"เศรษฐา" ถกบิ๊กเหมืองแร่ออสเตรเลีย อันดับ 4 ของโลก ดึงลงทุนไทย

05 มี.ค. 2567 | 03:13 น.

นายกฯ เศรษฐา หารือบริษัทเหมืองแร่ขนาดใหญ่ของออสเตรเลีย เป็นบริษัทถลุงสินแร่เหล็ก อันดับ 4 โลก ดึงเข้ามาลงทุนในไทย พร้อมคุยเอกชนจากภาคการขนส่งโลจิสติกส์ สนใจเข้าเป็นผู้ให้บริการ Cold Storage Facility ในไทย

วันนี้ (5 มีนาคม 2567) เวลา 10.00 น. (เวลาท้องถิ่นนครเมลเบิร์น เครือรัฐออสเตรเลีย) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้หารือกับผู้บริหารบริษัท Fortescue ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองแร่ขนาดใหญ่ของออสเตรเลีย เพื่อดึงดูดการลงทุน ในระหว่างการเดินทางเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลีย สมัยพิเศษ เพื่อฉลองวาระครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ ระหว่างวันที่ 4 - 6 มีนาคม 2567 

โดยการหารือครั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้นำหัวหน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมหารือถึงการดึงดูดการลงทุนในประเทศไทยด้วย ทั้ง ม.ล.ชโยทิต กฤดากร ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และผู้แทนการค้าไทย, นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และนายอดิทัต วะสีนนท์ อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.)

 

นายกรัฐมนตรี และคณะ หารือกับผู้บริหารบริษัท Fortescue ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองแร่ขนาดใหญ่ของออสเตรเลีย

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี ได้หารือกับ Dr. Andrew Forrest ผู้บริหาร Fortescue ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองแร่ขนาดใหญ่ของออสเตรเลีย มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมือง Perth ปัจจุบัน เป็นบริษัทถลุงสินแร่เหล็ก (Iron Ore) อันดับ 4 โลก มีกำลังการผลิต 192 ล้านตันต่อปี และผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานน้ำและแบตเตอรี่อีวี มียอดขายในปี 2023 สูงถึง 1.68 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย

โดยได้แสดงความสนใจเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมการผลิตแบตเตอร์รี่ไฮโดรเจนและไฮโดรเจนสีเขียวในประเทศไทย พร้อมกล่าวชื่นชมนโยบายการผลิตพลังงานสีเขียวและเป้าหมายการเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี ค.ศ. 2050 ของไทยด้วย 

 

ผู้บริหารบริษัท Fortescue ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองแร่ขนาดใหญ่ของออสเตรเลีย

 

ก่อนหน้านี้ในการดึงดูดธุรกิจเข้ามาลงทุนด้านเหมืองแร่นั้น นายกฯ ได้สั่งการให้อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เดินทางร่วมคณะ เพื่อให้นำข้อมูลเกี่ยวกับโครงการเหมืองโปแตซ ในประเทศไทยไปแสดงให้กับนักลงทุนของออสเตรเลีย รับทราบ เพื่อชักชวนให้เข้ามาร่วมลงทุนในประเทศไทย

อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ระบุด้วยว่า ในเบื้องต้นได้มีการนัดหมายไว้แล้ว 3-4 บริษัท โดยจะเน้นส่วนที่เป็นแร่ลิเทียม กับแรร์เอิร์ธ (Rare Earth) ส่วนโปแตซนั้นก็รวมอยู่ด้วยหากออสเตรเลียให้ความสนใจ

 

นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ หารือกับผู้บริหารบริษัท Fortescue ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองแร่ขนาดใหญ่ของออสเตรเลีย

นายชัย กล่าวอีกว่า จากนั้นนายกฯ ยังได้หารือกับผู้บริหาร Linfox ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์อัจฉริยะของออสเตรเลีย มีสำนักงานใหญ่ที่ Melbourne มีการดำเนินการใน 9 ประเทศ ส่วนในประเทศไทย เป็นสำนักงานและศูนย์ควบคุมสำหรับภูมิภาค มีการลงทุนมาตั้งแต่ปี 1993 จำนวน 12 แห่ง 

เพื่อให้บริการกระจายสินค้าไปยังร้านค้าปลีกและร้านอาหารมากกว่า 4,000 ร้าน มีพนักงานในประเทศกว่า 6,000 คน และบริษัท subcontract กว่า 3,000 แห่ง นายกรัฐมนตรี โดยได้กล่าวว่า บริษัทฯ มีการลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง 

 

นายกรัฐมนตรีพบหารือกับผู้บริหารบริษัท Linfox

 

ปัจจุบันไทยมีรถบรรทุกขนส่งสินค้าต่อวันกว่า 2,000 คัน มีมาตรฐานในด้านความปลอดภัยของผู้ขับขี่ เพื่อลดปริมาณอุบัติเหตุบนท้องถนน มีแผนที่จะตั้งศูนย์ regional traffic control fleet ในประเทศไทย ซึ่งจะเป็นการนำเอาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาไทย พร้อมการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น ในโอกาสนี้  Linfox สนใจเข้าเป็นผู้ให้บริการใน cold storage facility ที่นายกรัฐมนตรีได้แถลงถึงการสร้างขึ้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ปัจจุบัน บริษัทฯ ให้บริการแก่บริษัทต่าง ๆ ในไทย เช่น โลตัส และกลุ่มบริษัทบุญรอดบริวเวอรี่ ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างกัน โดยใช้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางครอบคลุมภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้