เปิดภาพ ปฐมนิเทศ "มินิวปอ.รุ่น1" อุ๊งอิ๊ง ตื่นเต้นเข้าพื้นที่ทหารครั้งแรก

วันนี้ (22มี.ค.67) มีพิธีปฐมนิเทศผู้ที่เข้ารับการอบรม หลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) สำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วปอ.บอ.) รุ่นที่1 หรือที่เรียกว่า หลักสูตร “มินิ วปอ.รุ่น 1” จำนวน 150 รายชื่อ โดยกำหนดระยะเวลาเข้าการอบรมตั้งแต่เดือน เม.ย.- ก.ย.2567 

สำหรับการสมัครเข้าอบรมหลักสูตร วปอ.บอ. รุ่นที่ 1 ได้มีผู้สมัครจำนวนมาก แต่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติและเข้าสอบสัมภาษณ์ได้ทั้งสิ้น 492 คน โดยมีทั้งข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ข้าราชการพลเรือน นักการเมือง และนักธุรกิจ โดยบุคคลที่มีชื่อเสียง นามสกุลดังนักการเมือง ได้ผ่านเข้ารับการอบรมรุ่นนี้ด้วย อาทิ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายชัยชนะ เดชเดโช สส.ปชป. นางสาวรัดเกล้า สุวรรณคีรี รองโฆษกรัฐบาล นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ หรือเอิง ทีมงานนายกฯ และเพื่อนสนิทอุ๊งอิ๊ง 

นอกจากนั้นยังมีลูกหลานคนดัง และทายาทนักการเมืองหลายคน เช่น นาย พชร นริพทะพันธ์ นส.ศิรินันท์ ศิริพาณิชย์ นายภัทรพงศ์ ภัทรประสิทธิ์ นายอาทิตย์ หวังศุภกิจโกศล นายพสุ ลิปตพัลลภ นส.ณัฐธิดา เทพสุทิน นายรวิศ สอดส่อง นส.นคนัน ชาญสุนทร เป็นต้น  วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.)

พลอากาศเอก ภูมิใจ เลขสุนทรากร ผู้บัญชาการสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ กล่าวต้อนรับนักศึกษาหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักรสำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วปอ.บอ.) รุ่นที่ 1  ว่า ถือเป็นหลักสูตรรุ่นที่ 1 ซึ่งมีที่มาที่ไปนานพอสมควร เพราะก่อนหน้านั้นเกือบจะสำเร็จ แต่ต้องล้มเลิกไป วันนี้แม้ตนจะเป็นผู้บัญชาการสถาบันป้องวิชาการป้องกันประเทศ แต่ขอเป็นอาจารย์กับศิษย์ 

สำหรับการปฐมนิเทศวันนี้ เพื่อที่จะชี้ให้เห็นว่า ในช่วงเวลาที่อยู่กัน 6 เดือน เราจะทำอะไร และจะได้อะไรกัน พวกเราคือความคาดหวัง และสังคมมองดูทุกท่าน ในกระบวนการที่ได้คัดเลือกเข้ามา ต้องถือว่าพวกเรา มีมาตรฐานสูงมากของประเทศ ขอแสดงความยินดีกับพวกเราทุกคน 

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ตอนหนึ่งว่าเมื่อถูกถามว่า เป็นครั้งแรกที่เข้ามาพื้นที่ทหารใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า  “ครั้งแรกเลยค่ะ จำก่อนหน้านี้ไม่ได้เลย” วันนี้มาเรียนก็รู้สึกดี ตื่นเต้นที่ได้กลับมาเป็นนักเรียนอีกครั้ง ก็สมัครมาสักพักแล้ว รอวันเปิด เลยตื่นเต้นนิดหนึ่ง มาเจอหลายท่านข้างล่าง แต่ที่ตื่นเต้นกว่าคือเจอนักข่าวเยอะมาก

เมื่อถามว่า ทำไมถึงตัดสินใจเรียนหลักสูตรนี้ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า จริงๆ เรื่อง วปอ. มีมานานแล้ว พอเปิดเป็น วปอ.รุ่นเด็กลงมา อายุเข้าเกณฑ์ เลยรู้สึกว่าถ้ามาเรียน ก็จะได้รู้ในสิ่งที่เรายังไม่ทราบอีกเยอะ และคิดว่าการที่จะได้เข้ามาเรียนตรงนี้ น่าจะมีประโยชน์ในการใช้ในเส้นทางการเมืองแน่นอน

เมื่อถามว่า จุดหมายปลายทางของหลักสูตรนี้คืออยากทราบทัศนคติของคนรุ่นใหม่เกี่ยวกับการปฏิรูปกองทัพ มองว่าควรเป็นอย่างไรในอนาคต น.ส.แพทองธาร ระบุว่า ยุคสมัยที่เปลี่ยนไป หลาย ๆ อย่างไม่ใช่แค่กองทัพอย่างเดียวที่ต้องมีการปรับตัว และเปลี่ยนแปลงด้วยเช่นกัน แต่เพื่อจะให้บ้านเมืองสงบสุข เราต้องหันหน้าเข้ามาคุยกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม ตั้งแต่เรื่องเล็กไปถึงเรื่องใหญ่ แต่เรื่องที่เป็นของระดับประเทศ เราก็คุยกันในสภา ที่มี สส. เป็นตัวแทนของประชาชนเข้ามาคุยร่วมกัน ก็จะเป็นสิ่งที่ชัดเจน และมีตัวแทนของประชาชนได้มากที่สุด

เมื่อถามว่า ตอนที่มาสอบสัมภาษณ์เป็นคำถามเกี่ยวกับอะไร น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า สัมภาษณ์เรื่องว่ามาเรียนจะมีการหาคอนเน็คชั่นส์หรือไม่ ตนก็ตอบไปตรงๆ ว่าการที่คนมาเรียนไม่ใช่แค่คอร์สนี้ แต่ในทุกคอร์ส ทุกคนอยากได้คอนเน็คชั่นส์ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ โรงเรียนก็จะได้มาระดับหนึ่ง มหาวิทยาลัยก็จะเป็นอีกกลุ่มหนึ่ง ไปเรียนเมืองนอกก็ได้อีกกลุ่มหนึ่ง อย่างเพื่อนต่างชาติที่ตนก็ยังมีอยู่  แล้วการกลับมาก็เป็นช่วงอายุที่เปลี่ยนไป ดังนั้นการที่คุณจะหาคอนเน็คชั่นส์ หรือไปหาเพื่อนกลุ่มใหม่ๆ สังคมใหม่ๆ ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี ทำให้เราได้เปิดกว้างเรียนรู้จากคนหลายคน

เมื่อถามว่าการ มาหาคอนเน็กชันในครั้งนี้ หรือหลักสูตรนี้ จะถูกโจมตีว่าทำเพื่อเรื่องส่วนตัว น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตนว่าทุกคอร์ส ทุกคนก็มาเรียนเพื่อประโยชน์ของตัวเอง และประโยชน์เพื่อใดๆ ของคนที่เรารัก และแคร์ ทุกคนก็เป็นอย่างนั้น และไม่ใช่เรื่องน่าแปลกว่ามาแล้วจะได้ผลประโยชน์ ยังไม่ได้ไปโกงกินใคร เรามาแล้วได้ประโยชน์ ก็เป็นสิ่งที่ดี ถ้ามาแล้วเรารู้สึกว่าไม่ได้อะไรเลยจากการที่ แล้วจะมาทำไม เพราะฉะนั้นมาก็ต้องได้ประโยชน์ แต่ไม่เป็นไร และหวังว่าคอร์สนี้ทุกคนจะได้ประโยชน์จากอะไรก็ตามในที่เรียน