ไปรษณีย์ไทย

ไปรษณีย์ไทยเดินหน้าปรับลดอัตราค่าบริการ EMS ในประเทศ ตั้งแต่น้ำหนักเกิน 2 กก.ขึ้นไป หวังแบ่งเบารายจ่ายผู้ใช้บริการและช่วยพลิกฟื้น SMEs ไทยให้ไปต่อได้ในภาวะวิกฤต พร้อมปรับปรุงฟีเจอร์บริการใหม่ รองรับปริมาณการส่งสิ่งของที่มากขึ้น เริ่ม 14 สิงหานี้

ดร.ดนันท์  สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวถึง การให้บริการไปรษณีย์ด่วนพิเศษ (EMS) ในประเทศ ที่อยู่ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ส่งผลกระทบต่อทั้งภาคธุรกิจและภาครัฐ โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจค้าขาย ต้องปรับตัวมาขายสินค้าออนไลน์กันมากขึ้น ในทางกลับกันผู้บริโภคที่ต้องพักอาศัยอยู่ที่บ้านก็หันมาสั่งของผ่านช่องทางออนไลน์มากกว่าเดิม เพื่อลดความเสี่ยงในการออกนอกบ้าน บริการ EMS ส่งด่วน ทั่วไทย ตรวจสอบสถานะได้ตลอด 24 ชม. จึงเป็นบริการที่ตอบโจทย์ทั้งประชาชนทั่วไปและร้านค้าออนไลน์ได้  

“การปรับลดอัตราค่าบริการ EMS ในประเทศครั้งนี้ เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้ใช้บริการที่มีปริมาณการส่งสิ่งของที่มีน้ำหนักมากในขณะนี้ โดยอัตราค่าบริการที่ปรับลดลงตั้งแต่น้ำหนักเกิน 2 กก. ขึ้นไป จนถึง 20 กก. ซึ่งในแต่ละพิกัดน้ำหนักปรับลดสูงสุด 20% โดยเป็นการปรับลดอัตราค่าบริการครั้งใหญ่ตั้งแต่มีการเปิดให้บริการ EMS มา นอกจากนี้ เรายังได้พัฒนาฟีเจอร์ของตัวบริการให้มีความรวดเร็วและผู้ใช้บริการใช้งานได้อย่างคล่องตัวขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การใช้ระบบเทคโนโลยีแบบ Real Time ด้วยการแจ้งเตือนผู้รับก่อนการนำจ่าย และการ Pick Up รับฝากถึงที่อยู่ได้ไวขึ้น ผ่านช่องทาง Line @Thailandpost มีการกำหนดมาตรฐานการจัดส่งในปลายทาง กทม.   ถึงภายในวันเดียวหรือไม่เกินวันรุ่งขึ้น และพื้นที่ต่างจังหวัดภายใน 1-3 วัน   เพิ่มโอกาสในการขายด้วยการเรียกเก็บเงินปลายทาง (COD) โดยสามารถเลือกการรับเงินผ่านระบบกระเป๋าเงินไปรษณีย์ (Wallet@post) หรือโอนเข้าบัญชีธนาคารได้โดยตรง ซึ่งจะมีระบบการแจ้งเตือนสถานะสิ่งของที่อยู่ระหว่างดำเนินการผ่านระบบ Wallet@post หรือ SMS ด้วย” 

สำหรับช่องทางในการเลือกรับสิ่งของก็ได้หลากหลายเช่นกัน หากไม่อยู่บ้านหรือไม่สะดวกรับของที่บ้านเมื่อมีการฝากส่งสิ่งของ สามารถไปรอรับได้ที่ ตู้ iBox หรือ Box 24 ที่ตั้งอยู่ในจุดที่มีการเดินทางได้ง่ายและกระจายอยู่ครอบคลุมในย่านใจกลางเมือง นอกจากนี้ ยังปรับระยะเวลาในการสอบสวนภายใน 5 วันทำการ หากสิ่งของได้รับความเสียหาย/สูญหายจะได้รับอัตราการชดใช้ทันทีไม่เกิน 2,000 บาท/ชิ้น

เรียกได้ว่าบริการ EMS และฟังก์ชันต่างๆ ที่มาช่วยเสริมทัพในปีนี้ สามารถตอบโจทย์ผู้ใช้บริการได้ในทุกๆ มิติและไปรษณีย์ไทยจึงขอทำหน้าที่ที่คอยสนับสนุนและอยู่เคียงข้างคนไทยเปรียบเสมือนเพื่อนแท้ร่วมทาง ช่วยกันฝ่าฟันวิกฤตในครั้งนี้ พร้อมจะก้าวต่อไปด้วยกัน