ชูฮับซ่อมเครื่องบิน

บินไทยปรับแผน เพิ่มซ่อมเครื่องบินอาเซียน คาดรายได้พุ่งแตะ 5 หมื่นล้านบาท ภายในปี 2563

ร.อ.มนตรี จำเรียง รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายช่าง บริษัท การบินไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ฝ่ายช่างกำลังปรับแผนธุรกิจใหม่เพื่อสร้างรายได้และกำไรของตัวเอง รองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยจะเน้นหารายได้เองพร้อมกับวางแผนแยกตัวเป็นบริษัทลูกของการบินไทยในอนาคต หลังจากนี้ฝ่ายช่างจะเน้นการให้บริการซ่อมแก่สายการบินอื่นๆนอกจากการบินไทยเพิ่มขึ้น

ปัจจุบัน ฝ่ายช่างมีรายได้ปีละประมาณ 9,000 ล้านบาท ซึ่งมาจากการบินไทย 8,000 ล้านบาท และลูกค้าภายนอก 1,000 ล้านบาท แต่ภายในปี 2563 ตั้งเป้าหมายจะต้องมีรายได้เพิ่มเป็น 5 หมื่นล้านบาท และในจำนวนนี้เป็นรายจากลูกค้าภายนอกสัดส่วนไม่น้อยกว่า 50% จากปัจจุบันที่มีลูกค้ากลุ่มนี้เพียง 10%

ทั้งนี้ ฝ่ายช่างมีแผนปรับปรุงการบริการเป็น 3 ระยะ ระยะละ 10 เดือน รวม 33 โครงการ แผนแรกตั้งแต่เดือน ก.ค. 2556-ธ.ค. 2558 จะเน้นการเชื่อมโยงการทำงานกับทุกหน่วยงานในลานจอดระหว่างสนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง และอู่ตะเภา รวมทั้งการซ่อมใหญ่ อีกทั้งจะแยกระบบบัญชี งบประมาณ เตรียมสู่การเป็นหน่วยธุรกิจในอนาคต และมีแผนจะลงทุนไม่น้อยกว่า 1 หมื่นล้านบาท ในการขยายจุดซ่อม (แฮงก้า) ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

"ต่อไปธุรกิจการซ่อมบำรุงอากาศยาน เครื่องยนต์และอุปกรณ์จะเติบโตมาก เพราะการขยายตัวของสายการบินต้นทุนต่ำที่ใช้เครื่องบินขนาด 200 ที่นั่ง เช่น แอร์บัส เอ 320 หรือโบอิ้ง 737-800 ประกอบกับแนวโน้มเครื่องบินในภูมิภาคอาเซียนบวก 6 คือ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลี ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ จะมีมากถึงครึ่งหนึ่งของจำนวนเที่ยวบินที่มีอยู่ทั่วโลก หรือเกินกว่า 1 หมื่นลำ จากทั้งหมด 2 หมื่นลำ ทำให้มีโอกาสที่จะเพิ่มส่วนแบ่งในตลาดได้" ร.อ.มนตรี กล่าว

ก่อนหน้านี้ ที่ประชุมคณะกรรมการการบินไทยได้มีมติปรับฝ่ายช่างให้เป็นแผนก และได้เริ่มศึกษาเพื่อยกระดับเป็นหน่วยธุรกิจ โดยเฉพาะฝ่ายการฝึกอบรมโดยร่วมกับบริษัทแอร์บัสในการพัฒนาเป็นศูนย์ฝึกอบรมเครื่องบินแอร์บัสในภูมิภาค ซึ่งขั้นตอนขณะนี้ได้จัดทำหลักสูตรเรียบร้อยแล้ว รอการตรวจสอบ และคาดว่า จะมีข้อสรุปภายในกลางปี 2557 โดยจะ ส่งผลให้ฝ่ายช่างของบริษัท การบินไทยขยับเป็นศูนย์การซ่อมบำรุงในภูมิภาคนี้ และมีแผนที่จะขยายไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา ลาว และพม่า