สิ่งที่เทคโนโลยีให้ไม่ได้! ยอดขายแผ่นเสียงไวนิล 2023 เติบโตแรงต่อเนื่อง
ยอดขายแผ่นเสียงไวนิล 2023 ในสหรัฐฯ เติบโตแรงต่อเนื่อง แซง CD แบบไม่ต้องถาม กลายเป็นสิ่งที่เทคโนโลยีให้ไม่ได้!
SHORT CUT
- ยอดขายแผ่นเสียงไวนิล ปี 2566 พุ่งขึ้น มียอดขาย 43 ล้านแผ่น ในสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับ CD ที่ขายได้ราว 700,000 แผ่นเท่านั้น
- สร้างรายได้ถึง 51,800 ล้านบาท ตามรายงานของ สมาคมอุตสาหกรรมแผ่นเสียงแห่งอเมริกา (RIAA)
- สาเหตุที่สิ่งประดิษฐ์อายุกว่า 70 ปียี้ยังไม่ตายเมื่อเทียบกับ CD คือ "คุณค่าทางจิตใจ" ที่โลกดิจิทัลให้ไม่ได้
ยอดขายแผ่นเสียงไวนิล 2023 ในสหรัฐฯ เติบโตแรงต่อเนื่อง แซง CD แบบไม่ต้องถาม กลายเป็นสิ่งที่เทคโนโลยีให้ไม่ได้!
ในวันที่แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเพลงอย่าง Spotify , Apple Music , Youtube Music , Joox เป็นแพลตฟอร์มพื้นฐานที่หลายคนใช้ฟังเพลง แต่ข้อมูลจาก สมาคมอุตสาหกรรมแผ่นเสียงแห่งอเมริกา (RIAA) รายงานว่า ยอดขายแผ่นเสียงไวนิล ปี 2566 ในสหรัฐฯ มีผู้ซื้อแผ่นเสียงไปถึง 43 ล้านแผ่น สร้างรายได้ถึง 51,800 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ CD ที่ขายได้ราว 700,000 แผ่นเท่านั้น
ปัจจุบันความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของโลกดิจิทัล ทำให้ผู้คนหันกลับมาสะสมของที่เป็นของสะสมที่จับต้องได้จากศิลปินมากขึ้น โดยเฉพาะหลังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ผู้คนต่างเรียนรู้ว่า NFT ในโลกคริปโทฯ จับต้องได้ยากและไกลตัวพอสมควร
การสะสมแผ่นเสียง เปรียบเสมือนการเก็บคุณค่าทางจิตใจไว้ตราบนานเท่านานตามอายุของแผ่นเสียง (ราว 100 ปี หากแผ่นเสียงคุณภาพดีและเก็บรักษาดี) เมื่อเทียบกับ CD ที่มีอายุสั้นกว่า แม้ว่าแผ่นเสียงจะเป็นสิ่งประดิษฐ์อายุ 75 ปีแล้วก็ตาม
แม้ยอดขายจะสูงแต่ก็คงเทียบไม่ได้กับรายได้ของแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งที่มีเพลงเยอะกว่าแผ่นเสียง 1 แผ่นหลายล้านเท่า แต่สิ่งหนึ่งที่ แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเพลง ให้ไม่ได้ คือ "คุณค่าทางจิตใจ"
ขณะที่ศิลปินรุ่นใหม่ต่างหันมาออกของสะสมที่จับต้องได้อย่างแผ่นเสียงไวนิลมากขึ้น เพราะความเป็นสิ่งประดิษฐ์อนาล็อกของมัน ต้องใช้ความรู้ในการเก็บรักษา และข้อจำกัดด้านวัสดุที่ทำให้แผ่นเสียงเหล่านี้นำมาฟังบ่อย ๆ ไม่ได้ ทำให้มันกลายเป็นคุณค่าที่ศิลปินหลายคนพยายามสร้างขึ้นให้กับผลงานตัวเอง ศิลปินไทย ที่เป็นที่นิยมในหมู่คนรุ่นใหม่ อย่าง HYBS เอง ก็เคยนำเพลงมาบันทึกและจำหน่ายในรูปแบบแผ่นเสียงไวนิลเช่นกัน
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง
