แนะใช้คลองแสนแสบ-ประเวศน์ช่วยระบายน้ำ

แนะใช้คลองแสนแสบ-ประเวศน์ช่วยระบายน้ำ

อดีตที่ปรึกษานายกฯ ด้านบริหารจัดการน้ำ แนะใช้คลองแสนแสบ-ประเวศน์บุรีรมย์ช่วยระบายน้ำ ไม่เห็นด้วยสร้างเขื่อนแม่วงก์

นายอุเทน ชาติภิญโญ อดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ด้านการบริหารจัดการน้ำ ได้โพสข้อความในเฟซบุ๊คถึงสถานการณ์น้ำท่วมในขณะนี้สรุปใจความได้ว่า ตนขอแนะวิธีแก้ปัญหาด้วยการนำน้ำระบายผ่านจากบางประกงเข้ามากทม. ผ่านคลอง2คลองคือ คลองแสนแสบและคลองประเวศน์บุรีรมย์ โดยเปิดประตูระบายน้ำที่ตั้งอยู่กลางคลองทั้ง 2 คือประตูระบายน้ำหนองจอกและประตูประเวศน์ 100% ที่จริงตนเคยเสนอให้ทุบทิ้งทั้ง 2 ประตูเม่ือคราวน้ำท่วมปี54แต่ไม่มีใครกล้าสั่ง ประตูทั้ง 2 นี้กลายเป็นบานกั้นน้ำ ทำให้น้ำไหลลงอุโมงค์สูบน้ำพระราม9 ได้ไม่ดี กทม.ใช้งบสร้างประตูระบายน้ำเป็นอุโมงค์ยักษ์แล้วทำไมไม่กล้าใช้คลองแสนแสบและคลองประเวศน์บุรีรมย์ช่วยระบายน้ำ

ในเมื่อการระบายน้ำจากแม่น้ำปราจีนฯ ไปบางประกงเพื่อลงสู่อ่าวไทยนั้น กายภาพของเส้นทางน้ำตลอดแนวไม่ดีเล็กคดเคี้ยวมาก ไหลไม่สะดวก สิ่งสำคัญในการแก้ปัญหาน้ำท่วมน้ำหลากในกทม.คือ การนำน้ำออกจากแผ่นดินโดยเร็วที่สุด ซึ่งจุดที่จะเอาน้ำออกไปจากแผ่นดินที่สั้นและง่าย เสียค่าใช้จ่ายหรือลงทุนน้อยคือ การนำน้ำออกแถวสุขุมวิทสายเก่า ตั้งแต่สุดแนวกั้นน้ำพระราชดำริ ตั้งแต่บางตำหรุไปตามแนวถนนจนถึงบางปะกงซึ่งเป็นเขตรับผิดชอบของโครงการส่งน้ำหรือบำรุงรักษาน้ำชลหารพิจิตร

นายอุเทน ระบุด้วยว่า ขอยืนยันอีกครั้ง ตนไม่ใช่คนประเภทค้านหรือเห็นต่างกับรัฐบาลไปเสียทุกเรื่อง ตนเห็นด้วยกับการแก้ปัญหาน้ำแล้งหรือน้ำท่วมของรัฐบาลที่ต้องเร่งรีบทำเพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างถาวร แต่ไม่ใช่การแก้แบบที่รัฐบาลทำอยู่ในเวลานี้ เป็นการกระทำแบบตาบอดคลำช้าง การใช้งบที่มากมายเกินความจำเป็นด้วยการเขียนข้อกำหนดของงานอันประหลาดพิศดาร เป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ หากรัฐบาลกล้าถอย กล้าแก้TOR กล้าเปลี่ยนวิธีและรับฟังทุกฝ่ายมากกว่านี้ เชื่อว่าความนิยมจะกลับคืนมา ทั้งนี้ ประเทศไทยยังจำเป็นต้องสร้างเขื่อน และต้องเป็นเขื่อนที่พร้อมผลิตกระแสไฟฟ้าด้วย แต่ต้องพิจารณาดีๆ ว่าสร้างที่ไหนจะเกิดผลกระทบน้อยที่สุดกับสาธารณะสมบัติและสังคม ซึ่งตนไม่เห็นด้วยที่จะสร้่างเขื่อนที่แม่วงก์ ควรย้ายจุดหรือเปลี่ยนวิธีเก็บกักชะลอน้ำน่าจะดีกว่า