posttoday

ดูตีคลีไฟแล้วไปมอหินขาว

07 ธันวาคม 2556

ท่าน ผวจ.ชัยภูมิ พรศักดิ์ เจียรณัย ชวนสื่อมวลชนไปดูตีคลีไฟของ จ.ชัยภูมิ การตีคลีไฟเขาทำกันตอนกลางคืน

โดย...จำลอง บุญสอง

ท่าน ผวจ.ชัยภูมิ พรศักดิ์ เจียรณัย ชวนสื่อมวลชนไปดูตีคลีไฟของ จ.ชัยภูมิ การตีคลีไฟเขาทำกันตอนกลางคืน เพราะจะได้เห็นลูกไฟที่ทำด้วยลูกต้นนุ่นเผาไฟวิ่งแดงไปเวลาตี ตำนานเล่าว่าการตีคลีไฟได้แบบอย่างการตีคลีของพวกอาหรับ แต่ผมยังไม่เห็นด้วยในเรื่องนี้ เพราะไม่แน่ใจว่าพวกอาหรับจะมากองวัฒนธรรมไว้ที่ จ.ชัยภูมิ ได้อย่างไร แล้วจังหวัดอื่นในแถบนั้นทำไมจึงไม่มี ตำนานอีกตำนานหนึ่งว่าคนที่มาอาบน้ำเล่นตีลูกบอลไม้ แต่ลูกบอลไม้ก็วิ่งไปอยู่ในกองไฟจนลุกแดง หลังจากนั้นพวกเขาก็เล่นต่อ ต่อกันจนเป็นประเพณีจนถึงปัจจุบัน

เรื่องการตีคลีไฟนี่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน เห็นว่าแปลกดีก็เลยไปตามคำชวน ปีนี้เขา Up ให้ใหญ่ขึ้นมา มีอัฒจันทร์ให้คนดู มีอาหารพื้นเมืองขายและมีแสงสีเสียงให้ฟังให้ดู หลายคนบอกว่ามันดูดีขึ้น แต่อีกหลายคนก็ตำหนิว่าการกระทำแบบนั้นไปทำลายความเป็นท้องถิ่นฉิบหายวายป่วงไปเลย เรื่องนี้ผมขอตัวที่จะไม่คอมเมนต์นะครับ เพราะไม่มีที่ไหนที่ไม่เอาวัฒนธรรมท้องถิ่นดั้งเดิมมาขาย แต่ถ้าจะเอามาขายก็ทำให้ประยุกต์อย่าให้มันเวอร์จนเกินงามก็แล้วกัน

ดูตีคลีไฟแล้วไปมอหินขาว

 

ปีหน้าคงมีอีก แต่ขอเรียนตามตรงว่า ยุงเยอะ...หายเลย อาหารท้องถิ่นที่เอามาขายก็ยังดูไม่ดีเท่าที่ควร (ทั้งๆ ที่เป็นอาหารดีๆ ทั้งนั้น) ไฟก็ขมุกขมัวจนไม่อยากไปซื้อ ฝุ่นก็เยอะจนกล้องเปื้อนไปหมด ไม่ต้องบอกว่าลมหายใจของเราจะเต็มไปด้วยอะไร ที่จอดรถก็ยังไม่เป็นสัดเป็นส่วน การแสดงก็ยังไม่ประทับใจ ยกเว้นการเต้นของเด็กๆ ประถม ปีนี้อาจจะเป็นปีแรกๆ ที่ฝ่ายจัดยังไม่มีโนว์ฮาว ยังไม่ลงตัวว่าคอนเซปต์ของงานเป็นอะไร วันนี้จึงยกประโยชน์ให้จำเลยไปก่อน หวังว่าปีหน้าถ้าผู้ว่าฯ คนนี้ไม่ถูกย้ายไปเสียก่อนก็คงทำให้ดีขึ้นได้

ชอบใจที่เขามีรำวงย้อนยุค สาวๆ ที่มารำก็ไม่ได้ย้อนยุคไปด้วยหรอกครับ สาวๆ ทั้งนั้น รำวงย้อนยุคนี่น่าจะยังขายได้ดีสำหรับงานแบบนี้

ไปมอหินขาวด้วยครับ มอหินขาวนี่ผมเป็นคนเปิดคนแรกในโพสต์ทูเดย์ ท่องเที่ยวนี่แหละครับ สมัยโน้นผู้บริหารมีวิสัยทัศน์ เปิดหน้าท่องเที่ยวใหญ่ ผมก็เลยเล่นเรื่องและรูปได้เต็มที่

ดูตีคลีไฟแล้วไปมอหินขาว

 

มอหินขาวในสายตาผู้ว่าฯ เห็นเป็นของแปลก ท่านจึงส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ในสายตาผมมันก็สวยแปลกและน่าทึ่งจริงๆ รอบๆ บริเวณสมัยก่อนยังรกร้างและเต็มไปด้วยดอกหญ้า ถ่ายเช้ามืดวันนั้นได้ทั้งพระจันทร์และพระอาทิตย์อยู่ด้วยกัน พอหนังสือออกเท่านั้นคนไปเที่ยวกันเป็นหมื่นๆ คน เที่ยวไปด่าไปเพราะข้างบนยังดิบๆ ไม่มีที่ฉี่ที่อึ ตอนหลังๆ มาทางจังหวัดก็เลยขึ้นไปทำห้องน้ำ

ปีนี้ฝนมากครับ หน้าหนาวก็ยังมีฝนตกอยู่ ตกตอนเย็นๆ ผมก็เลยได้ภาพหมอกตอนเช้า แต่ไม่ใช่ได้ที่มอหินขาวนะครับ ได้ที่หน้าผาที่เหนือขึ้นไป ผู้ว่าฯ ขึ้นไปถ่ายภาพเพื่อการประชาสัมพันธ์ด้วย ผมก็เลยได้รูปผู้ว่าฯ แอ็กกับสาวๆ ในท่ามกลางสายหมอกด้วย

ผมไม่มีเนื้อที่มากนักสำหรับโชว์รูป เพราะมีเนื้อที่น้อยนิด

ดูตีคลีไฟแล้วไปมอหินขาว

 

หลังจากไปมอหินขาวแล้วก็บึ่งไปดูเขาผลิตผ้าสีธรรมชาติ กินปลาน้ำชีด้วย อยากจะเรียนว่าปลาน้ำชีนั้นค่อนข้างจะสะอาด เพราะเป็นปลาที่อาศัยอยู่ในน้ำสะอาดจากต้นน้ำแบบเดียวกับปลาน้ำน่าน ปลาน้ำน่านผมถือว่าเป็นปลาที่ดีที่สุดเพราะเป็นปลาน้ำไหล เนื้อปลาจึงแน่นและอร่อยกว่าปลาน้ำอื่นๆ

ไปกินปลาน้ำชีแล้วก็ไปดูรอยเท้าไดโนเสาร์ที่ต้นน้ำด้วย รอยเท้าไดโนเสาร์ที่นี่ไม่ได้อยู่บนเขาสูง แต่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำ การไปดูก็ไม่ยากนัก ไดโนเสาร์อีสานมีเยอะจริง ที่ยังค้นไม่พบก็ยังมีอีกมาก ผมถ่ายรูปเอามาให้ดูด้วย

ไปเที่ยวเมืองชัยภูมิถ้าไม่พูดถึงหม่ำซึ่งผลิตมากจนชัยภูมิเป็นมหาอำนาจแห่งหม่ำก็คงไม่ได้ หม่ำคือเนื้อกับตับเอามาบดและหมักในไส้เนื้อ หมู หรือกระเพาะฉี่ของสัตว์ชนิดนั้นๆ ถ้าไม่เอาตับคือใส่เฉพาะเนื้อเขาเรียกว่าส้ม ส้มเนื้อ ส้มหมู ว่าไปถึงส้มค่างที่พวกอนุรักษ์เอามาขายขู่ให้คนสงสารค่างนั่นแหละครับ

ดูตีคลีไฟแล้วไปมอหินขาว

 

ศาสตร์ของการทำอาหารประเภทนี้ได้มาจากการล่าสัตว์ในป่าทั้งนั้น ล่าได้ก็สับเอามาทำเป็นส้ม เป็นหม่ำ เพื่อการถนอมอาหาร ออกจากป่าก็เอามากินได้เลย บางคนกินสุกด้วยการเอาไปปิ้งหรือทอด แต่บางคนก็กินดิบ 2 วันก็กินได้แล้วครับ ไว้นานไปก็กินได้ แต่มันเปรี้ยว

ไม่แนะนำให้คนที่มีคอเลสเตอรอลสูงกินหม่ำนะครับ เพราะตับอุดมไปด้วยคอเลสเตอรอลมากมายทีเดียว

ในเมืองมีหม่ำขายหลายร้าน ตามอำเภอต่างๆ ก็มีแหล่งผลิตแหล่งขายประจำ บอกไม่ได้ว่าใครอร่อยกว่าใคร เพราะชอบใครชอบมัน รู้แต่ว่าใส่ผงชูรสกันแทบทั้งนั้น ไม่ใส่มันไม่นัว

ใครๆ อาจจะไม่ทราบนะครับว่า จ.ชัยภูมิ นี่เป็นอู่อารยธรรมของทวารวดีทีเดียว การแกะสลักพระพุทธรูปในถ้ำก็มี เสมาหินก็มี หลายแห่งหลายที่ยังไม่ได้ขุดค้น โดยเฉพาะแหล่งลูกปัดและโครงกระดูกโบราณ เผลอๆ อาจจะดีกว่าอู่ทองที่ผู้มีอิทธิพลอำนาจมืดสุพรรณดึงเงินไปสร้างเมืองท่องเที่ยว 4,500 ล้านเสียอีก เมืองชัยภูมินั้นมีแร่โปแตสใหญ่ที่สุดในภาคอีสานนะครับ ถ้าดึงขึ้นมาใช้ได้ ประเทศไทยจะมีปุ๋ยชั้นดีเอาไว้ใช้ทีเดียว แต่ปัญหาก็คือ แร่ใต้ดินเหล่านั้นจะตกไปอยู่ในมือของนักการเมืองหรือนายทุนของนักการเมืองหมด ประชาชนกินแห้วตามเดิม แบบเดียวกับน้ำมันของไทยที่ผลิตได้มาก แต่คนไทยกลับได้ใช้น้ำมันแพง

ดูตีคลีไฟแล้วไปมอหินขาว

 

ใครอยากไปดูบ่อน้ำมันที่ อ.วิเชียรบุรี ก็ขึ้นไปดูได้ที่เทือกเขาแบ่งแดนระหว่าง จ.ลพบุรี ภาคกลาง กับ จ.ชัยภูมิ ภาคอีสาน ไปเห็นแล้วจะตกใจว่าเมืองไทยขุดน้ำมันได้มากมายเพียงนี้เชียวหรือ ผลิตแล้วทำไมคนไทยจึงต้องซื้อน้ำมันแพงกันนักหนา!

ใครสนใจไปเที่ยว จ.ชัยภูมิ ก็ลองโทรไปที่ท่องเที่ยวกีฬาจังหวัดชัยภูมิ สันติ นิลหมื่นไวย เบอร์โทรศัพท์ 084-825-6600 ถ้าลำบากก็โทรไปที่ ททท.โคราชที่เขารับผิดชอบ จ.ชัยภูมิ เบอร์โทรศัพท์ 044-213-666 044-213-030 อีเมล [email protected]

 

ดูตีคลีไฟแล้วไปมอหินขาว

ดูตีคลีไฟแล้วไปมอหินขาว

ดูตีคลีไฟแล้วไปมอหินขาว

ดูตีคลีไฟแล้วไปมอหินขาว

ดูตีคลีไฟแล้วไปมอหินขาว

ดูตีคลีไฟแล้วไปมอหินขาว

ดูตีคลีไฟแล้วไปมอหินขาว