วันการกุศลสากล ทุกการให้ยิ่งใหญ่เสมอ

มูลนิธิเด็กโสสะ-วันการกุศลสากล-charityday-sosthailand


องค์การสหประชาชาติ (United Nations :UN) ได้กำหนดให้วันที่ 5 กันยายนของทุกปีเป็น "วันการกุศลสากล (International Day of Charity)" เพื่อรำลึกถึงการจากไปของ แม่ชีเทเรซา (Mother Teresa of Calcutta) ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพในปี พ.ศ. 2522 ในฐานะผู้ช่วยเหลือและต่อสู้เพื่อคนยากไร้ทั้งในประเทศที่ยากจนและร่ำรวย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการนำไปสู่ความสงบสุขและสันติ

โดยวัตถุประสงค์สำคัญของวันการกุศลสากลนี้ ก็เพื่อกระตุ้นและส่งเสริมให้ผู้คน องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร รวมทั้งบริษัทและห้างร้านต่างๆ ทั่วโลก ช่วยเหลือผู้อื่นผ่านการเป็นอาสาสมัคร หรือการร่วมกิจกรรมที่เป็นการแบ่งปัน เนื่องจากงานด้านการกุศลนั้นสามารถช่วยบรรเทาสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมที่เลวร้าย และช่วยส่งเสริมสิทธิของผู้ที่ถูกละเลยได้

การกุศลในประเทศไทย

วิถีชีวิตของคนไทยนั้นผูกพันอยู่กับ "การทำบุญ" เนื่องจากประชากรส่วนมากในประเทศไทยนั้นนับถือศาสนาพุทธ ทำให้วัดกับคนไทยนั้นมีความใกล้ชิดกันมานาน เราจึงมักนิยมทำบุญด้วยการตักบาตร ถวายสังฆทาน และการให้ทานในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันพระ วันสำคัญ หรืองานประเพณีต่างๆ  นอกจากนี้ นิสัยคนไทยส่วนมากคือเป็นคนเอื้อเฟื้อ มีน้ำใจ จึงมักให้ความช่วยเหลือผู้อื่นเสมอ

ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่อันเป็นนิสัยหลักของคนไทยจำนวนมาก ก่อให้เกิดการบริจาค ทำบุญแบ่งปัน ในสังคมเสมอมา จึงมีองค์กรสาธารณประโยชน์หลายองค์กรจัดตั้งขึ้นเพื่อให้ความช่วยเหลือสังคม รวมถึงการจัดกิจกรรมการกุศลของทั้งกลุ่มคนและองค์กร เพื่อระดมทุนช่วยเหลือด้านต่างๆ เช่น งานวิ่งการกุศล การประมูลสินค้าเพื่อการกุศล การระดมทุนช่วยเหลือชุมชนที่ประสบภัยธรรมชาติ กิจกรรมพัฒนาโรงเรียนในชุมชนห่างไกล เป็นต้น

มูลนิธิเด็กโสสะ-วันการกุศลสากล-International Day of Charity-infograhpic

องค์กรการกุศลในประเทศไทย

ในประเทศไทย มีมูลนิธิ องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร หรือองค์กรสาธารณประโยชน์ (Non Governmental Organizations : NGOs) เป็นจำนวนมาก เพื่อให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆ ได้แก่

  1. ศาสนาและวัฒนธรรม

พุทธศาสนิกชนชาวไทยมักนิยมทำบุญกันเป็นประจำ รวมถึงชาวไทยที่นับถือศาสนาอื่นๆ ก็มักจัดกิจกรรมเพื่อสนับสนุนด้านศาสนาเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีหลายกิจกรรมที่สร้างขึ้นเพื่อรักษาวัฒนธรรมและสืบสานความเป็นไทยให้คงอยู่ เช่น วัดหรือศาสนสถานต่างๆ, วัดสวนแก้ว, วัดพระบาทน้ำพุ

2. ผู้ยากไร้ กลุ่มเปราะบางทางสังคม

ปฏิเสธไม่ได้ว่าสังคมเรายังคงมีความเหลื่อมล้ำสูง และมีผู้ไม่สามารถเข้าถึงสวัสดิการที่ดีได้ เช่น ประชากรที่ด้อยโอกาสทางเศรษฐกิจ ชาติพันธุ์ชนกลุ่มน้อย ผู้สูงอายุ คนเร่ร่อนไร้บ้าน เป็นต้น ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้จำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือ สนับสนุน ในรูปแบบต่างๆ เช่น มูลนิธิกระจกเงา, UNICEF

3. โรงพยาบาล

กิจกรรมการกุศล หรือการบริจาคเพื่อช่วยเหลือโรงพยาบาล เพื่อช่วยพัฒนาด้านการแพทย์ การเข้าถึงการรักษาของผู้ที่อยู่ห่างไกลหรือขาดโอกาสในการเข้าถึงสาธารณสุขที่ดี เช่น มูลนิธิรามาธิบดีฯ, มูลนิธิโรงพยาบาลสวนดอก, มูลนิธิโรงพยาบาลเด็ก

4. สังคมและชุมชน การบรรเทาภัยพิบัติ

การช่วยเหลือเพื่อพัฒนาชุมชน กิจกรรมระดมทุนเพื่อช่วยเหลือและบรรเทาภัยพิบัติต่างๆ เช่น พายุ น้ำท่วม ไฟไหม้ แผ่นดินไหว เป็นต้น เช่น มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

5. สัตว์และธรรมชาติ

นอกจากการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันแล้ว ยังมีหลายองค์กรที่จัดกิจกรรมการกุศลเพื่อช่วยเหลือสัตว์ต่างๆ เช่น สุนัข แมว ฯลฯ รวมถึงการช่วยเหลือสัตว์ป่า การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม เช่น การรณรงค์ลดโลกร้อน การเก็บขยะตามชายหาด เป็นต้น เช่น มูลนิธิสืบนาคะเสถียร, มูลนิธิรักษ์แมว ปันน้ำใจให้แมวจร

6. เด็กและการศึกษา

เด็ก คือ อนาคตของชาติ เป็นวัยที่ควรได้รับการปกป้องดูแล เพื่อเติบโตไปอย่างมีคุณภาพ แต่ในสังคมยังคงมีเด็กมากมายที่กำพร้าและขาดโอกาสทางสังคม การบริจาคเพื่อให้ความช่วยเหลือเด็กๆ เหล่านี้ จึงมีความสำคัญที่จะช่วยเปลี่ยนชีวิตทั้งในด้านความเป็นอยู่ สุขภาพ และการศึกษา เพื่อช่วยพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีคุณภาพต่อสังคม เช่น มูลนิธิศุภนิมิตฯ, มูลนิธิบ้านนกขมิ้น, มูลนิธิสร้างรอยยิ้ม, มูลนิธิเด็กโสสะฯ

อยากทำบุญ บริจาคมูลนิธิไหน?

มีมูลนิธิหรือองค์กรที่ให้ความช่วยเหลือสังคมในหลากหลายรูปแบบ ซึ่งเราสามารถตรวจสอบรายชื่อมูลนิธิ สมาคม สถานสาธารณกุศล ซึ่งมีสิทธิขอหักลดหย่อนภาษีได้ ที่นี่

โดยมูลนิธิเด็กโสสะฯ เป็นองค์กรสาธารณกุศลลำดับที่ 38 ตามประกาศกระทรวงการคลัง ทุกการบริจาคจะได้รับการตรวจสอบความโปร่งใสอย่างเคร่งครัด และสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ตามกฎหมายกำหนด

มูลนิธิเด็กโสสะ-วันการกุศลสากล ครอบครัวโสสะ

บ้านแห่งความรักของเด็กทุกคน

มูลนิธิเด็กโสสะฯ ให้ความช่วยเหลือเด็กไทยที่กำพร้า ถูกทอดทิ้ง และเด็กที่ขาดโอกาสทางสังคมมานานกว่า 50 ปี ด้วยการมอบ “บ้านแห่งความรัก” เพื่อสร้างวัยเด็กอันเปี่ยมสุขให้กับเด็กที่เคยโดดเดี่ยว เพื่อให้พวกเขาได้เติบโตในครอบครัวทดแทนด้วยความรัก ได้รับการดูแลทุกด้านไม่ต่างจากเด็กทั่วไป กระทั่งสามารถเติบใหญ่อย่างมีความรู้ความสามารถ ออกไปใช้ชีวิตด้วยตนเองในสังคมได้อย่างมีคุณภาพ

ปัจจุบัน มีเด็กร่วม 600 คน ที่เติบโตออกจากมูลนิธิฯ ไปประกอบอาชีพใช้ชีวิตด้วยตนเองในสังคมได้อย่างมีความสุข

อ่าน ตัวอย่างความสำเร็จลูกโสสะ 

ร่วมแบ่งปัน

มอบโอกาสให้กับเด็กกำพร้า

SOSThailand-QRCode-TTB-eDonation-08

ธนาคารทีเอ็มบีธนชาต

เลขบัญชี 1711021871

อ้างอิง

STKC
Hfocus เจาะลึกระบบสุขภาพ

Copyright © All Right Reserved