ข่าวปลอม!!! ไปรษณีย์ไทย ส่งลิงก์ให้ดาวน์โหลดแอปฯ EMS Central เพื่อนำคะแนนมาแลกซื้อสินค้าในราคาพิเศษ อย่าเชื่อ อย่าแชร์

วันที่ 16 ส.ค. 64 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันจากศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ตรวจพบข่าวปลอมเพิ่มเติม 1 กรณีคือ

ไปรษณีย์ไทย ส่งลิงก์ให้ดาวน์โหลดแอปฯ EMS Central เพื่อนำคะแนนมาแลกซื้อสินค้าในราคาพิเศษ นั้น ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด แล้ว ยืนยันว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

กรณีการส่งต่อลิงก์โดยแจ้งว่าไปรษณีย์ไทยได้เปิดตัวแอปพลิเคชันใหม่ ให้ลูกค้าเริ่มโหลดแอปพลิเคชันในวันที่ 1 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา และจะมีพนักงานแผนกพิเศษโทรหาให้ลูกค้าให้ใช้สิทธิ์ของตนก่อนหมดอายุ และสอนวิธีการติดตั้ง พร้อมวิธีการแลกซื้อสินค้าต่างๆ ผ่านทางแอปพลิเคชัน EMS Central ได้ตลอด 24 ชั่วโมงนั้น ทางบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ได้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวและยืนยันว่าเป็นข่าวปลอม

สำหรับระบบสมาชิกไปรษณีย์ไทยมีเพียงระบบเดียวเท่านั้น ภายใต้ชื่อ POST Family เพื่อให้สมาชิกสามารถสะสมคะแนนจากยอดใช้บริการส่งของทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ และรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่ให้เฉพาะสมาชิก โดยมีการเปิดรับสมัครสมาชิกและเข้าสู่ระบบเพื่อเช็กยอดและวันหมดอายุของคะแนนสะสมได้ผ่านทางเว็บไซต์ https://postfamily.thailandpost.com และ Line@Thailandpost เท่านั้นโดยไม่มีการเปิดรับสมาชิกฯ ทางช่องทางอื่นแต่อย่างใด จึงขอแจ้งเตือนผู้ใช้บริการอย่าหลงเชื่อข้อความดังกล่าวนี้ เนื่องจากจะถูกหลอกให้กรอกข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้บริการ และนำข้อมูลที่ได้ไปกระทำให้ได้รับความเสียหาย ทั้งนี้ ไปรษณีย์ไทยจะดำเนินการแจ้งความเอาผิดกับผู้สร้างข่าวปลอมให้ถึงที่สุด

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจาก บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.thailandpost.co.th เพจเฟซบุ๊ก บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ไลน์ออฟฟิเชียล @Thailand Post หรือโทร. 1545

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : แอปพลิเคชัน EMS Central ไม่ใช่ของไปรษณีย์ไทย โดยระบบสมาชิกไปรษณีย์ไทยจะใช้ชื่อ POST Family ซึ่งมีเพียงระบบเดียวเท่านั้น

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2),(5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป
ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบข้อมูลการกระทำผิด สามารถแจ้งเบาะแสข่าวผ่าน
5 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com, เฟซบุ๊ก ANTI-FAKE NEWS CENTER, ทวิตเตอร์ @AFNCThailand, ไลน์ @antifakenewscenter, ช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 และสายด่วน 1599 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ”

ร่วมแสดงความคิดเห็น