ถือได้ว่าเป็นเพื่อนสนิทในวงการอีกคนของ แตงโม ก็ว่าได้ สำหรับ พระเอกหนุ่ม ซี ศิวัฒน์ ด้วยความที่โตมาด้วยกัน เข้าวงการมาพร้อมๆกัน แถมยังเคยมีผู้จัดการส่วนตัวคนเดียวกัน และเป็นที่รู้จักมาจากละครดังในตำนานอย่าง เบญจา คีตา ความรัก ที่ทั้งคู่ได้ร่วมแสดงด้วยกัน ซึ่งในงานพิธีไว้อาลัยคืนสุดท้าย เมื่อวันที่ 13 มี.ค.65 ที่ผ่านมา โดย หนุ่มซี ได้ขึ้นไปกล่าวไว้อาลันแก่เพื่อนสนิท พร้อมทั้งเปิดเผยเรื่องราวชีวิตของ แตงโม ตลอดระยะเวลาที่มีชีวิตอยู่ ว่า “เราเริ่มต้นมาพร้อมกัน มีชื่อเสียงมาพร้อมกัน มีเรื่องราวมาพร้อมกัน วันนี้ผมเชื่อว่าทุกคนเสียใจ และผมเชื่อว่าทุกคนก็เสียใจ อะไรจะเกิดเป็นเรื่องธรรมชาติ วันนี้เราก็อยากมาส่งนางฟ้ากลับสวรรค์ เขาเหนื่อยมาเยอะแล้ว ผมว่าวันนี้ไม่มีใครในประเทศไทยไม่รู้จักแตงโมแล้วนิสัยใจคอ เขาสู้ชีวิต ทุกคนที่ใกล้ชิดกับเขาจะรู้ว่านี่แหละแตงโม ผมว่ามันเป็นลิขิตของฟ้าจริงๆ ที่ส่งเขาลงมา เพราะทุกครั้งที่เขาพูดถึงมันจะเกิดการกระเพื่อมหลายๆ อย่าง แต่ใครจะรู้ว่านั่นคือสิ่งที่เขาสร้างขึ้นมา จริงๆ แล้วเขาเป็นคนอ่อนแอ และต้องการความรัก เป็นคนธรรมดาคนนึง วันนี้เขาไม่จำเป็นที่จะต้องแกล้งเข้มแข็งอีกแล้ว เขาไปมีความสุขที่ดีกว่าโลกใบนี้ มันน่าเสียดาย และน่าตกใจ แต่อีกใจนึงก็ดีใจกับเขาด้วย ที่เขาได้ไปอยู่กับคุณพ่อ โมเมนต์ที่เราทำงานด้วยกัน รู้จักกันมาหลายปี ไม่มีโมเมนต์ไหนที่โมไม่แสดงความรักและความกตัญญูต่อพ่อ จริงๆ แล้วโม เป็นคนที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับเราด้วยซ้ำ สมัยก่อนผมยังเด็กอยู่ ผมรู้สึกว่า เวลาที่เราทำงานมีเงิน มีชื่อเสียง เงินที่ได้มาเราก็เอาไปใช้จ่ายในเรื่องส่วนตัว แต่สิ่งแรกที่โมทำ คือเขาจะเอาเงินให้คุณพ่อก่อน เรายังเคยพูดกันเลยว่าทำไมเอาเงินไปให้คุณพ่อ ทำไมไม่เอาเงินมาใช้เอง เขาบอกว่าก็โมเป็นหัวหน้าครอบครัว อะไรก็ได้ที่ทำให้คุณพ่อมีความสุขก็ให้คุณพ่อไปมีความสุข เหลือเท่าไหร่ โมค่อยเอามาใช้ก็ได้ เพราะว่าโมไม่ได้เป็นคนติดแบรนด์เนมอยู่แล้ว นั่นคือหนึ่งในตัวอย่างที่เห็นว่าผู้หญิงคนนี้ เขาไม่ใช่เพิ่งมาเป็นโมตอนที่เขาโด่งดัง เขาเป็นแบบมาตั้งแต่ยังไม่มีชื่อเสียงแล้ว เป็นผู้หญิงที่สุจริตต่อความรู้สึกของตัวเองมาตั้งแต่ยังไม่ดัง จนดังแล้วเขาก็ยังสุจริตต่อคำพูด และหัวใจเขามาตลอด บางครั้งคนที่ไม่รู้จักเขาจริงๆ ก็จะตัดสินเขา หรือว่ากล่าวเขา แต่ใครจะรู้ว่านี่คือผู้หญิงคนนึงที่ไม่มีเสริม ไม่มีเติมแต่ง และไม่คิดที่จะทำร้ายใคร วันนี้มันเป็นตัวอย่างว่าถ้าเราจะรักใคร อย่ารอให้เขาต้องจากโลกนี้ไป ขออย่าให้เกิดเหตุการณ์แบบโมก่อน ที่ว่าพอจากไปแล้วเรารักกันมากขึ้น เรารักใคร เราบอกเขา แตงโม ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหนก็ตาม ผมเชื่อว่าเขาอยู่ในใจของทุกคน”