เปิดมุมมอง ‘ฟาเท็ค กรุ๊ป’ ผู้ผลิตแผ่นฉนวนผนังและหลังคาสำเร็จรูป ประสบความสำเร็จด้วยแนวคิดแบบ Startup ยกระดับวัสดุก่อสร้างไทย

‘ฟาเท็ค กรุ๊ป’ ผู้ผลิต ติดตั้ง และจัดจำหน่ายแผ่นฉนวนสำเร็จรูป หรือ Sandwich Panel สร้างความสำเร็จใหม่ให้ธุรกิจด้วยแนวคิดแบบ Startup พร้อมตระหนักถึงการใช้งานของลูกค้า จนนำพาให้บริษัทเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

คุณไอศุรีย์ มิตตอุทิศชัยกุล ผู้จัดการฝ่ายขาย กลุ่มบริษัท ฟาเท็ค กรุ๊ป (FATEK Group) เล่าว่า จุดเริ่มต้นของธุรกิจนี้เกิดขึ้นในปี 2540 โดยผู้บริหารคือ คุณสมควร - คุณหฤดี ศรีพิเชียรกุล ที่มีประสบการณ์อยู่ในสายงานวิศวกรรม ได้มีวิสัยทัศน์ในการสร้างธุรกิจใหม่แบบ Startup ด้วยความมุ่งมั่นที่จะช่วยส่งเสริมวงการก่อสร้างให้มีวัสดุที่ใช้แล้วสามารถประหยัดพลังงานด้วยแผ่นฉนวนที่สามารถลดความร้อนได้ ซึ่งในขณะนั้นในประเทศไทยยังไม่มีผู้ประกอบการรายใดผลิตได้เองจะมีเพียงการนำเข้ามาจากต่างประเทศเท่านั้นจึงมีราคาแพง

จาก  Pain Point ดังกล่าว ประกอบกับความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในสายงานวิศวกรรม จึงทำให้ผู้บริหารมองเห็นโอกาสและความเป็นไปได้ จึงได้ก่อตั้งบริษัท ฟาเท็ค เวิร์คส์ จำกัด พร้อมกับคิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์เป็นของบริษัทเอง โดยมีสินค้าเรือธงอย่างแผ่นฉนวนสำเร็จรูป หรือ Sandwich Panel และจำหน่ายอุปกรณ์ต่างๆ ที่ประกอบเป็นห้องเย็น ห้องสะอาด อาคารเก็บสินค้าและกลุ่มโรงงานผลิตอาหาร ยา เวชภัณฑ์ อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น จนเป็นที่ยอมรับจากบริษัทชั้นนำต่างๆ ของประเทศมาอย่างต่อเนื่อง

สำหรับแผ่นฉนวนสำเร็จรูป หรือ Sandwich Panel ที่บริษัทได้พัฒนาขึ้นเพื่อรองรับกับการใช้งานในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ยังถือเป็นนวัตกรรมแรกที่คนไทยได้ผลิตขึ้นเอง โดยมีลักษณะที่โดดเด่น คือ ด้วยผนังที่มีแผ่นเหล็กทั้ง 2 ด้าน ประกบกัน โดยมีไส้ฉนวนกันความร้อนประเภทต่างๆ หรือเป็นโฟมที่อยู่ระหว่างกลางของแผ่นเหล็กทั้งสองด้าน ประกอบติดกันด้วยการเพิ่มการยึดติดโดยแผ่นเหล็กเคลือบที่มีความปลอดภัยต่ออุตสาหกรรมอาหารและยาในระดับ Food Grade

 

โดยแผ่นฉนวนสำเร็จรูป หรือ Sandwich Panel ถือเป็นอีกหนึ่งโซลูชันในวงการก่อสร้าง เพราะมีคุณสมบัติกันความร้อน กักเก็บความเย็น กันไฟ สะอาดปลอดภัย ไม่กักเก็บฝุ่น เชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อราและเชื้อโรค รวมไปถึงสิ่งแปลกปลอมต่างๆ และได้รับมาตรฐานสากล GMP และ HACCP จึงเหมาะสมที่จะใช้กับโรงงานอุตสาหกรรมผลิตอาหาร เครื่องดื่ม เวชภัณฑ์ หรืออุตสาหกรรมที่ต้องการความสะอาดระดับมาตรฐาน และมีการควบคุมอุณหภูมิ

คุณไอศุรีย์ เล่าต่อว่า ภายหลังจากที่บริษัทมีการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีประเภทแผ่นฉนวนสำเร็จรูปจนประสบความสำเร็จมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งยังสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างไม่หยุดยั้ง ต่อมาในปี 2561 จึงต้องการเพิ่มศักยภาพในการผลิตจึงได้จัดตั้ง บริษัท ฟาเท็ค แอดวานซ์ อินซูเลชั่น จำกัด เป็นฐานการผลิตที่สำคัญ ที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตแผ่นฉนวนสำเร็จรูป PIR แบบไม่ลามไฟขึ้นโดยเฉพาะ โดยแยกฐานที่ตั้งออกจากบริษัท ฟาเท็ค เวิร์คส์ จำกัด (สำนักงานใหญ่) ที่อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี และอยู่ภายใต้เครือเดียวกัน คือ FATEK Group

พร้อมกันนี้ ยังยกระดับเทคโนโลยีในการผลิตภายในโรงงานให้ทันสมัยยิ่งขึ้น ด้วยการนำเข้าเครื่องจักรจากประเทศเยอรมัน ซึ่งเป็นระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบที่ทันสมัยที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ช่วยลดขั้นตอน และลดความผิดพลาดในการผลิต พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพให้ได้มาตรฐาน อีกทั้งยังสามารถผลิตสินค้าได้หลากหลายรายการ ส่งผลให้บริษัทมีการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ และมีศักยภาพในการผลิตที่แข็งแกร่ง พร้อมด้วยความเชี่ยวชาญในการทำตลาดแบบ One Stop Service จนสามารถสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันได้

ปัจจุบันบริษัทมีสินค้าหลักประเภทแผ่นฉนวนที่สามารถรองรับกับความต้องการของกลุ่มลูกค้า ซึ่งแต่ละรายการมีคุณลักษณะที่โดดเด่นแตกต่างกัน ประกอบด้วย

1. ประเภทผนังสำเร็จรูป และ 2.ประเภทหลังคาเมทัลชีท โดยมีรายละเอียดดังนี้

แผ่นฉนวน PIR Foam เป็นแผ่นผนังฉนวนสำเร็จรูปโฟม PIR จากวัสดุที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับโฟมโพลียูรีเทน (PU Foam) แต่ทนความร้อนได้ดีกว่า สามารถทนไฟได้สูงอุณหภูมิมากกว่า 400 องศาเซลเซียส จากการที่ค่าการนำความร้อนต่ำจึงเหมาะกับการนำมาใช้เป็นฉนวนกันความร้อน ช่วยประหยัดพลังงาน มีความแข็งแรงและน้ำหนักเบา

แผ่นฉนวนกันความร้อน PU Foam หรือแผ่นผนังสำเร็จรูปโฟมเหลือง PU เป็นหนึ่งในวัสดุที่มีคุณสมบัติเป็นโดดเด่นด้านฉนวน สามารถกันความร้อนได้ มีอายุการใช้งานยาวนาน แข็งแรง ทนทานและไม่ลามไฟ มีจุดหลอมเหลวต่ำ เมื่อโดนความร้อนสูงเป็นเวลานานจะเปลี่ยนรูป เหมาะสำหรับใช้กับห้องเย็น ห้องคลีนรูมแผ่นฉนวนกันความร้อน Rockwool Sandwich Panel (แผ่นใยหิน) แผ่นผนังสำเร็จรูป

แผ่นฉนวนกันไฟ Rockwool เป็นแผ่นผนังสำเร็จรูป ที่วัสดุทำจากหินภูเขาไฟตามธรรมชาติ เส้นใยหินเกิดจากการผลิตด้วยเครื่องจักรภายใต้การควบคุมมาตรฐาน และเส้นใยจะหักตัวเหมือนแท่งชอล์ก สามารถป้องกันไฟได้เป็นอย่างดี ประหยัดพลังงาน และยังเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันเสียงรบกวนได้ดี เหมาะสำหรับใช้กับห้องกันไฟ และห้องอบ

แผ่นฉนวนกันความร้อนสำเร็จรูป PS, EPS เป็นแผ่นผนังโฟมขาว ทำจากวัสดุที่มีคุณสมบัติพิเศษ น้ำหนักเบา สะดวกในการขนย้าย ง่ายต่อการติดตั้ง สามารถตัดตามแบบได้ตาม ประหยัดพลังงาน ป้องกันความชื้นจากพื้นผิวดิน อายุการใช้งานยาวนานและที่สำคัญไม่ลามไฟ สามารถกันความร้อนและเก็บความเย็น ป้องกันการผ่านของเสียงได้เล็กน้อย สามารถใช้ได้ทั้งงานผนัง หลังคา ประตู และฝ้าเพดาน

หลังคาเมทัลชีท ชนิดไม่ติดไฟ ฉนวน PIR ลอนมาตรฐาน สามารถกันได้ทั้งความร้อน และความเย็น เป็นวัสดุน้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายง่าย จึงทำให้การติดตั้งสะดวกและรวดเร็ว สามารถทำเป็นฝ้าเพดานชั้นใต้หลังคาได้โดยไม่ต้องมีฉนวนอื่นเพิ่ม ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและลดขั้นตอนในการก่อสร้างได้จึงนิยมใช้ตั้งแต่การสร้างบ้าน ไปจนถึงการใช้งานในทุกอุสาหกรรม โดยมีเทคโนโลยีการผลิตอันทันสมัยที่สามารถทำ Overlap ซึ่งช่วยให้การประกอบทับระหว่างรอยต่อแผ่นหลังคาไม่เกิดช่องว่าง และป้องกันการรั่วซึมของน้ำฝนได้เป็นอย่างดี

หลังคาโซล่าเซลล์เมทัลชีท ชนิดไม่ติดไฟ ฉนวน PIR ที่มีลอนยึดติดโซล่าเซลล์ ช่วยให้ประหยัดต้นทุน และประหยัดโครงสร้าง เพราะไม่ต้องเจาะหลังคาให้ยุ่งยาก ไม่ต้องเสี่ยงหลังคารั่ว ผลิตจากเหล็กคุณภาพสูง แข็งแรง สามารถรับแรงกดได้สูง มีคุณสมบัติช่วยลดเสียงตกกระทบ หรือเสียงรบกวนได้อีกด้วย

 

คุณไอศุรีย์ เล่าต่อว่า ด้วยบริษัทตระหนักถึงความสะดวกและประสิทธิภาพในการงานของลูกค้าเป็นสำคัญ จึงได้พัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นสินค้าในกลุ่มประเภทผนังสำเร็จรูป และประเภทหลังคาเมทัลชีท พร้อมทั้งมีการแสดงตัวอย่างข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพในการใช้พลังงานของอาคาร หรือที่พักอาศัยของลูกค้าให้เห็นเป็นตัวเลขอย่างชัดเจน

 ขณะเดียวกันสินค้าของบริษัทยังมีความแตกต่างด้านผลลัพธ์กับประสิทธิภาพการใช้งานจากคู่แข่งอย่างเห็นได้ชัด โดยเมื่อนำเข้าไปติดตั้งกับตัวอาคารจะสามารถลดการใช้พลังงานได้ไม่ต่ำกว่า 15 – 20% ทั้งนี้ ผลลัพธ์ในการประหยัดการใช้พลังงานไฟฟ้าอาจต้องมีปัจจัยด้านอื่นที่สัมพันธ์กันด้วย เช่น ขนาดของเครื่องปรับอากาศ และความต่อเนื่องของการใช้งานเครืองปรับอากาศ เป็นต้น

ขณะเดียวกันยังมีความพร้อมด้านเทคโนโลยีและมีกำลังการผลิตที่สามารถผลิตชิ้นงานตามความยาวที่ลูกค้าต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ผนังสำเร็จรูปที่มีความยาวตามลูกค้าต้องการ เป็นต้น ซึ่งวิธีนี้ช่วยให้ลูกค้าได้รับชิ้นงานที่มีความสวยงาม ไม่มีรอยต่อ ป้องกันปัญหาน้ำรั่วซึมได้ สอดคล้องกับโครงสร้างของตัวอาคารโดยยังคงมีความมาตรฐานและความแข็งแรงเช่นเดิม ที่สำคัญยังช่วยลดงบประมาณด้านงานโครงสร้างที่อาจบานปลายได้อีกด้วย

พร้อมกันนี้ ยังมีทีมงานทีมงานที่มากประสบการณ์และมีความชำนาญในด้านนี้ให้คำแนะนำและคำปรึกษา พร้อมกับบริการตรวจวัดพื้นที่หน้างานเพื่อนำมาวางแผนการผลิตตามความต้องการของลูกค้า ตลอดจนบริการประเมินค่าใช้จ่ายให้ได้ทราบเบื้องต้น เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจก่อนเริ่มงาน เพื่อมอบบริการให้ลูกค้าได้รับความประทับใจและความคุ้มค่ามากที่สุด

เรื่องนี้ คุณไอศุรีย์ กล่าวว่า เนื่องจากแผ่นฉนวนสำเร็จรูป หรือ Sandwich Panel ที่บริษัทเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายได้เข้ามามีบทบาทในวงการก่อสร้างเป็นอย่างมาก ซึ่งป็นวัสดุที่สามารถเป็นได้ทั้ง ผนัง  หลังคา และฉนวนกันความร้อน สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้หลากหลายรูปแบบแล้วแต่วัตถุประสงค์ ดังนั้น จึงทำให้บริษัทมีกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายครอบคลุมตลาดทุกเซกเมนต์ เช่น กลุ่มผู้รับเหมารับสร้างบ้าน, สถาปนิก, และวิศวกร เป็นต้น

พร้อมทั้ง ยังมีความร่วมสมัยเมื่อนำไปใช้งานในสถานที่ต่างๆ ได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม โรงพยาบาล บ้านพักและที่อยู่อาศัย หรือแม้แต่นำไปประยุกต์ทำเป็นร้านขายของ และธุรกิจต่างๆ ตามความสะดวก นอกจากนี้ หากลูกค้ามีความต้องการของให้ผลิตลายพื้นผิวผลิตภัณฑ์เป็นลวดลายธรรมชาติ หรือลวดลายที่สวยงามอื่นๆ บริษัทยังมีพร้อมตอบสนองลูกค้าด้วยความเอาใจใส่ เพื่อให้ลูกค้าได้สินค้าที่มีความสวยงามและมีประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ตาม แม้การพัฒนานวัตกรรมแผ่นฉนวนสำเร็จรูปจะประสบความสำเร็จและได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าด้วยดีเสมอมา แต่บริษัทยังไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนาและมองหากลุ่มลูกค้าใหม่ เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงและสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทเล็งเห็นโอกาสและความเป็นไปได้ใน 3 กลุ่มเป้าหมายใหม่ ดังนี้..

1. กลุ่มผู้รับเหมา / นักออกแบบ เพราะเป็นกลุ่มกลุ่มคนที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของฟังก์ชั่นการใช้งานของวัสดุก่อสร้าง และมีความเข้าใจในการใช้งานวัสดุที่มีคุณภาพสูง สามารถนำสินค้าของบริษัทไปใช้งานได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ

2. กลุ่มบริษัท Consult เพราะกลุ่มนี้มีประสบการณ์ในการให้คำปรึกษาโครงการต่างๆ พร้อมทั้งยังมีประสบการณ์ด้านงานควบคุมและตรวจสอบผู้รับเหมา ซึ่งคลุกคลีอยู่กับโครงการก่อสร้างอย่างสม่ำเสมอ จึงเป็นช่องทางในการสร้างคอนเนกชันระหว่างบริษัทกับกลุ่มลูกค้าที่เป็นเจ้าของโครงการให้เอื้ออำนวยต่อการนำเสอนสินค้าได้

3. กลุ่มบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้าง เนื่องจากบริษัทเป็นผู้ผลิตสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับงานก่อสร้างโดยตรง ทั้งงานระบบ งานโครงสร้าง และงานอินทีเรีย ดังนั้นหากสามารถเชื่อมต่อและเป็นพาร์ทเนอร์ หรือซัพพลายเออร์ให้กับกลุ่มธุรกิจเหล่านี้ได้ จะส่งผลให้บริษัทมีช่องทางในการจำหน่ายสินค้าเพิ่มากขึ้น

คุณไอศุรีย์ กล่าวในต้อนท้ายว่า ปัจจุบันบริษัทยังคงมุ่งมั่นพัฒนาสินค้าและบริการ ตามเทรนด์ด้านการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมพร้อมทั้งประหยัดพลังงาน เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทั้งในปัจจุบันและในอนาคต นอกจากนี้ยังมีการดำเนินงานด้วยความเอาใจใส่ต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในธุรกิจทุกภาคส่วน ตลอดจนตระหนักถึงความปลอดภัยและใส่ใจสวัสดิการในการทำงานของพนักงานทุกคน สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลให้บริษัทมีการเติบโตได้อย่างมีนัยยะสำคัญ

กรณีศึกษา ‘ฟาเท็ค กรุ๊ป’ เรื่องนี้ชี้ให้เห็นว่า หากมีประสบกาณ์และความเชี่ยวชาญในงานด้านใดแล้ว ต้องรู้จักมองหาโอกาสใหม่และเชื่อในความเป็นไปได้ เพื่อให้มีแรงผลักดันในการพัฒนาสินค้าจนสามารถสร้างความสำเร็จใหม่ให้กับธุรกิจและเติบโตอย่างแข็งแกร่งได้