ยังคงคิดถึง เมืองเขลางค์นคร
แต่ก่อนแต่ไร เมื่อพูดถึงภาคเหนือ ผมมีความรู้สึกว่า จ.ลำพูน และ จ.ลำปาง เป็นเสมือนเมืองผ่าน
โดย...สืบสิน ภาพ คลังภาพโพสต์ทูเดย์
แต่ก่อนแต่ไร เมื่อพูดถึงภาคเหนือ ผมมีความรู้สึกว่า จ.ลำพูน และ จ.ลำปาง เป็นเสมือนเมืองผ่าน ที่แทบจะทุกคนมักข้ามไปเที่ยวกันที่ จ.เชียงใหม่ หรือไม่ก็ จ.เชียงราย กันเสียมากกว่า แต่เอาเข้าจริงๆ แล้วทั้งลำพูนและลำปางนั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวและวัฒนธรรมมีความเป็นมาที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
แม้ไม่ได้มาเยือนเป็นเวลานาน แต่ จ.ลำปาง หรือเมืองเขลางค์นคร ก็ยังคงตรึงอยู่ในความทรงจำของผมอยู่เสมอ ครั้งหนึ่งผมเคยเดินทางไปท่องเที่ยวแบบไม่มีจุดหมาย แล้วปลายทางของผมก็มาลงเอยที่ลำปาง คราวนั้นผมไปสัมผัสกับลำปางราวเดือน พ.ย. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่อากาศเริ่มหนาวพอดี ผมมีโอกาสไปสัมผัสกับน้ำพุร้อนแจ้ซ้อน ก่อนเข้าไปเยือนพระธาตุลำปางหลวงในตัวเมือง พร้อมทั้งเดินทางไปหลายสถานที่ ถึงวันนี้ผมยังคงหลงรักลำปางครับ
ลำปาง เดิมชื่อ เขลางค์นคร เป็นเมืองหลวงคู่แฝดกับอาณาจักรหริภุญไชย ซึ่งเจ้าเมืองทั้งสองเป็นโอรสแฝดของพระนางจามเทวี นับเป็นอีกจังหวัดในภาคเหนือที่เป็นแหล่งอารยธรรมล้านนาไทยที่น่าสนใจ ทั้งขนบธรรมเนียมประเพณีที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ มีวัดวาอารามและสถาปัตยกรรมท้องถิ่น มีรถม้าที่ไม่เหมือนใคร มีอาหารการกินแสนอร่อย มีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ทำให้ลำปางกลายเป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นเป็นของตัวเอง
ส่วนแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ยังคงความอุดมสมบูรณ์และสวยงาม มีอุทยานแห่งชาติหลายแห่งที่มีเสน่ห์น่าดึงดูดมากมาย สิ่งเหล่านี้ทำให้ จ.ลำปาง กลายเป็นจุดหมายที่นักเดินทางทั้งหลายต้องแวะ เที่ยวชม และวันนี้ผมขอแนะนำสถานที่เที่ยวลำปาง ที่คุณจะรู้สึกเห็นพ้องกับผมว่าเขลางค์นครแห่งนี้ไม่ใช่เป็นเพียงแค่เมืองผ่านอีกต่อไป
วัดพระธาตุลำปางหลวง ตั้งอยู่ที่ ต.ลำปางหลวง อ.เกาะคา เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองลำปางมาแต่โบราณ ตามตำนานกล่าวว่า มีมาตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวี ราวปลายพุทธศตวรรษที่ 20 เป็นวัดไม้ที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของไทย งดงามด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่มากมาย
พระธาตุลำปางหลวง เป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนปีฉลู ด้วยเริ่มสร้างในปีฉลูและเสร็จในปีฉลูเช่นกัน ฐานเป็นบัวลูกแก้ว ส่วนองค์เป็นทรงกลมแบบล้านนาภายนอกบุด้วยทองจังโก ยอดฉัตรทำด้วยทองคำ มีลายสลักดุนเป็นลวดลายประจำยามแบบต่างๆ ลักษณะเจดีย์แบบนี้ได้ส่งอิทธิพลต่อพระธาตุหริภุญไชย และพระบรมธาตุจอมทอง
นอกจากนี้ ยังมีวิหารหลวง วิหารขนาดใหญ่ที่สร้างเมื่อ พ.ศ. 2019 โดยเจ้าหมื่นคำเป๊ก ภายในมีซุ้มปราสาททองเป็นที่ประดิษฐานพระเจ้าล้านทอง ด้านหลังเป็นที่ประดิษฐานพระเจ้าทันใจ บนแผงไม้คอสองมีภาพจิตรกรรมเก่าแก่งดงามเรื่องทศชาติและพรหมจักร
วัดพระธาตุลำปางหลวงยังเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วดอนเต้า (พระแก้วมรกต) พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของ จ.ลำปาง เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ศิลปะล้านนาสลักด้วยหยกสีเขียว มีงานนมัสการพระแก้วดอนเต้าในวันเพ็ญเดือน 12 ของทุกปี
สะพานรัษฎาภิเศก หรือสะพานขาว ตั้งอยู่ที่ถนนรัษฎา อ.เมือง เจ้าผู้ครองนครเป็นผู้ที่ตั้งชื่อจากพิธีเฉลิมฉลองรัชดาภิเษก สมัยรัชกาลที่ 5 สะพานรัษฎาเป็นสะพานร่วมสมัยกับยุคอารยธรรมรถไฟมีอายุผ่านสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 มาแล้ว และรอดพ้นจากการโจมตีทิ้งระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตรมาได้ด้วยการทาสีพรางตา และด้วยการอ้างว่าสะพานแห่งนี้ไม่มีประโยชน์ทางยุทธศาสตร์ของนางลูซี สคาร์ลิง อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนวิชานารี ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของกองทัพสัมพันธมิตรในขณะนั้น
อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน อยู่ใน อ.เมืองปาน มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 592 ตารางกิโลเมตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ มีสภาพป่าอันอุดมสมบูรณ์และเป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีน้ำตกและบ่อน้ำร้อนอยู่ในบริเวณเดียวกัน ซึ่งถือเป็นความมหัศจรรย์อย่างหนึ่ง ฤดูที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวและมีอากาศเย็นสบาย คือ เดือน พ.ย.-ก.พ. ซึ่งจะมีห้องอาบน้ำแร่ไว้บริการอย่างสะดวกสบาย
วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม ตั้งอยู่บนถนนสุชาดา ต.เวียงเหนือ อ.เมือง เป็นวัดเก่าแก่ มีอายุนับพันปี เคยเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) ตั้งแต่ พ.ศ. 1979 เป็นเวลานานถึง 32 ปี เหตุที่วัดนี้ได้ชื่อว่า วัดพระแก้วดอนเต้า มีตำนานกล่าวว่า พระมหาเถระแห่งวัดนี้ได้พบแก้วมรกตในแตงโม (ภาษาเหนือเรียกว่า หมากเต้า) และนำมาแกะสลักเป็นพระพุทธรูป ต่อมาจึงได้อัญเชิญไปประดิษฐานที่วัดพระธาตุลำปางหลวงจนถึงปัจจุบัน
กาดกองต้า ถนนคนเดินกาดกองต้า ตั้งอยู่ที่ถนนตลาดเก่า ริมแม่น้ำวัง อ.เมืองลำปาง เดิมเป็นย่านชุมชนทางเศรษฐกิจที่มีอายุกว่า 100 ปี เริ่มจากชัยภูมิที่เป็นที่ริมแม่น้ำวัง และต่อมาได้พัฒนาไปเป็นศูนย์กลางการค้าขายและส่งผ่านสินค้าสำคัญของเมืองลำปาง รูปแบบของสถาปัตยกรรมมีความหลากหลายทั้งศิลปะตะวันตก พม่า-ไทใหญ่ และจีน กาดกองต้าจำหน่ายสินค้าพื้นเมือง สินค้าทำมือ อาหารพื้นบ้าน สินค้าที่ระลึกที่ควรซื้อหามาฝากกัน
วัดศรีชุม ตั้งอยู่ที่ถนนศรีชุม-แม่วะ ต.ศรีชุม อ.เมือง เป็นวัดเมียนมาที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาวัดของเมียนมาที่มีอยู่ในประเทศไทยทั้งหมด สร้างใน พ.ศ. 2433 โดยคหบดีเมียนมาชื่อ อูโย ซึ่งติดตามชาวอังกฤษเข้ามาทำงานป่าไม้ในประเทศไทย เมื่อตัวเองมีฐานะดีขึ้นจึงต้องการทำบุญโดยสร้างวัดศรีชุมขึ้นมา จุดเด่นของวัดนี้เดิมอยู่ที่พระวิหาร ซึ่งเป็นอาคารครึ่งตึกครึ่งไม้มีศิลปะการตกแต่งแบบล้านนาและของเมียนมา หลังคาเครื่องไม้ยอดแหลมแกะสลักเป็นลวดลายสวยงามมาก แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้พระวิหารทั้งหลัง วัดศรีชุมได้รับการจดทะเบียนเป็นโบราณสถานเมื่อ พ.ศ. 2524
ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย และสวนป่าทุ่งเกวียน ตั้งอยู่ที่บ้านทุ่งเกวียน ต.เวียงตาล อยู่ในความดูแลของอุตสาหกรรมป่าไม้ภาคเหนือ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) แต่เดิม อ.อ.ป.เป็นศูนย์ฝึกลูกช้างซึ่งเป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในโลก โดยเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ พ.ศ. 2512 เป็นสถานที่เลี้ยงและฝึกลูกช้างเพื่อให้เชื่อฟังคำสั่งและมีความชำนาญในการทำไม้ ขณะที่แม่ช้างไปทำงานในป่า และเนื่องจากมีนโยบายปิดป่าซึ่งทำให้ช้างต้องว่างงาน ศูนย์ฝึกลูกช้างจึงถูกปรับมาเป็นสถานที่ดูแลช้างแก่และเจ็บป่วย และที่นี่ยังเป็นสถานที่ตั้งของโรงพยาบาลช้างด้วย ต่อมาในเดือน ม.ค. 2535 อ.อ.ป.ได้ก่อตั้งศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยขึ้น และจัดกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงนิเวศ
รถม้าของดีเมืองลำปาง นับย้อนหลังไปช่วง 80 ปีที่แล้ว สมัยของเจ้าบุญวาทย์วงษ์มานิต ซึ่งตรงกับสมัยรัชกาลที่ 5 การคมนาคมขนส่งทางรถยนต์ยังพัฒนาไม่ถึงนครลำปาง รถม้าเป็นพาหนะชนิดเดียวที่ได้รับความนิยมในการเดินทางสูงสุดและสามารถใช้บรรทุกของหรือสินค้า รถม้าคันแรกได้ถูกซื้อมาจากกรุงเทพฯ ขณะนั้นทางกรุงเทพฯ มีรถยนต์ใช้มากขึ้น บทบาทของรถม้าลากในกรุงเทพฯ จึงลดลงรถม้าจึงได้ถูกนำมาใช้ที่นครลำปาง และยังได้กระจายไปสู่เมืองหลักของภาคต่างๆ แต่ด้วยเหตุใดไม่ปรากฏผู้ประกอบการรถม้าในเมืองดังกล่าวจึงเลิกกิจการไป คงเหลือแต่เฉพาะ จ.ลำปาง แห่งเดียว
สงกรานต์นี้หากยังไม่มีโปรแกรมเดินทางไปเล่นสาดน้ำที่ไหน ผมว่าลำปางนี่ล่ะน่าจะเป็นชอยส์ที่คุณไม่ควรมองข้าม เพราะช่วงเวลานี้ทาง จ.ลำปาง จะจัดงานสลุงหลวง กลองใหญ่ ซึ่งนับเป็นขบวนแห่สลุงหลวงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เดียวในโลกเลยทีเดียว