ในยุคที่การแข่งสูง การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญ "โรงเรียนกวดวิชา" จึงเป็นค่านิยมที่มีมานานในประเทศไทย ภาพบรรยากาศเดินเข้า-ออกโรงเรียนกวดวิชาจึงกลายเป็นภาพจำของวัยมัธยม ช่วงสิบปีที่ผ่านมาเราจึงเห็นโรงเรียนกวดวิชาเกิดขึ้นมากมาย
เด็กนักเรียนยังต้องการมาเรียนกวดวิชา เพราะระบบการเรียนการสอนในโรงเรียนที่มีนักเรียนมากถึง 40-50 คนต่อห้อง เป็นไปไม่ได้เลยที่ครู 1 คน จะสามารถทำให้นักเรียนทั้งห้องเข้าใจเนื้อหาได้แบบเท่าเทียมกันหมด และยิ่งไปกว่านั้นสถานการณ์โควิด-19 นาน 2 ปี ทำให้มีการหยุดเรียน-เรียนออนไลน์ ยิ่งทำให้ความรู้ความเข้าใจ ลดลงไปมหาศาล และเป็นแรงผลักดันให้นักเรียนมาเรียนกวดวิชามากขึ้น
Creden Data ชวนวิเคราะห์ และดูรายได้ของโรงเรียนกวดวิชาในช่วงปีที่ผ่านมากัน
1.บริษัท ออนดีมานด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด
ปี 2564
- รายได้ 711 ล้านบาท
- กำไร 125 ล้านบาท
- สภาพคล่องเงินสด : มีวงจรเงินสด(CCC index) เท่ากับ -29 วัน
2.บริษัท วรรณสรณ์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด
ปี 2564
- รายได้ 264 ล้านบาท
- กำไร 64 ล้านบาท
- สภาพคล่องเงินสด : มีวงจรเงินสด(CCC index)เท่ากับ -106 วัน
3.บริษัท เอ็นคอนเซ็ปท์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด
ปี 2564
- รายได้ 174 ล้านบาท
- กำไร 3 ล้านบาท
- สภาพคล่องเงินสด : มีวงจรเงินสด(CCC index) เท่ากับ 138 วัน
4.บริษัท วี บาย เดอะ เบรน จำกัด
ปี 2564
- รายได้ 118 ล้านบาท
- กำไร -74 ล้านบาท
- สภาพคล่องเงินสด : มีวงจรเงินสด(CCC index) เท่ากับ 33 วัน
5.บริษัท แอพพลายด์ฟิสิกส์ จำกัด
ปี 2564
- รายได้ 42 ล้านบาท
- กำไร 14 ล้านบาท
- สภาพคล่องเงินสด : มีวงจรเงินสด(CCC index) เท่ากับ -22 วัน
6.บริษัท เอ ไอ เอ็ม เอส จำกัด
ปี 2564
- รายได้ 36 ล้านบาท
- กำไร 4 ล้านบาท
- สภาพคล่องเงินสด : มีวงจรเงินสด(CCC index) เท่ากับ -11 วัน
เมื่อดูรายได้และกำไรของโรงเรียนกวดวิชา 6 อันดับของประเทศไทย เห็นได้ว่าการกวดวิชายังมีความสำคัญกับเด็กไทยอยู่มาก โควิด-19 ทำให้นักเรียนต้องปรับตัวเรียนออนไลน์ การเรียนออนไลน์ทำให้เด็กเรียนไม่รู้เรื่องมากขึ้นกว่าเดิม ธุรกิจโรงเรียนกวดวิชาจึงเป็นสิ่งที่ช่วยเด็กแต่ละยุคเสมอมา เพราะการเรียนกวดวิชาในยุคนี้ไม่ใช่แค่เรียนเพื่อเอาไปสอบแข่งขันอย่างเดียว แต่เป็นการเรียนเพื่อเรียนรู้สังคมและเรียนรู้ตัวเอง นับว่าเป็นโจทย์ใหม่สำหรับธุรกิจโรงเรียนกวดวิชา ที่ต้องปรับตัวตามยุคสมัยมากขึ้น