื่อใช้กำลังมากขึ้นแล้วก็ยิ่งกินน้ำมันมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นก่อนที่เราจะขนของหรือนำของใส่ไว้ในรถ ก็ต้องคำนึงถึงสมรรถภาพของรถกันให้ดีๆ ให้เหมาะสมกับน้ำหนักตัวรถด้วย

5. รถกระบะบรรทุกของอย่างไรให้ประหยัดน้ำมัน

และสำหรับผู้ใช้รถกระบะ หากมีความจำเป็นต้องบรรทุกของในคราวละมากๆ ก็ควรจะจัดสรรการวางสิ่งของให้สมดุล ไม่วางของให้อยู่ด้านใดด้านหนึ่งมากเกินไป เพราะนอกจากจะทำให้กินน้ำมันแล้ว ยังทำให้การขับขี่บรรทุกสิ่งของบนท้องถนนไม่ปลอดภัยด้วย นอกจากนี้หากมีการบรรทุกสิ่งของแล้ว ก็ไม่ควรจะขับรถเร็ว ควรวิ่งชิดเลนซ้าย ใช้ความเร็วสม่ำเสมอ ประมาณ 80 – 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมงก็จะช่วยประหยัดน้ำมันได้มากถึง 15 – 20 % เลยทีเดียว

และทั้งหมดนี้คือ 5 เทคนิค ขับรถอย่างไรให้ประหยัดพลังงาน เพียงปรับเปลี่ยนวิธีการขับรถเพียงเล็กน้อย จะช่วยประหยัดพลังงานได้มากขึ้น อีกทั้งยังส่งผลดีต่อสภาพรถยนต์ให้คงอายุการใช้งานได้ยาวนานขึ้นอีกด้วย