“นฤมล”จับมือ Thai Pavillion ทำการตลาดดันส่งออกสินค้าไทยไปจีนเพิ่ม

20 มี.ค. 2567 | 04:25 น.

“นฤมล”ผู้แทนการค้าไทย จับมือ Thai Pavillion ทำการตลาดดันส่งออกสินค้าไทยไปจีนเพิ่มเติม เน้นทำการตลาดทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์

วันที่ 20 มีนาคม 2567 ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ผู้แทนการค้าไทย เปิดเผยว่า นรีรัตน์ รัตนพรวิเศษกุล ประธานกรรมการ บริษัท Thai Pavillion ได้เข้าหารือแนวทางความร่วมมือกับรัฐบาลไทย โดยเข้าร่วมเป็นทีมไทยแลนด์จากภาคเอกชน เพื่อร่วมขับเคลื่อนการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศจีนเพิ่มเติม โดยเน้นการทำการตลาดทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ 

                       “นฤมล”จับมือ Thai Pavillion ทำการตลาดดันส่งออกสินค้าไทยไปจีนเพิ่ม

ผู้แทนการค้าไทย กล่าวว่า พันธมิตรทางการค้า เป็นหัวใจสำคัญของการเจาะและขยายตลาดสินค้าคุณภาพของไทยไปสู่ประเทศจีน ด้วย Thai Pavillion มีความร่วมมือกับบริษัทรัฐวิสาหกิจผู้นำเข้าสินค้า ในหลากหลายมณฑล มีศูนย์การค้าสำหรับสินค้าไทยหลายแห่งในจีน และมีความร่วมมือกับแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ในจีน เช่น Alibaba, WeChat, และ Taobao 

จึงมีความพร้อมที่ร่วมมือกับรัฐบาลไทย ในการส่งเสริมพี่น้องเกษตรกร และพี่น้องผู้ประกอบการไทย ทำการตลาดทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ ด้วยเป้าหมายร่วมกัน คือ ขยายตลาดส่งออกสำหรับสินค้าไทยไปสู่จีน เพื่อเพิ่มรายได้ให้พี่น้องเกษตรกร และพี่น้องผู้ประกอบการไทย                     

ผู้แทนการค้าไทย กล่าวด้วยว่า นอกจากสินค้าเกษตร สินค้าเกษตรแปรรูป จะได้รับความต้องการจากประเทศจีนเพิ่มขึ้นมากแล้ว สินค้ากลุ่มเครื่องแกง เครื่องปรุงรส และสินค้ากลุ่มสปาและความงาม ก็ได้รับความต้องการเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 

นอกจากนั้น ปัจจุบัน บริษัทเฟอร์นิเจอร์จีนยังมีความต้องการไม้ยางพาราจากไทยอีกเป็นจำนวนมาก เนื่องจากจีนเป็นประเทศที่มีการส่งออกเฟอร์นิเจอร์ไปขายยังประเทศอื่นมากเป็นอันดับ 1 ของโลก โดยข้อมูลจากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม พบว่า ในปี 2566 จีนมีสัดส่วน การส่งออกเฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วนไปยังประเทศต่างๆ สูงถึงร้อยละ 33 ของทั้งโลก 

                  “นฤมล”จับมือ Thai Pavillion ทำการตลาดดันส่งออกสินค้าไทยไปจีนเพิ่ม

“ไทยยังมีโอกาสที่จะเพิ่มมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ไม้ให้สูงขึ้นอีกได้ ไม้ยางพาราที่ได้จากการตัดฟันต้นยางพาราที่มีอายุมากนั้น ถือได้ว่าเป็นไม้เศรษฐกิจอันดับหนึ่งของไทยในปัจจุบัน เพราะไม้ยางพาราเป็นไม้เพียงชนิดเดียวที่ได้รับอนุญาตให้ทำการส่งออกได้ในปริมาณไม่จำกัด 

และจากการที่ประเทศไทยมีพื้นที่ปลูกยางพารามากกว่า 20 ล้านไร่ ซึ่งถือว่ามากเป็นอันดับสองของโลก ทำให้ประเทศไทยมีไม้ยางพาราเป็นจำนวนมาก และสามารถดึงดูดอุตสาหกรรมการแปรรูปไม้ ให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย โดยใช้ไม้ยางพาราเป็นวัตถุดิบ ซึ่งทีมไทยแลยด์จะได้ประสานความร่วมมือกับ การยางแห่งประเทศไทย กระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงพาณิชย์ต่อไป“ ผู้แทนการค้าไทยย้ำ