ข่าว

เพิ่มทางเลือกขายไข่"ชั่งกิโล"ผู้เลี้ยงเชียร์-"แม่ค้า-ผู้ซื้อ"ยังลังเล

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

การประกาศนโยบายปฏิรูปประเทศไทยโดยนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมานั้น หนึ่งในของขวัญ 9 ข้อของรัฐบาลคือการดูแลค่าครองชีพของประชาชน ซึ่งจะประเดิมด้วยการปรับระบบการค้าไข่ไก่ จากเดิมที่เราคุ้นเคยการซื้อขายไข่ไก่แบบคัดเบอร์ ราคาจะแตกต่างกันไปตามขนาด

กรมการค้าภายใน รับลูกนโยบายดังกล่าวทันทีโดยเริ่มจากการบรรจุไข่ไก่เข้าไปอยู่ในบัญชีรายการสินค้าและบริการควบคุมของกระทรวงพาณิชย์ ทั้งขอความร่วมมือกับตลาดสดในเขตกรุงเทพมหานครรวม 30 แห่ง เพิ่มทางเลือกการขายไข่ไก่เป็นแบบชั่งกิโลขาย เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไป เบื้องต้นกำหนดราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มที่กิโลกรัมละ 45 บาท และจะทำให้ราคาขายปลีกอยู่ที่กิโลกรัมละ 50-53 บาท

 พาณิชย์เดินหน้าขายไข่ "ชั่งกิโล"

 นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า จากการศึกษาพบว่าการซื้อไข่ไก่เป็นกิโลกรัมจะทำให้ประชาชนประหยัดค่าใช้จ่ายลงฟองละ 10-20 สตางค์ หรือประหยัดไปได้กิโลกรัมละ 2-3 บาท โดยไข่ไก่เป็นโปรตีนที่มีราคาถูกมากกว่าเมื่อเทียบกับเนื้อหมูหรือเนื้อไก่ ทำให้เชื่อว่าการขายไข่ไก่เป็นกิโลกรัมจะส่งเสริมให้คนบริโภคไข่ไก่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังพบว่ามีปัญหาอยู่บ้างโดยเฉพาะการขนส่งจากฟาร์มมาสู่ผู้ค้ารายย่อย ดังนั้น จึงกำหนดให้เป็นการทดลองจำหน่ายก่อน 3 เดือน จากนั้นจะประเมินข้อดีเสีย หรือดูว่าจะต้องปรับปรุงส่วนใดบ้าง

 “การขายไข่ไก่เป็นกิโลกรัมถือเป็นทางเลือกที่เพิ่มขึ้น กรมไม่ได้บังคับว่าทุกร้านจะต้องขายแบบชั่งกิโล ส่วนกรณีที่เกรงว่าผู้ซื้อจะเสียเปรียบก็ไม่น่าเกิดขึ้น เพราะการขายไข่คละเป็นกิโลกรัม แม่ค้าจะเปิดโอกาสให้ผู้ซื้อเลือกซื้อเองได้ หากใครเลือกเฉพาะใบใหญ่ก็จะได้ไข่จำนวนน้อยฟองกว่าเลือกเฉพาะฟองขนาดเล็ก" นางวัชรีกล่าวและว่า

 ส่วนของผู้ค้าเองอาจจะต้องมีภาระเพิ่มขึ้น โดยต้องหาซื้อเครื่องชั่งมาใช้ แต่เพื่อไม่ให้เป็นภาระของพ่อค้าแม่ค้าที่เข้าร่วมโครงการ กรมจะประสานไปยังผู้จัดการตลาดสดที่เข้าร่วมโครงการจัดหาเครื่องชั่งระบบดิจิทัลอย่างน้อย 1 เครื่อง เพื่อแก้ปัญหาการขายแบบไม่เต็มกิโลกรัมได้ เนื่องจากเครื่องชั่งสามารถอ่านค่าน้ำหนักออกมาเป็นจำนวนเงินได้ทันที จะทำให้เกิดความผิดพลาดในการคำนวณราคาขายต่อน้ำหนักน้อยที่สุด และยังช่วยป้องกันปัญหาเรื่องการปัดเศษสตางค์ในการซื้อไข่ไก่หากไม่เต็มกิโลกรัม

 นางวัชรีกล่าวด้วยว่า ยังได้สั่งการให้กองส่งเสริมและพัฒนาระบบตลาดจัดทำแนวทางปฏิบัติเพื่อจ่ายแจกไปยังพ่อค้าแม่ค้าตามตลาดสดต่างๆ เพื่อให้ปฏิบัติให้ตรงกัน ประกอบด้วย 1.ชี้แจงให้ทราบว่าการขายไข่ไก่เป็นกิโลกรัมเป็นทางเลือกเท่านั้น หากพ่อค้าแม่ค้ารายใดสนใจ กรมจะทำหน้าที่เชื่อมโยงตลาดไข่ไก่คละจากฟาร์มมายังร้านค้าให้ เพื่อตัดวงจรพ่อค้าคนกลางและลดค่าใช้จ่ายในการคัดขนาดลง และ 2.การชั่งไข่ไก่ขายมี 2 แนวทาง คือ 2.1 การชั่งและบรรจุถุงขาย เป็นขนาดครึ่งกิโลกรัม หรือ 1 กิโลกรัม เป็นต้น และ 2.2 เปิดโอกาสให้ผู้ซื้อเลือกเองก่อนนำมาชั่งกิโลขาย

 นอกจากนี้ ยังได้เตรียมแผนประชาสัมพันธ์ เช่น การจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนรับทราบว่าตลาดใดมีการจำหน่ายไข่ไก่เป็นกิโลกรัมบ้าง และการโฆษณาผ่านสื่อต่างๆ ตลอดจนสนับสนุนถุงพลาสติกบรรจุสินค้าให้พ่อค้าแม่ค้าไข่ไก่ที่เข้าร่วมโครงการ

 กลุ่มผู้เลี้ยงไก่ไข่สนับสนุนสุดตัว

 ทั้งนี้ จากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในกลุ่มต่างๆ พบว่ามีความคิดค่อนข้างหลากหลาย ทั้งสนับสนุนและไม่เห็นด้วย โดยตั้งข้อสังเกตว่าการแก้ปัญหาดังกล่าวนี้เป็นแค่ปลายเหตุเท่านั้น

 โดยกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่นั้นส่วนใหญ่สนับสนุนแนวคิดนี้เต็มที่ โดยนาย มาโนช ชูทับทิม นายกสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ กล่าวว่า การขายไข่ไก่เป็นกิโลกรัมนับเป็นทางเลือกหนึ่งให้แก่ผู้บริโภคได้ซื้อไข่ไก่ในราคาที่ถูกลงกว่าซื้อไข่ไก่แบบคัดเบอร์ แต่อาจจะยังไม่เป็นที่นิยมของผู้บริโภคนัก นั่นอาจเป็นเพราะผู้บริโภคยังไม่คุ้นเคยกับการซื้อไข่แบบชั่งกิโล แต่เชื่อว่าสังคมน่าจะยอมรับได้เพราะอย่างน้อยเป็นการช่วยลดค่าใช้จ่ายแก่ผู้บริโภคได้ทางหนึ่ง ส่วนที่จะยอมรับกันได้มากน้อยแค่ไหนคงต้องใช้เวลาระยะหนึ่งก่อน จากนั้นค่อยมาประเมินกัน

 อย่างไรก็ตาม การขายไข่ไก่แบบชั่งกิโลกรัมได้ตอบโจทย์วงจรปัญหาไข่ไก่ล้นตลาด หรือขาดตลาดที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปีได้หรือไม่นั้น นายมาโนชกล่าวว่า ยังไม่ตอบโจทย์ปัญหาเดิมๆ ซึ่งคงต้องรอให้รัฐบาลคอยแก้ปัญหาเฉพาะหน้ากันต่อไป หรือเป็นคราวๆ ไป เช่นหากเกิดกรณีไข่ล้นตลาด ก็ต้องพยายามรณรงค์การบริโภคไข่ไก่ให้มากขึ้น สนับสนุนไข่ไก่โรงเรียน ตลอดจนการลดต้นทุนด้านอาหารสัตว์ให้แก่เกษตรกร

 ส่วนสถานการณ์ไข่ไก่ในช่วงครึ่งปีแรกนี้น่าจะยังไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งการนำเข้าพ่อแม่พันธุ์ไก่ไข่ที่เพิ่มนำเข้ามาเมื่อช่วงปลายปีก่อนนั้น ยังต้องใช้เวลา คาดว่าจะเริ่มเห็นผลผลิตในช่วงครึ่งปีหลังนี้

 ด้านนายอาทร ช่วยณรงค์ ประธานสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า การขายไข่แบบกิโลกรัมถือเป็นทางเลือกที่ดีให้แก่ผู้บริโภค โดยการขายไข่ไก่แบบชั่งกิโลจะทำให้มีราคาถูกกว่าไข่คัดเบอร์ เพราะไม่ต้องเสียค่าการคัดขนาดของไข่ไก่ก่อน ซึ่งสามารถลดต้นทุนไปได้ฟองละ 10-20 สตางค์ ในช่วงแรกนี้ผู้บริโภคอาจจะยังไม่เข้าใจ แต่ก็น่าจะค่อยเป็นค่อยไปโดยให้ไข่คัดเบอร์ยังเป็นทางเลือกกับผู้บริโภคต่อไปด้วย

 "ยอมรับว่าเรื่องนี้ยังไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาเรื่องไข่ไก่ล้นตลาด แต่เป็นการตอบโจทย์เรื่องไข่มีราคาแพง แต่หากไข่ล้นตลาดและมีราคาถูกลงผู้ซื้อก็จะได้ซื้อไข่แบบชั่งกิโลในราคาที่ถูกลงด้วย นอกจากนี้ ยังเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรรายเล็กให้สามารถเพิ่มโอกาสการจำหน่ายไข่ไก่ด้วยตัวเองได้ คือสามารถนำไข่ไก่ออกไปจำหน่ายได้เอง" นายอาทรกล่าวและว่า ตนยังได้เสนอให้เพิ่มจุดจำหน่ายไข่ไก่แบบชั่งกิโลกรัมจากที่กำหนดในเขตกรุงเทพฯ ก็อยากให้กลุ่มจังหวัดที่มีสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ 4 จังหวัดเริ่มโครงการเดียวกันนี้ด้วย คือที่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี อ่างทอง และเชียงใหม่-ลำพูน

 นายอาทรกล่าวด้วยว่า สถานการณ์ไข่ไก่ขณะนี้พ่อแม่พันธุ์ยังคงขาดแคลน ซึ่งก็แก้ปัญหาด้วยการยืดอายุไก่ยืนกรง แต่ไก่ที่มีอายุมากขึ้นผลผลิตก็มีน้อยลงไปด้วย ขณะที่ราคาอาหารสัตว์ซึ่งเป็นต้นทุนหลักปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ต้นทุนการผลิตไก่ในปัจจุบันถือว่าสูงขึ้น ส่วนการเปิดเสรีนำเข้าพ่อแม่พันธุ์ไก่ไข่นั้น กว่าผลผลิตไข่ไก่ที่ออกมาน่าจะเป็นช่วงครึ่งปีหลังไปแล้ว และน่าจะมีมากในช่วงเดือนตุลาคมซึ่งเป็นช่วงปิดเทอมและเทศกาลกินเจ

 แม่ค้า-ผู้บริโภคไม่แน่ใจ ”ดีจริง”

 ขณะที่ความคิดเห็นจากแม่ค้าขายไข่ไก่รายหนึ่งระบุว่า ตนยังไม่ได้ทดลองขายไข่ไก่แบบกิโลกรัมตามนโยบายส่งเสริมของทางการ แต่คิดว่าการขายไข่ไก่แบบคละเบอร์นั้นจะทำให้เกิดความไม่สะดวกนัก และขณะนี้ก็ยังไม่มีเครื่องชั่งกิโลด้วย

 นอกจากนี้ หากเจอกรณีลูกค้าช่างเลือก หากเลือกไข่มากจนทำให้ไข่บุบหรือแตก ก็จะทำให้เสียหายกลายเป็นปัญหาอีก หรือกรณีเป็นไข่เก่า ซึ่งจะทำให้ไข่มีน้ำหนักเบาลงกว่าเดิมอีกจะทำให้อาจกลายเป็นภาระกับผู้ขายเพิ่มขึ้นได้ ส่วนกรณีจะให้ผู้ขายไข่ไก่ไปรับไข่ไก่ที่ฟาร์มไก่ไข่เองเพื่อลดต้นทุนพ่อค้าคนกลางคน ก็คงไม่สะดวกเช่นกัน

 ด้านความคิดเห็นจากฝั่งผู้บริโภคนั้น คนส่วนใหญ่สนับสนุนการซื้อขายไข่ไก่แบบคัดเบอร์ ซึ่งจะมีความสะดวกมากกว่า และนิยมซื้อขายแบบคัดเบอร์ได้ตามคุณภาพที่ต้องการมากกว่ามาเสียเวลาในการเลือกไข่แต่ละฟองเพื่อชั่งกิโลขาย ทั้งเห็นว่ารัฐบาลน่าจะนำเวลาไปแก้ปัญหาอื่นๆ ที่เป็นปัญหาหนักกว่าเรื่องการชั่งกิโลขายไข่ไก่

 “ไม่เอาไข่ชั่งกิโล เอาแบบเดิมดีกว่า ไม่เคยเห็นบ้านเมืองไหนชั่งไข่ขาย อีกหน่อยก็ต้องกลับมาแยกราคาตามขนาดอีก ไปแก้ปัญหาอื่นดีกว่าไหม” ผู้บริโภครายหนึ่งกล่าว

 ขณะที่อีกรายเห็นว่า การไม่ต้องคัดขนาดไข่ไก่ทำให้ต้นทุนไข่ถูกลงจริง แต่หากการชั่งกิโลกรัมขายไข่ไก่ทำให้เกิดปัญหามาก จะใช้วิธีการขายแบบเดิมก็ไม่น่าจะเป็นปัญหา อย่างไรก็ตามมองว่ากระทรวงพาณิชย์ควรจะไปแก้ปัญหาหลักมากกว่าคือต้องไม่ปล่อยให้มีการผูกขาดของบริษัทขนาดใหญ่ เพราะนั่นคือต้นตอของปัญหาวงจรไข่ที่เกิดขึ้นตลอด เป็นเพราะบริษัทขนาดใหญ่ผู้ขาดทั้งพันธุ์ไก่และอาหารสัตว์

 อีกความคิดเห็นที่น่าสนใจคือ กรณีประเด็นปัญหาต่อเนื่องไปยังอาหารสำเร็จรูปที่ใช้ไข่ไก่เป็นส่วนผสม และข้าวราดแกง ไข่ดาว จะคิดราคากันอย่างไร

ถึงจะเรียกว่ายุติธรรมสำหรับผู้บริโภคอย่างแท้จริง

 ส่วนอีกรายมีความเป็นห่วงเกี่ยวกับตาชั่งที่ไม่ค่อยเที่ยงตรง และในมุมมองของผู้บริโภคมีความมั่นใจในการซื้อขายแบบคัดแยกขนาดมากกว่า เพราะสามารถเลือกได้ในส่วนของราคาและคุณภาพที่ต้องการ โดยมองว่าการซื้อแบบคละขนาดใหญ่บ้างเล็กบ้างแต่ก็ต้องถือว่าจ่ายในราคาเท่ากัน หากคนที่ซื้อไข่ฟองเล็กเพราะราคาถูกกว่าก็เป็นไปตามเศรษฐกิจของตัวเอง ไม่ต้องมาซื้อไข่ฟองใหญ่ที่มีราคาแพงกว่าไปด้วย

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ