สร้างโอกาสจากแมลงท้องถิ่น ‘นอร์ทเทอร์นเชลแลค’ ธุรกิจแปรรูปครั่งแถวหน้าเมืองไทย ต่อยอดธุรกิจสู่สารสกัดจากธรรมชาติ ตอบโจทย์อุตสาหกรรมการผลิตทั่วโลก

ปัจจุบันผู้คนให้ความใส่ใจในเรื่องธรรมชาติมากขึ้น โดยเฉพาะสิ่งที่บริโภคเข้าไปในร่างกาย จึงพยายามหลีกเลี่ยงสารสังเคราะห์ต่างๆ และหันมาสนใจสารจากธรรมชาติอย่างจริงจัง ซึ่งธุรกิจแปรรูปครั่งถือเป็นหนึ่งในธุรกิจที่หลายอุตสาหกรรมการผลิตทั่วโลกใช้เป็นวัตถุดิบ เนื่องจากเป็นสารจากธรรมชาติที่ใช้ประโยชน์มาช้านาน

ครั่ง คือแมลงหรือเพลี้ยชนิดหนึ่ง ที่อาศัยตามกิ่งไม้ต้นจามจุรี ซึ่งมีการเพาะเลี้ยง และใช้ประโยชน์มาช้านานในประเทศไทย อีกทั้งหลายอุตสาหกรรมการผลิตทั่วโลกใช้เป็นวัตถุดิบ ไม่ว่าจะเป็นใช้เป็นสมุนไพร ยารักษาโรคโลหิตจาง โรคลมขัดข้อ

นอกจากนี้ยังนำไปใช้ในอุตสาหกรรมการทำเชลแล็ก, แลกเกอร์, เครื่องใช้, เครื่องประดับต่าง ๆ, ย้อมสีผ้า สีโลหะ ตลอดจนใช้ประทับในการไปรษณีย์ขนส่งหรือตราประทับเอกสารทางราชการ ซึ่งพบมากที่ประเทศอินเดีย และประเทศไทย

สำหรับเมืองไทยพบมากทางภาคเหนือเป็นหลัก โดยจังหวัดลำปางถือว่ามีผลิตผลิตมากถึง 50% ของทั้งประเทศ จนปัจจุบันรัฐบาลได้ส่งเสริมให้เป็นสินค้าเกษตรมูลค่าสูงของจังหวัดลำปาง

ทำให้ คุณอภิชัย สัชฌะไชย กรรมการบริษัท นอร์ทเทอร์นสยาม ซีดแลค จำกัด มองเห็นโอกาสของการประกอบธุรกิจแปรรูปครั่ง สร้างโรงงานผลิตครั่งเม็ด พร้อมต่อยอดธุรกิจสู่อุตสาหกรรมเชลแลค ที่ใช้ในอุตสาหกรรมไม้ อุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมยา และอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง

คุณอภิชัย เล่าถึงความสำเร็จในการเป็นผู้นำในการผลิตครั่งเม็ด (Seedlac) เชลแลค (Shellac) และผลิตภัณฑ์แปรรูปจากครั่งในตลาดโลก เนื่องจากคุณสมบัติของครั่งที่มีหลากหลาย จึงทำให้ครั่งได้รับการรองรับความปลอดภัยจากองค์การอาหารและยา (US Food and Drug Administration : FDA) และองค์การอาหารปลอดภัยของอาหารแห่งยุโรป (European Food Safety Authority : EFSA)

ด้วยประสบการณ์มากกว่า 36 ปี ของบริษัท นอร์ทเทอร์นสยาม ซีดแลค จำกัด ที่มีกำลังการผลิตครั่งเม็ดกว่า 2,000 ตัน และเชลแลคกว่า 400 ตันต่อปี ภายใต้ชื่อแบรนด์ ‘นอร์ทเทอร์นเชลแลค’ (Northern Shellac) ทำให้เติบโตเป็นผู้นำทางด้านการผลิตครั่งเม็ดและเชลแลค 

โดยมีกลุ่มลูกค้าทั้งในสหรัฐอเมริกา แคนาดา ยุโรป ญี่ปุ่น และจีน พร้อมมุ่งเน้นการควบคุมคุณภาพที่ได้มาตรฐานทุกขั้นตอนเพื่อให้ลูกค้าได้รับสินค้าที่มีคุณภาพ 

สำหรับกระบวนการผลิต ‘เชลแลค’ เป็นสารจากธรรมชาติที่ได้จากการแปรรูปสารที่หลั่งออกมาจากตัวครั่ง ซึ่งเป็นการนำครั่งดิบนำมาผ่านกระบวนการบริสุทธิ์ ก่อนนำไปใช้ประโยชน์ที่เรียกว่า ‘เชลแลค’ ส่วนการผลิตครั่งเม็ดหรือซีลแลค เริ่มด้วยการนำครั่งดิบที่ได้จากเกษตรกร มาทำการบดเพื่อให้ได้ขนาดเม็ดที่ต้องการ ล้างทำความสะอาดด้วยน้ำ ตากให้แห้ง และทำความสะอาดอีกครั้ง ก่อนนำมาจำหน่าย

โดยคุณสมบัติพิเศษของเชลแลคแบรนด์ ‘นอร์ทเทอร์นเชลแลค’ คือการยึดเกาะพื้นผิวได้ทุกชนิด มีความมันวาวสูง ดังนั้นจึงนิยมนำมาใช้สำหรับอุตสาหกรรมไม้ เนื่องจากคุณสมบัติพิเศษที่เมื่อละลายในแอลกอฮอล์แล้วจะกลายเป็นสารละลายที่มีความใสและเฉดสีส้มแดงต่างๆ โดยเมื่อทาลงไปบนผิวไม้แล้ว จะสามารถเพิ่มสีสันให้ไม้ดูสวยงาม นอกจากนี้ยังช่วยในการรักษาเนื้อไม้จากน้ำ และสภาวะอากาศเป็นอย่างดี เป็นสารที่นำมาใช้ในการเคลือบรักษาผิวไม้มาเป็นเวลาช้านาน

สำหรับอุตสาหกรรมอาหารและยา เชลแลคถือว่าได้รับรองความปลอดภัยจาก FDA (US Food and Drug Administration) และ EFSA (European Food Safety Authority) ว่าสามารถใช้กับอุตสาหกรรมอาหารและยาได้ เนื่องจากการเคลือบผิวจะช่วยให้ลูกอม หรือช็อกโกแลต นั้นดูมันวาวสวยงามน่ารับประทาน นอกจากนั้นยังทำให้สามารถคงรูปและไม่ละลายติดกัน

ทั้งนี้ เชลแลคยังได้รับการยอมรับว่าเป็นสารเคลือบที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรมยา เนื่องจากสามารถป้องกันความชื้นทำให้เม็ดยาคงสภาพได้นาน ไม่ละลายติดกัน และยังช่วยเพิ่มเวลาการเก็บรักษา อีกทั้งยังสามารถป้องกันรสชาติขมในกรณีเม็ดยาสัมผัสลิ้นอีกด้วย 

คุณอภิชัย ยังบอกอีกว่า ถึงแม้ว่ามีสารเคลือบอื่นไม่ว่าจะเป็นจากธรรมชาติหรือสังเคราะห์ แต่เชลแลคก็ยังได้รับการยอมรับทั่วโลกว่าเป็นสารที่ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุดในอุตสาหกรรมการเคลือบผิวผลไม้ เนื่องจากทำให้ผลไม้ดูมันวาวสวยงามน่ารับประทานแล้ว ผักหรือผลไม้ที่ได้รับการเคลือบเชคแลค ยังสามารถ ฆ่าเชื้อโรคหรือแบคทีเรียที่ยังอาจตกข้างที่พื้นผิวของผลไม้ที่เคลือบ ส่งผลให้ผลไม้นั้นเก็บได้นานขึ้น

สำหรับกระบวนการผลิตเชลแลค บริษัท นอร์ทเทอร์นสยาม ซีดแลค จำกัดนั้นไม่ได้ใช้ตัวครั่ง แต่ใช้ตัวรังของครั่งในการนำมาสกัดเป็นเชลแลค ซึ่งคุณอภิชัย ย้ำว่าไม่ต้องห่วงในเรื่องวงจรชีวิตครั่ง ถึงแม้ไม่ได้นำมาในกระบวนการแปรสภาพทางธุรกิจ ครั่งก็จะสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้เพียง 1 เดือน เท่านั้น

นอกจากนี้ บริษัท นอร์ทเทอร์นสยาม ซีดแลค จำกัด ยังยึดมั่นถึงความสำคัญของกระบวนการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ จากเทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยผลิตขึ้นภายใต้มาตรฐานระบบ HACCP (Hazard Analysis and Critical Control Point) เป็นระบบวิเคราะห์จุดวิกฤตในกระบวนการผลิต เพื่อให้มีความมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ที่ได้ พร้อมส่งตรงถึงมือผู้ใช้ปลอดภัยอย่างสูงสุด

ในส่วนของระบบการจัดการ หลักการปฏิบัติที่ดีในการผลิต โดยใช้ระบบ GMP (Good Manufacturing Practice) มีการเตรียมสิ่งแวดล้อมในการผลิตอย่างถูกสุขลักษณะ อาคารสถานที่ในการผลิต รวมไปถึงเครื่องจักรอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน คำนึงถึงสุขลักษณะ และมีการตรวจสอบการผลิตจากผู้เชี่ยวชาญทุกขั้นตอน  

เมืองไทยถือเป็นประเทศที่มีการเพาะเลี้ยงครั่งมากที่สุดติด 1 ใน 3 ของโลก และจังหวัดลำปาง ถือเป็นแหล่งผลิตครั่งขนาดใหญ่ของประเทศ อีกทั้งมีผู้ประกอบการในเชิงอุตสาหกรรมการแปรรูปผลิตภัณฑ์ครั่งที่มีฝีมือและเชี่ยวชาญ มีความพร้อมและประสบการณ์อย่างเต็มที่ แต่ปัจจุบันกำลังประสบปัญหาด้านผลผลิตที่มีไม่เพียงพอ ทำให้ครั่งขาดแคลน

ดังนั้น บริษัท นอร์ทเทอร์นสยาม ซีดแลค จำกัด ที่ถือเป็นผู้นำการผลิตและส่งออกครั่งรายใหญ่ในประเทศไทย จึงไม่หยุดนิ่งที่พัฒนาและวิจัยผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ด้วยการพัฒนาระบบฟาร์ม จากการผลักดันจากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ด้วยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาช่วยแก้ปัญหาการผลิตที่ไม่เพียงพอ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด เพราะมองว่าครั่งถือเป็นวัตถุดิบสำคัญที่ใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม การพัฒนาต่อยอดอุตสาหกรรมครั่งไทยจึงมีความจำเป็นและควรส่งเสริม 

คุณอภิชัย อธิบายเพิ่มเติมถึงเรื่องระบบฟาร์มว่า อยู่ในช่วงการทดลองและการจัดการของเรื่องอากาศ น้ำ แสงแดด รวมไปถึงเรื่องต้นไม้ เพื่อดูว่าอุณหภูมิใดที่เหมาะสม โดยหลักการคือ ตัดครั่งจากรังเดิมแล้วนำไปแขวนบนต้นไม้ใหม่ เพื่อรอปฏิกิริยาการขยายพันธุ์ก่อไปรังใหม่ ซึ่งหลักการนี้เกษตรกรก็สามารถบริหารจัดการเองได้ 

‘บริษัท นอร์ทเทอร์นสยาม ซีดแลค จำกัด’ นับได้ว่าเป็นหนึ่งในบริษัทที่สามารถผงาดอยู่ท่ามกลางสนามการค้าระดับโลกที่น่าจับตามอง อีกทั้ง ‘ครั่ง’ ถือเป็นวัตถุดิบสำคัญที่ใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรมเป็นที่ต้องการอย่างมากในตลาดโลก ดังนั้นการผลักดันในหลายภาคส่วนในครั้งนี้ ถือเป็นการขยายโอกาสในการทำธุรกิจ และพัฒนาต่อยอดอุตสาหกรรมครั่งไทยให้ยั่งยืน