ข่าวสารและบทความ

ประกันรถยนต์ : กระจกรถยนต์กดไม่ขึ้น กระจกไฟฟ้าไม่ทำงาน ทำอย่างไร

ประกันรถยนต์ : กระจกรถยนต์กดไม่ขึ้น กระจกไฟฟ้าไม่ทำงาน ทำอย่างไร

 

รถยนต์รุ่นใหม่ๆ หลายรุ่นมักเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานด้วยการเพิ่มฟังค์ชันเครื่องใช้ไฟฟ้าเข้ามาภายในรถยนต์ ทั้งเครื่องเสียง ที่ชาร์จโทรศัพท์ ที่วางแก้วน้ำทำความเย็น หรือแม้แต่กระจกรถยนต์ที่ก็เปลี่ยนรูปแบบจากยุคก่อนที่ต้องใช้มือหมุนเป็นแบบกระจกไฟฟ้าแทน ( กระจกรถยนต์แบบไหน? ปลอดภัยสำหรับทุกคน ) แต่หากระบบไฟฟ้าเกิดขัดข้องแล้วกระจกรถยนต์กดไม่ขึ้น หรือกระจกไฟฟ้าไม่ทำงานจะต้องทำอย่างไร แล้วมีสาเหตุมาจากอะไร สินมั่นคง ประกันรถยนต์ มีข้อมูลมาบอกค่ะ

 

 

ประโยชน์ของกระจกไฟฟ้ารถยนต์

กระจกรถยนต์ไฟฟ้า เป็นอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งที่ถูกติดตั้งเพิ่มเติมเข้ามาในรถยนต์ในปัจจุบันแทบทุกรุ่น ซึ่งเป็นอุปกรณ์พื้นฐานที่เข้ามาแทนที่ของกระจกรถแบบมือหมุน เพิ่มความสะดวกสบายในการเปิด-ปิดทั้งคนขับและผู้โดยสาร ไม่ต้องออกแรงในการหมุนหากต้องการใช้งาน โดยเฉพาะฝั่งคนขับที่ต้องมีการจ่ายค่าทางด่วนหรือรับบัตรจอดรถ กระจกไฟฟ้าจะมีแผงควบคุมการเปิด-ปิดประจำที่ประตูทุกบาน และแผงควบคุมทั้ง 4 บานอยู่ที่ฝั่งคนขับ นอกจากนี้ยังมีปุ่มล็อกกระจกเพื่อป้องกันอันตรายเมื่อมีเด็กเป็นผู้โดยสาร

แม้เทคโนโลยีจะให้ความสะดวกสบายแต่ก็แลกมาด้วยปัญหาการใช้งานได้ง่ายกว่ากระจกแบบมือหมุน เพราะด้วยกลไกที่ถูกติดตั้งอยู่ภายในนั้นประกอบไปด้วยระบบไฟฟ้า มอเตอร์ และฟันเฟืองต่าง ๆ หากอย่างใดอย่างหนึ่งชำรุดหรือสึกหรอก็อาจทำให้ไม่สามารถใช้งานได้

 

 

 

กระจกรถยนต์กดไม่ขึ้น มีสาเหตุจากอะไร

สาเหตุที่ทำให้กระจกไฟฟ้าเลื่อนไม่ขึ้นหรือทำงานผิดปกติ มีดังนี้


    1. น้ำและความชื้น
ปัญหาน้ำและความชื้น สามารถเกิดขึ้นได้กับรถทุกคัน โดยเฉพาะบริเวณประตู หากรถคันดังกล่าวมีการติดตั้งยางรีดน้ำที่กระจกด้านนอกไม่ดีหรือเสื่อมคุณภาพ น้ำจากการล้างรถหรือขับรถลุยฝนมาบางส่วนอาจเล็ดลอดเข้าไปสร้างความเสียหายให้กับอุปกรณ์ภายในประตูได้ หากมีน้ำเข้าไปอาจทำให้เกิดความชื้นส่งผลให้กระจกไฟฟ้าทำงานไม่เต็มที่ เปิด-ปิดได้หรือไม่ได้บ้าง ถ้าร้ายแรงอาจไม่สามารถใช้งานได้เลย

วิธีตรวจสอบและแก้ไข
สังเกตการทำงานของกระจกไฟฟ้าว่าสามารถเปิด-ปิดได้เป็นปกติหรือมีน้ำรั่วซึมจากประตูหรือไม่ หากกระจกไฟฟ้าไม่สามารถใช้งานได้หรือใช้ได้บางครั้งบางคราว และมีร่องรอยน้ำรั่วซึม ยางกันน้ำที่กระจกชำรุด อาจสันนิษฐานได้ว่าน้ำอาจเข้าไปรบกวนการทำงานของกระจกไฟฟ้า
เบื้องต้นให้นำรถจอดตากแดดเพื่อไล่ความชื้น สตาร์ตเครื่องยนต์ ใช้มือทุบเบา ๆ ที่แผงประตูด้านในหรือด้านนอก เพราะบางทีตัวมอเตอร์หรือฟันเฟืองอาจจะติดหรือมีอะไรไปขัดขวางการหมุน การทุบเบา ๆ ก็อาจทำให้การทำงานกลับมาเป็นปกติได้ จากนั้นให้เปิดกระจกขึ้น-ลง ทำซ้ำ ๆ ประมาณ 5-6 ครั้ง หรือจนมั่นใจว่าสามารถใช้งานได้ตามปกติ ถ้ายังไม่สามารถใช้งานได้ควรนำรถให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ

 

    2. อุปกรณ์ภายในเสื่อมหรือชำรุด
กระจกไฟฟ้านอกจากจะมีส่วนประกอบสำคัญอย่างมอเตอร์แล้ว ยังประกอบไปด้วยอุปกรณ์อื่น ๆ เช่น ฟันเฟือง ลวด และข้อต่อต่าง ๆ ที่ช่วยในเรื่องการเลื่อนขึ้น-ลงของกระจก หากอุปกรณ์เหล่านี้ชำรุด หรือเสื่อมคุณภาพ กระจกไฟฟ้าอาจเลื่อนขึ้น-ลงได้ช้า หรือมีการสะดุดในบางจังหวะ

วิธีตรวจสอบและแก้ไข
ทดสอบการเปิดกระจกไฟฟ้าขึ้น-ลงทุกบาน สังเกตจังหวะการเลื่อนขึ้น-ลง ว่าเป็นปกติหรือไม่ มีอาการฝืด สะดุด และค้างหรือเปล่า หากพบอาการดังกล่าว เบื้องต้นอาจเกิดจากฟันเฟือง ลวด และข้อต่อต่าง ๆ ชำรุด เสื่อมคุณภาพ ควรนำรถเข้าตรวจสอบให้ช่างลองแกะแผงประตูออกพร้อมกับหยอดน้ำมันหล่อลื่นตามจุดต่างๆ

 

 

    3. มอเตอร์เสีย
ชิ้นส่วนสำคัญในการทำงานของกระจกไฟฟ้าคือ มอเตอร์ แม้ปัจจุบันเทคโนโลยีการผลิตมอเตอร์จะมีการพัฒนาไปมาก จนทำให้มีโอกาสชำรุดหรือเสียหายได้ยากขึ้นเท่านั้น อย่างไรก็ตามหากกระจกไฟฟ้าไม่สามารถใช้งานได้ ควรให้ช่างตรวจสอบอาการน้ำเข้าฟันเฟืองหรือข้อต่อต่าง ๆ แล้วทุกอย่างเป็นปกติก็เหลือเพียง มอเตอร์ หัวใจสำคัญของกระจกไฟฟ้าที่อาจเสียหรือชำรุด

วิธีตรวจสอบและแก้ไข
ลองเปิด-ปิดกระจกไฟฟ้าทั้งฝั่งประตูบานนั้น ๆ และที่แผงควบคุมฝั่งคนขับ หากไม่สามารถใช้งานได้ให้ลองทุบหรือเคาะเบา ๆ ถ้าโชคดีอาจเป็นแค่สิ่งแปลกปลอมไปขัดขวางการหมุนของมอเตอร์เฉย ๆ หากไม่หายควรนำรถเข้าร้านซ่อมหรือศูนย์บริการเพื่อทำการตรวจสอบอย่างละเอียด ให้ช่างลองแกะแผงประตูออกเพื่อตรวจเช็ก 

 


    4. แบตเตอรี่รถไฟอ่อนหรือใกล้หมด
หากแบตเตอรี่มีกำลังไฟที่อ่อนหรือใกล้หมด การทำงานของกระจกไฟฟ้าจะเลื่อนขึ้น-ลงช้ากว่าปกติ แต่ควรสังเกตระบบไฟอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วย

วิธีตรวจสอบและแก้ไข
กรณีนี้อาจไม่ต้องแก้ไขที่กระจกไฟฟ้า แต่ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกใหม่ เพื่อให้การทำงานของกระจกไฟฟ้ากลับมาทำงานตามปกติ รวมไปถึงระบบไฟส่วนอื่น ๆ

 

กระจกไฟฟ้าแม้จะไม่ได้มีการใช้งานมากนักโดยเฉพาะที่ไม่ใช่ฝั่งคนขับ แต่ก็มีโอกาสที่จะเกิดปัญหาขัดข้อง ใช้งานไม่ได้เช่นกัน ผู้ขับขี่จึงควรเปิดกระจกขึ้น-ลง ทุกบานในบางครั้ง เพื่อเป็นการตรวจเช็กการทำงานของกระจกไฟฟ้าว่ายังสามารถใช้งานได้เป็นปกติ โดยกดปุ่มเปิดจากแผงควบคุมรวมฝั่งคนขับ และที่ปุ่มเปิดประจำประตูแต่ละบาน เลื่อนขึ้น-ลง ซ้ำ ๆ หากพบความผิดปกติ ให้ลองตรวจสอบตามวิธีข้างต้นหากไม่มั่นใจ หรือไม่สามารถแก้ไขได้ควรนำรถเข้าตรวจสอบที่ศูนย์บริการหรือร้านซ่อมกระจกไฟฟ้าทันที

คุ้มครองรถให้ปลอดภัย ด้วย ประกันภัยรถยนต์ตามไมล์ ขับน้อย จ่ายน้อย ประกันชั้น 1 เบี้ยเริ่มต้น 11,600 บาท ทุนประกันเริ่มต้นที่ 200,000 บาท ไม่เก็บค่าเสียหายส่วนแรก สนใจรายละเอียด คลิก www.smk.co.th/productmotordetail/2 หรือ โทร. 1596 ตลอด 24 ชั่วโมง Line : smkinsurance
และสามารถติดตามเนื้อหาสาระดีๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://smkinsurance.blogspot.com