ข้อแนะนำเปลี่ยนพื้นบ้านใหม่
เปลี่ยนพื้นบ้านใหม่ ต้องพิจารณาอะไรบ้าง
โดยทั่วไปเปลี่ยนพื้นใหม่จะเกิดจากพื้นเดิมมีการชำรุด เสียหาย ต้องการซ่อมพื้น หรือเบื่อพื้นเดิมอยากเปลี่ยนเป็นพื้นลายใหม่ให้ห้องดูสว่าง สวยงามเข้ากับ furniture ชุดใหม่
ลองมาดูกันว่าถ้าเปลี่ยนพื้นเดิมมาเป็นพื้น SPC เราต้องดูอะไรกันบ้าง
1. เริ่มต้นจากการดูประเภทพื้นเดิม ปูพื้นประเภทไหน พื้นลามิเนต พื้นปาร์เก้ พื้นกระเบื้อง พื้นหินอ่อน พื้นกระเบื้องยาง เพราะความหนาของพื้นเดิมแต่ละประเภทจะหนาไม่เท่ากัน โดยทั่วไป
- พื้นลามิเนต จะมี 2 ความหนา 8มม และ 12มม
- พื้นปาร์เก้ หนาประมาณ 1-2ซม,
- พื้นกระเบื้อง หนาประมาณ 6มม.
- พื้นหินอ่อน หนาประมาณ 1-2ซม
- พื้นกระเบื้องยางรุ่นติดกาว หนา 2-3มม
ความหนาของพื้นแต่ละประเภทจะมีผลต่อการปูพื้น SPC หากมีการรื้อและปูใหม่ แต่ถ้ากรณีปูพื้นไม้ทับกระเบื้องเดิม สามารถปูทับได้เลย ไม่ต้องสนใจความหนา
2. กรณีไหนปูพื้นทับกระเบื้องเดิมได้ กรณีไหนปูพื้นทับกระเบื้องเดิมไม่ได้ กรณีที่พื้นเดิมมีสภาพไม่ชำรุด ไม่บวมขึ้นมา หรือสามารถแก้ไขส่วนที่ชำรุดบางจุดได้ก่อน (สำหรับกระเบื้อง) กรณีนี้สามารถปูทับได้เลย แต่ถ้าหากมีความเสียหายเป็นวงกว้าง แนะนำให้รื้อแล้วปูใหม่จะดีกว่า
3. กรณีรื้อแล้วปูใหม่ สามารถติดตั้งให้เสร้จภายใน 1 วันหรือไม่ ถ้าหากพื้นเดิมเป็นพื้นลามิเนต โดยส่วนมากจะสามารถติดตั้งให้แล้วเสร็จภายใน 1 วัน หากพื้นที่ไม่เกิน 50 ตรม. ยกเว้นพื้นปูนเดิมมีสภาพแย่มาก จำเป็นต้องปรับพื้นก่อน สำหรับพื้นประเภทอื่น ๆ โดยส่วนมากจำเป็นต้องปรับพื้นก่อนติดตั้งใหม่ เนื่องจากสภาพพื้นเดิมจะไม่ได้ระดับเพียงพอในการติดตั้งพื้น SPC
4. นอกจากระยะเวลาในการติดตั้งแล้ว ระยะความหนาของพื้นเดิม จะมีผลต่อระยะของบัวเดิมที่อาจจะต้องลดระยะลงมาตามความหนาพื้น และช่องว่างด้านล่างของประตูเปิดปิด
5. ความสูงของบัวเดิมและบัวใหม่ บัวสำหรับบ้านแบบเดิม ๆ ส่วนมากจะกว้างประมาณ 4 นิ้ว หรือ 10 ซม. สำหรับมาตรฐานของบัวรุ่นใหม่ ๆ จะสูงแค่ 3 นิ้ว หรือ 7.5 ซม. ซึ่งจะทำให้ตำแหน่งบัวเดิมขยับลงมา อาจจะต้องเก็บงานสีกำแพงเพิ่มเล็กน้อย แต่สิ่งที่ได้มาคือภายในบ้านจะรู้สึกว่าโปร่งขึ้นจากพื้นเดิม
ถ้าต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถแชทผ่าน LINE หรือโทรมาที่ 094-924-1479
