"แอน ธิติมา" รับกดดันสามีอยากมีทายาท หลังโดน "แพรว คณิตกุล" แซวมัวแต่วิ่งมาราธอนจนไม่มีลูก

"ก็ไปหาคุณหมอมาหลายเดือนแล้วแต่ว่ายังไม่ประสบความสำเร็จ คุณหมอบอกว่าถ้าขั้นตอนที่ทำอยู่ไม่ประสบความสำเร็จอีก ก็ต้องไปอีกขั้นตอนหนึ่ง ซึ่งเรารู้สึกว่าเรายังไม่พร้อม สามีก็เลยบอกว่าเดี๋ยวคุยกันอีกที ผ่านขั้นตอนการนับวันมาเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เป็นขั้นตอนทำ IUI คือการฉีดน้ำเชื้ออสุจิเข้าสู่โพรงมดลูกโดยตรง ซึ่งมันก็ต้องมีการควบคุมเรื่องฮอร์โมน เรื่องวันไข่ตก แต่ถ้าขั้นตอนนี้ไม่ได้อีก ก็จะต้องไปทำที่เรียกว่า IVF หรือเด็กหลอดแก้ว ด้วยอายุที่เยอะแล้ว คุณหมอก็บอกว่าถ้ารีบก็ควรจะทำ IVF เลย เพราะว่าด้วยอายุเปอร์เซ็นต์การมีลูกก็อาจจะไม่ได้เยอะมาก ถามว่ากังวลไหม คือตัวเราเองก็ไม่ได้คุ้นเคยกับการเลี้ยงเด็ก แต่พอถึงวัยหนึ่งที่อยากให้มันเป็นครอบครัวจริงๆ ก็คงอยากจะมีลูก แต่ก็พยายามกันมาหลายเดือนแล้วนะ (หัวเราะ) ก็ยังไม่ได้สักที ก็ต้องเพิ่งคุณหมอต่อไป วิธีธรรมชาติเราก็ผ่านมาหมดแล้ว ร่างกายเราทั้งคู่ก็แข็งแรงดี แต่ว่าด้วยความที่อายุเริ่มเยอะ ไข่ก็จะตกน้อยหน่อย ไม่เหมือนวัยรุ่นที่ไข่ผลิตตลอด


(ไปหาหมอบ่อยๆ มีท้อบ้างไหม)จริงๆ เหนื่อยนะ คือไปหาหมอมันต้องหลายขั้นตอน ผู้ชายจะไม่ค่อยเท่าไหร่แค่ไปเก็บเชื้อแล้วก็เสร็จ แต่เราต้องไปตรวจวันตกไข่ ต้องฉีดยา ต้องไปตรวจโพรงมดลูก แล้วต้องทำแบบนี้ทุกเดือน ก็จะแอบเหนื่อยเหมือนกัน ตอนนี้ก็ทำมาเดือนที่ 3 แล้ว ที่ผ่านมากฌไม่เชิงท้อนะ แค่รู้สึกว่าเราไม่ปกติหรือเปล่า กลายเป็นว่ามากังวลเรื่องสุขภาพของตัวเอง เพราะเข้าใจมาตลอดว่าตัวเองเป็นคนแข็งแรง แต่ว่าคุณหมอก็บอกว่ามันเป็นไปตามวัย พอถึงวัยประมาณนี้แล้วมันก็จะมียากเป็นเรื่องปกติ อย่างที่บอกว่าตอนนี้กลายเป็นมากังวลเรื่องสุขภาพตัวเองมากกว่า ไม่ได้ท้อว่าทำไมถึงไม่มีลูก คือแค่รู้สึกว่าเรื่องพวกนี้ถ้ามีเดี๋ยวมีเอง แต่ว่าก็พยายามให้ถึงที่สุดก่อน" แอนกล่าว

เมื่อถามต่อว่าตอนนี้ดูแลตัวเองอย่างไร ซึ่งนักร้องสาวแจงว่า

"ออกกำลังกายค่อนข้างเยอะนะ วิ่งบ่อยๆ แล้วก็พยายามกินพวกวิตามินเสริม เพื่อให้ร่างกายตัวเองแข็งแรงขึ้น (หลายคนแซวว่ามัวแต่วิ่งเลยไม่มีลูกสักที) คุณหมอบอกว่าวิ่งได้นะไม่มีปัญหา ตอนนี้ไข่ยังไม่ติดเลย ถามว่าสามีให้กำลังใจอย่างไรบ้าง ตัวเขาบอกแค่ว่าเดี๋ยวค่อยว่ากัน จริงๆ เป็นเขามากกว่าที่อยากจะมีลูกมาตั้งแต่ไหนแต่ไร แต่เป็นเราสนุกกับการทำงาน สนุกกับการเที่ยว เราก็ผลัดเขามาเรื่อยๆ จนรู้สึกว่ามันอายุเยอะแล้ว เริ่มนับวันมาตั้งแต่ปีที่แล้ว โอเคเราตามใจเขาบ้าง เขาตามใจเรามาเยอะ ตัวเขาเองจะเครียดกว่าเรา เพราะเขาอยากมีลูกมาก ตอนแรกไม่กดดันนะแต่พอโดนถามก็เริ่มกดดันแล้ว ก็กลัวเหมือนกันว่าเรามาคิดช้าไป อายุจะ 40 ปีแล้วเพิ่งคิดอยากมีลูก กลัวอย่างเดียวลูกออกมาจะแข็งแรงหรือเปล่า แล้วเราจะเลี้ยงไหวมั้ย ก็เลยออกกำลังกายเยอะๆ เผื่อให้ร่างกายแข็งแรง ถ้ามีลูกจริงๆ จะได้เลี้ยงลูกไหว ทางครอบครัวแอนไม่กดดันเท่าไหร่ คุณแม่มีหลานแล้ว 1 คน ก็สบายใจแล้ว แต่จะเป็นทางครอบครัวแฟนยังไม่มีหลานกัน เขาก็อยากมีหลานเป็นของตัวเองบ้าง แฟนเราเป็นลูกคนเล็ก แล้วพี่สาวเขาก็ไม่มีลูก เราก็เป็นความหวังนิดหนึ่ง แต่ถ้าไม่มีเขาก็ไม่ได้ว่าอะไร

(ขั้นตอนต่อไปจะทำกิฟท์เลยไหม) สมมติเดือนนี้ไม่ติดคุณหมอแนะนำว่าต้องทำแล้ว ตรงนั้นมันจะหลายขั้นตอนกว่ามากๆ ก็ต้องไปปรึกษาคุณหมออีกที ที่ทำอยู่ทุกวันนี้มันฉีดยาเดือนละครั้ง แต่ถ้าทำกิฟท์มันฉีดยาเกือบทุกวัน แล้วใครจะฉีดให้เรา ทุกวันนี้ก็ต้องฉีดเอง(หัวเราะ) ก็กลัวเหมือนกัน ถามว่าต้องเบรกงานเลยไหม อันนี้ก็ต้องปรึกษาคุณหมอ แต่ถ้าตอนนี้มีลูกก็น่าจะโอเคเพราะมันถึงวัยที่เราพร้อมจะมีครอบครัว คือเราก็เตรียมใจตั้งแต่ไปหาคุณหมอแล้ว ตอนนี้ก็กลัวอยู่ว่าถ้าเดือนหน้าเกิดเราท้องขึ้นมาจะเต้นไม่ไหวแต่ไม่เป็นไรก็ปล่อยให้แพรวเต้นไป" แอนกล่าวปิดท้ายน้ำเสียงขำๆ