เคล็ดลับ! การเลือกซื้อประตูบ้าน เลือกยังไงไม่ให้เสียเงินฟรี ?

Last updated: 5 เม.ย 2565 | 4774 จำนวนผู้เข้าชม |

ขึ้นชื่อว่า ประตูบ้าน ไม่ได้มีเพียงแบบเดียวในโลกแน่ๆ ประตูบ้านถูกผลิตออกมาหลากหลายวัสดุ, หลายบริษัท หลายรูปแบบ ทำให้คนที่ต้องการเลือกซื้อประตูบ้าน ถึงกับเลือกไม่ถูกกันทีเดียว บางคนก็ไม่สะดวกไปถึงหน้าร้านค้า ก็ยิ่งตัดสินใจยากขึ้นว่าจะต้องเลือกซื้ออย่างไร และยิ่งไม่มีความรู้เรื่องประตู ยิ่งทำให้ตัดสินใจยากเข้าไปใหญ่ แล้วต้องเลือกซื้อแบบไหนดีล่ะ? ถึงจะตอบโจทย์ของคนที่ต้องการซื้อประตูบ้าน การเลือกซื้อประตูบ้านจะง่ายขึ้น เมื่ออ่านคำแนะนำในบทความนี้

1. พิจารณาตำแหน่งที่เราต้องการติดตั้งประตูบ้าน

ว่าอยู่ในส่วนใดของบ้าน เป็นบริเวณภายนอกหรือภายในตัวบ้าน เพื่อจะได้เลือกซื้อประตูได้ถูกต้อง และทนทานต่อการใช้งาน

1.1 ถ้าต้องการติดตั้งประตูบ้านภายนอก เราควรเลือกชนิดไม้ที่มีความสามารถในการทนแดด ทนฝน และสภาพอากาศได้ดีระดับนึง เช่น ประตูไม้สัก หรือจะเป็น ประตูลูกฟัก LeoDoor ของทางลีโอวูด

1.2 ถ้าต้องการติดตั้งประตูบ้านภายใน (ที่ไม่ใช่พื้นที่เปียก เช่น ห้องน้ำ) เราสามารถเลือกใช้ได้ตามต้องการ เช่น ประตูไม้HDF ประตูไม้เมลามีน ของทางลีโอวูด

2. คำนึงถึงการใช้งานและสภาพแวดล้อมในแต่ละพื้นที่

ว่าเราจะใช้งานยังไง จะได้เลือกซื้อประตูบ้านให้เหมาะสมมากที่สุด โดยสามารถเลือกใช้งานจากวัสดุประตู จนไปถึงรูปแบบของตัวประตู ดังนี้

2.1 ประตูไม้จะแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ ประตูไม้จริง และประตูไม้ที่มีการผสมวัสดุต่างๆเข้าไป ประตูไม้จริง เช่น ไม้สัก ไม้แดง ก็จะมีความทนทานพอสมควร แต่เนื่องจากเป็นไม้จริงอาจต้องดูแลรักษาพอสมควร ส่วนแบบที่ 2 คือ ประตูไม้ที่มีการผสม เช่น ประตูไม้เมลามีน ประตูไม้HDF ที่มีการผสมผงไม้เข้าไปรวมกับสารบางชนิด เพื่อให้ได้ประตูที่มีราคาถูกขึ้น หรืออาจจะมีความทนมากขึ้น ดูแลรักษาง่ายขึ้นมาหน่อย

2.2 การใช้งานตามสภาพแวดล้อม เช่น ถ้าต้องการได้ห้องที่ปิดแบบมิดชิด หรือเก็บเสียงเล็กน้อย ก็อาจจะใช้แบบบานทึบเต็มบาน แต่ถ้าต้องการห้องที่มีความสว่าง ก็อาจจะต้องเป็นบานที่มีกระจก ช่วยเสริมรับกับหน้าต่าง ส่วนประตูห้องน้ำนั้น แนะนำประตู เป็นพวก PVC หรือ UPVC จะไม่มีส่วนผสมของไม้ จะใช้งานดีกับพื้นที่ที่มีความชื้นสูงมากกว่า

3. การเลือกขนาดของประตูที่ต้องการใช้งาน

ถ้ามีการติดวงกบไว้แล้ว หรือวงกบเดิมที่มีอยู่สภาพสมบูรณ์พร้อมรับน้ำหนักประตู ก็สามารถซื้อเฉพาะบานประตูได้เลย โดยต้องเลือกขนาดให้พอดีกับช่องว่างของวงกบ แต่ถ้าหากยังไม่ได้ทำการติดตั้งวงกบ เราสามารถกำหนดความกว้าง ความสูง ความหนาของบานประตูตามความต้องการได้เลย การเลือกขนาดของประตูบ้าน แนะนำให้ใช้ตลับเมตรหรือเครื่องมือในการวัดค่าให้ตรงพอดีที่จะติดตั้ง ไม่แนะนำให้ใช้การประมาณในตัวเลข เพราะเนื่องจากถ้าซื้อมาไม่พอดี จะต้องมีการปรับแต่งประตูซึ่งอาจทำให้โครงสร้างของประตูเกิดความเสียหายได้ และโดยทั่วไปประตูจะผลิตออกมาเป็นขนาดมาตรฐาน 80x200 ซม. และ 90x200 ซม. ในบางร้านจะไม่รับผลิตประตูขนาดพิเศษ ส่วนนี้ต้องถามกับทางร้านที่สั่งซื้ออีกที

4. เลือกลวดลายหรือแบบตามที่ต้องการ

แน่นอนว่าในตลาดทุกวันนี้ มีให้เลือกลากสีสัน หลายรูปแบบ ตรงนี้ต้องถามใจตัวเองเลยว่าต้องการลวดลาย หรือรูปแบบไหน การเลือกขึ้นกับความชอบ และรสนิยมส่วนตัวล้วน ๆ แต่ถ้าตัดสินใจเลือกไม่ได้ให้เลือกประตูตามความเหมาะสมกับสไตล์บ้าน หรือสไตล์ของห้องที่ต้องการติดตั้งประตูแทน เพราะจ่ายเงินทั้งทีต้องได้แบบที่ถูกใจที่สุด

5. เลือกวงกบให้เหมาะสมกับประตูที่ใช้

เพราะวงกบ คือ กรอบของประตูที่ติดกับผนังบ้าน ซึ่งจะต้องมีความแข็งแรงเนื่องจากต้องเป็นตัวรับน้ำหนักของประตูทั้งบาน อีกทั้งต้องไม่บิดโก่ง เพื่อให้เปิดใช้งานได้สะดวกและปิดได้แนบสนิท โดยวัสดุที่ใช้ทำวงกบมีหลายชนิดด้วยกัน เช่น ไม้เนื้อแข็ง อะลูมิเนียม PVC เป็นต้น โดยการเลือกใช้งานนั้นขึ้นอยู่กับการตกแต่ง และประตูที่เราเลือกใช้เพื่อให้มีความเข้ากันกับสไตล์ของบ้านและประตูบ้าน วงกบไม้ลีโอวูด มีอยู่ 2 ประเภท ได้แก่ วงกบไม้จริงและวงกบไม้สังเคราะห์ ดูเพิ่มเติม...(“เรื่องน่ารู้วงกบประตูไม้”)

6. เลือกอุปกรณ์ติดตั้งประตู ลูกบิด บานพับ

ถึงจะเป็นเพียงส่วนประกอบเล็ก ๆ แต่ก็มีความสำคัญและช่วยให้ประตูบ้านมีความสมบูรณ์มากขึ้น แน่นอนว่ามีหลากหลายวัสดุและหลายเกรดมาก ถ้าเลือกวัสดุไม่ดี ก็อาจเกิดสนิม หรืออาจจะถูกงัดออกได้ง่าย ๆ เลย ส่วนในเรื่องของรูปแบบลูกบิดถูกผลิตมาทั้งแบบก้านโยก แบบหัวกลม และแบบดิจิตอล อันนี้ก็ขึ้นกับความชอบและการติดตั้งของแต่ละบ้านด้วย ถ้าให้แนะนำในการติดตั้งประตู ก็ขอเป็นลูกบิดที่กันสนิม เป็นแสตนเลสเกรดพรีเมี่ยม เพื่อการใช้งานในระยะยาว ส่วนเรื่องของบานพับก็เช่นเดียวกัน วัสดุจะต้องแข็งแรงและมีคุณภาพ เนื่องจากตัวบานพับจะต้องเป็นตัวยึด และรองรับน้ำหนักของตัวประตู ถ้าวัสดุไม่มีคุณภาพพอ ก็อาจทำให้ประตูหลุด และเป็นอันตรายต่อคนในบ้านหรือผู้พักอาศัยได้

7. คำนวนงบประมาณที่เหมาะสม

หลังจากที่ทุกคนได้ทำการศึกษาข้อมูล และหาประตูบ้านในแบบที่ถูกใจ และเหมาะสมกับการใช้งานแล้ว ต่อมาก็ต้องดูว่าอยู่ในงบประมาณที่พอเหมาะ หรือที่เรารับไหวไหม งบประมาณก็เป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญในการเลือกซื้อประตูไม้เพราะงบประมาณจะเป็นตัวกำหนดว่า จะสามารถซื้อประตูที่มีคุณภาพที่มากน้อยแค่ไหน อาจจะเปลี่ยนเทียบในประตูไม้ประเภทเดียวกันจากหลาย ๆ ร้าน ดูจากรีวิวหรือคำแนะนำของทางร้าน ถ้าเพิ่มงบประมาณเพียงเล็กน้อยที่เรารับไหว แล้วได้ของดีกว่า ก็แนะนำว่าควรซื้อแบบที่ดีไปเลย เพราะการลงทุนครั้งเดียว จะดีต่อความปลอดภัยของคุณเอง และการใช้งานในระยะยาว

8. ตรวจเช็คความเรียบร้อยของประตูที่สั่งซื้อ

เมื่อได้รับประตูเรียบร้อยแล้ว ทุกคนควรตรวจเช็คความเรียบร้อย หรือตำหนิของประตู ทั้งแบบที่เราเลือกไว้ สี ร่องรอยถลอกรอบบาน และความโก่งหรือเบี้ยวของประตู โดยอาจจะวางระนาบกับพื้นและดูว่าประตูแนบสนิทไปกับพื้นหรือไม่ แต่หากว่าเราทำการสั่งซื้อประตูมาแล้ว ยังไม่ได้ติดตั้งทันที ก็ต้องเก็บให้ถูกวิธีเพื่อไม่ให้ประตูที่เราซื้อมาเสียหายก่อนได้ใช้งานจริง ดูเพิ่มเติม..(“รู้หรือไม่ว่า..การจัดเก็บประตูไม้และวงกบไม้ที่ถูกต้องมีวิธีการอย่างไร..? ”)

การเลือกซื้อประตูสักบานไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ไม่ควรที่จะละเลยในรายในรายละเอียดในการสั่งซื้อ เพราะจะทำให้เราได้ของที่มีคุณภาพ เหมาะสมกับการใช้งาน และยังทำให้ไม่ต้องเสียเงินในกระเป๋าโดยเสียเปล่า ซื้อทั้งที่ควรซื้อสินค้าที่ดี และมีคุณภาพ กับบริษัทที่การรันตีได้ว่าคุณจะไม่ผิดหวังกับสินค้า

ลีโอวูดขอแนะนำประตูภายใน ประตูไม้เมลามีนคุณภาพสูง ประตูปิดผิวด้วยเมลามีน ผิวหน้าแข็งแรง ลายไม้มีสีสันสวยงาม รุ่น Series 4 และ Series 6 มีลายเซาะร่องอย่างประณีต ไม่ต้องทำสีเพิ่มเติม พร้อมใช้งาน ประตูแข็งแรง ผลิตมาจากโครงไม้จริง เหมาะสำหรับใช้กับห้องต่าง ๆ ภายในบ้าน ยกเว้นการใช้เป็นประตูห้องน้ำ