Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore โครงงานน้ำยากัดสนิมจากมะเขือเทศ 2

โครงงานน้ำยากัดสนิมจากมะเขือเทศ 2

Published by sonisatakaew552, 2021-10-05 15:02:56

Description: โครงงานน้ำยากัดสนิมจากมะเขือเทศ 2

Search

Read the Text Version

รายงานโครงงานวชิ าการศึกษาคน้ ควา้ และสร้างองคค์ วามรู้(IS1) เร่ือง น้ายากดั สนิมจากมะเขือเทศ โดย นางสาวจิรัชญา พรมมา เลขท่ี 3 นางสาวบณั ฑิตา สุมทุม เลขท่ี 11 นางสาวศศิกานต์ อ่ินกนั เลขที่ 20 นางสาวเมธาวี ขระสุ เลขที่ 21 นางสาวโสณิศา ต๊ะแกว้ เลขท่ี 32 ช้นั มธั ยมึกษาปี ที่5/8 เสนอ ครูดารงค์ คนั ธะเรศย์ รายงานฉบบั น้ีเป็นส่วนหน่ึงของการศึกษา วิชา การศึกษาคน้ ควา้ และสร้างองคค์ วามรู้(IS1) รหสั วชิ า I30201 ภาคเรียนท่ี 1 ปี การศึกษา 2564 กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สานกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามธั ยมศึกษาน่าน

ก คานา รายงานฉบบั น้ีเป็นส่วนหน่ึงของวชิ า I30201 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี5/8 โดยมีจุดประสงค์ เพอ่ื ศึกษาความรู้ท่ีไดจ้ ากเร่ือง น้ายากดั สนิมจากมะเขือเทศ ซ่ึงรายงานน้ีมีเน้ือหาเกี่ยวกบั ความรู้ จาก น้ายากดั สนิมจากมะเขือเทศ ผจู้ ดั ทาไดเ้ ลือกหวั ขอ้ น้ีในการทารายงาน เนื่องมาจากเป็นเร่ืองท่ีน่าสนใจและ ตอ้ ง ขอขอบคุณ ครูดารงค์ คนั ธะเรศย์ ผใู้ หค้ วามรู้และแนวทางการศึกษา เพ่ือน ๆ ทุกคนที่ให้ ความ ช่วยเหลือมาโดยตลอดผจู้ ดั ทาหวงั วา่ รายงานฉบบั น้ีจะใหค้ วามรู้ และเป็นประโยชนแ์ ก่ผอู้ ่านทุก ๆ ท่าน คณะผจู้ ดั ทา

สารบญั ข เร่ือง หนา้ คานาก ก สารบญั ข บทคดั ยอ่ ค บทท่ี 1 บทนา 1 ความเป็นมาและความสาคญั ของปัญหา 1 วตั ถปุ ระสงค์ 1 สมมุติฐาน 1 ขอบเขตการศึกษา 1 ประโยชน์ที่คาดวา่ จะไดร้ ับ 2 บทท่ี 2 เอกสารและงานวิจยั ท่ีเก่ียวขอ้ ง 3 สาเหตขุ องการเกิดสนิม 3 การป้องกนั การเกิดสนิม 3 ประเภทของสนิมหรือชนิดของสนิม 4 ปฏิกิริยาการเกิดสนิม 5 สรรพคุณของมะเขือเทศ บทที่ 3 วิธีดาเนินการศึกษาคน้ ควา้ 5-6 1.ระเบียบวิธีที่ใชใ้ นการศึกษา 7 2.กลุ่มตวั อยา่ ง 7 3. วธิ ีดาเนินการศึกษา 7 4. เครื่องมือท่ีใชใ้ นการศึกษา 7-8 5. การเก็บรวบรวมขอ้ มลู 8-9 9

ค บทคดั ยอ่ เนื่องจากอุปกรณ์เคร่ืองใชต้ า่ งๆ ที่เป็นเหลก็ หรือโลหะ หากใชง้ านเป็นเวลานานจะทาให้ เกิดสนิม จึงยากท่ีจะนามาขดั ลา้ งใหก้ ลบั มาใชง้ านไดเ้ หมือนเดิม ยงิ่ ในปัจจุบนั น้ายากดั สนิม ส่วนใหญ่ทามาจากสารเคมีซ่ึงอาจเป็นอนั ตรายตอ่ สุขภาพไดเ้ พราะสารเคมีที่ใชอ้ าจเกิดสาร ตกคา้ งและมีราคาแพง กลุม่ ขา้ พเจา้ จึงเกิดความเห็นวา่ น้ายาที่ใชก้ าจดั สนิมน้นั มีราคาแพงและทามาจากสารเคมี หากนามาใชอ้ าจเกิดสารตกคา้ งของสารเคมีในอปุ กรณ์เคร่ืองใชน้ ้นั ได้ จึงมีความคิดท่ีจะทาน้ายา กดั สนิมโดยใชว้ ธิ ีทางธรรมชาติ และเป็นส่วนผสมท่ีมีอยภู่ ายในตามทอ้ งถ่ินหรือทอ้ งตลาด ท่ีหา ไดง้ า่ ย มีราคาถูกและช่วยประหยดั ค่าใชจ้ ่ายภายในกลุ่ม อีกท้งั สามารถนาไปใชง้ านไดจ้ ริง ดงั น้นั ผศู้ ึกษาจึงมุ่งศึกษาน้ายากดั สนิมจากมะเขือเทศ เพ่ือคน้ ควา้ หาขอ้ มูลจากแหลง่ ต่างๆ จน พบวา่ มะเขือเทศมีรสเปร้ียวเป็นกรดสามารถกดั สนิทจากเหลก็ ได้ หากมีขอ้ ผดิ พลาดประการใด ผศู้ ึกษาขอนอ้ มรับไวแ้ ละจะนาไปพฒั นาตอ่ ไป

1 บทที่ 1 บทนา 1.ความเป็ นมาและความสาคญั ของปัญหา เน่ืองจากอุปกรณ์เคร่ืองใชต้ า่ งๆ ที่เป็นเหล็กหรือโลหะ หากใชง้ านเป็นเวลานานจะทาให้ เกิดสนิม จึงยากที่จะนามาขดั ลา้ งใหก้ ลบั มาใชง้ านไดเ้ หมือนเดิม ยง่ิ ในปัจจุบนั น้ายากดั สนิม ส่วนใหญ่ทามาจากสารเคมีซ่ึงอาจเป็นอนั ตรายตอ่ สุขภาพไดเ้ พราะสารเคมีที่ใชอ้ าจเกิดสาร ตกคา้ งและมีราคาแพง กลุ่มขา้ พเจา้ จึงเกิดความเห็นวา่ น้ายาท่ีใชก้ าจดั สนิมน้นั มีราคาแพงและทามาจากสารเคมี หากนามาใชอ้ าจเกิดสารตกคา้ งของสารเคมีในอุปกรณ์เคร่ืองใชน้ ้นั ได้ จึงมีความคิดที่จะทาน้ายา กดั สนิมโดยใชว้ ธิ ีทางธรรมชาติ และเป็นส่วนผสมที่มีอยภู่ ายในตามทอ้ งถิ่นหรือทอ้ งตลาด ที่หา ไดง้ า่ ย มีราคาถกู และช่วยประหยดั คา่ ใชจ้ ่ายภายในกลมุ่ อีกท้งั สามารถนาไปใชง้ านไดจ้ ริง ดงั น้นั ผศู้ ึกษาจึงมุ่งศึกษาน้ายากดั สนิมจากมะเขือเทศ เพ่ือคน้ ควา้ หาขอ้ มูลจากแหล่ง ต่างๆ จนพบวา่ มะเขือเทศมีรสเปร้ียวเป็นกรดสามารถกดั สนิทจากเหล็กได้ หากมีขอ้ ผิดพลาด ประการใด ผศู้ ึกษาขอนอ้ มรับไวแ้ ละจะนาไปพฒั นาตอ่ ไป 2.วตั ถุประสงค์ 1.ประหยดั คา่ ใชจ้ ่ายในการซ้ือน้ายาประเภทสารเคมีมาใช้ 2.เพ่อื สุขภาพท่ีดี หากใชส้ ารเคมีนานๆอาจทาใหส้ ุขภาพร่างกายอ่อนแอลง 3.เพ่ือใหไ้ ดน้ ้ายากาจดั สนิมท่ีมีประสิทธิภาพ 3.สมมตุ ิฐาน น้ามะเขือเทศมีประสิทธิภาพในการกดั กร่อนสนิม 4.ขอบเขตการศึกษา ตวั แปรตน้ น้ามะเขือเทศ ตวั แปรตาม ประสิทธิภาพในการกดั กร่อนสนิม ตวั แปรควบคุม ปริมาณส่วนผสมอ่ืนๆ ปริมาณน้ามะเขือเทศ และตอ้ งเป็นมะเขือเทศพนั ธุ์สีดา เท่าน้นั

2 กลุ่มตวั อย่างทใี่ ช้ในการศึกษา กล่มุ ตวั อยา่ งที่ใชใ้ นการศึกาคร้ังน้ีเป็นนกั เรียนระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี5/8 โรงเรียนปัว ปี การศึกษา 2564 จานวน 10 คน เนื้อหาท่ใี ช้ในการศึกษา เน้ือหาที่ใชใ้ นการศึกษาเป็นเน้ือหาท่ีเลือกจากปัญหาที่พบในโรงเรียนหรือเร่ืองท่ี นกั เรียนสนใจ คือ น้ายากดั สนิมจากมะเขือเทศ ระยะเวลา ระยะเวลาท่ีใชใ้ นการศึกษาคร้ังน้ี ดาเนินการในปี การศึกษา 2564 5.ประโยชน์ท่คี าดว่าจะได้รับ 1.เพอ่ื เป็นแนวทางในการพฒั นาน้ายากดั สนิมจากมะเขือเทศ 2.ไดท้ ราบถึงสาเหตุ(ทศั นคติ)ของนกั เรียนระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี5/8ที่มีต่อน้ายากดั สนิมจจาก มะเขือเทศ 3.ผลการศึกษาท่ีพบ ช่วยใหเ้ กิดแนวทางใหม่ในการทาน้ายากดั สนิมท่ีสามารถทาเองไดม้ าใชใ้ น ครัวเรือน 4.นกั เรียนมีความพึงพอใจต่อน้ากยากดั สนิมจากมะเขือเทศ

3 บทที่ 2 เอกสารและงานวิจยั ที่เก่ียวขอ้ ง การศึกษาในคร้ังน้ี ผศู้ ึกษาไดศ้ ึกษาเอกสารและงานวิจยั ท่ีเกี่ยวขอ้ งโดยแบ่งเน้ือหาของ เอกสารและงานวจิ ยั ออกเป็นหวั ขอ้ ต่างๆ ดงั น้ี 1.สาเหตขุ องการเกดิ สนมิ สนิม (rust) เป็นโลหะส่วนที่มีการเปล่ียนสภาพไปจากเดิม เนื่องจากไดร้ ับปฏิกิริยาเคมีท่ี มีอากาศ น้า หรือความร้อนเป็นตวั การสาคญั ทาใหโ้ ลหะมีคุณสมบตั ิแตกตา่ งไปจากเดิม เช่น สีที่ เปล่ียนไป มีความแขง็ แรงลดลง และทาใหเ้ กิดการผุกร่อน ตวั อยา่ งที่เราพบเห็นอยบู่ อ่ ยๆ ไดแ้ ก่ เหลก็ วสั ดุเครื่องมือเคร่ืองใชต้ า่ งๆ สนิมเกิดจาก เม่ือความช้ืนในบรรยากาศไปเกาะตวั อยบู่ นโลหะ ความช้ืนเหล่าน้ีจะทา หนา้ ท่ีเป็นตวั นาทาใหเ้ กิดการไหลของประจุไฟฟ้า (Electron) จากบริเวณผิวโลหะที่มีพลงั งาน สูง (ข้วั ลบ) ไปสู่พลงั งานต่า (ข้วั บวก) เกิดข้ึนไดอ้ ยา่ งสมบรู ณ์ การไหลของประจุไฟฟ้าน้ีจะ ส่งผลใหเ้ กิดปฏิกิริยาออ๊ กซิเดชน่ั ข้ึนท่ีผวิ โลหะ ซ่ึงจะมองเห็นเป็นคราบหมอง รอยกดั กร่อน หรือสนิมบนโลหะ 2.การป้องกนั การเกดิ สนมิ สาหรับวธิ ีการป้องกนั เรื่องของสนิมในบา้ นน้นั ทาไดไ้ มย่ าก และสามารถเริ่มตน้ ดว้ ยตวั คุณเองไดท้ ้งั หมด ดงั น้ี 1. เคลือบผิวเหลก็ เคลือบผิวเหลก็ ดว้ ยสีเคลือบพ่น สีทา ท่ีจะทาการเคลือบช้นั ผวิ ของเหลก็ ไม่ใหเ้ กิดสนิมได้ โดยตรง โดยช้นั นอกท่ีเคลือบจะทาหนา้ ที่เป็นเหมือนเปลือกหุม้ ที่ป้องกนั ความช้ืน และอากาศ จะกระทบกบั ผวิ เหลก็ หรือโลหะโดยตรง หรือเลือกเหลก็ ท่ีผา่ นการชุบดีบุกหรือสงั กะสี เพ่อื ป้องกนั น้าและอากาศจากการสัมผสั เน้ือเหลก็ หรือโลหะ แต่ตอ้ งหมนั่ เคลือบผวิ เหลก็ หรือโลหะ อยา่ งสม่าเสมอ เพ่ือป้องกนั สนิมไดน้ านข้ึน 2. เลือกใชว้ สั ดุที่เป็นเหลก็ กลา้ เลือกใชว้ สั ดุท่ีเป็นเหล็กกลา้ เพ่อื ป้องกนั การเกิดสนิม ซ่ึงส่วนใหญจ่ ะเป็นมี 2 ประเภทท่ีแนะนา คือ - สแตนเลส โลหะท่ีผสมระหวา่ งเหลก็ กบั คาร์บอน ทาใหม้ ีความตา้ นทานตอ่ การกดั กร่อนสูง จึง ไมเ่ ป็นสนิมไดง้ ่าย นอกจากน้ีกย็ งั มีโครเมียมเป็นส่วนประกอบหลกั มากถึง 10.5% ทาใหเ้ กิดการ

4 สร้างฟิ ลม์ โครเมียมออกไซดข์ ้ึนมา และฟิ ลม์ ตวั น้ีจะช่วยปกป้องไม่ใหม้ ีอะไรมากดั กร่อนสแตน เลสไดด้ ว้ ย - อะลูมิเนียม จริง ๆ แลว้ อะลมู ิเนียมเกิดสนิมไดเ้ หมือนเหลก็ หรือโลหะอ่ืน แต่สนิมของ อะลูมิเนียมจะมีลกั ษณะเป็นแผน่ ฟิ ลม์ บาง ๆ เคลือบผิวอะลูมิเนียม กลายเป็นกลไกป้องกนั สนิม อีกทีหน่ึง 3. เล่ียงการใชง้ านวสั ดุผดิ ประเภท หลีกเล่ียงการใชง้ านวสั ดุที่เป็นเหลก็ หรือโลหะในพ้นื ท่ีที่เสี่ยงต่อการโดนน้าหรือความช้ืนสูง เช่น การทาช้นั เหลก็ วางตน้ ไมใ้ นสวน 4. เชด็ ทาความสะอาดเครื่องมือ ทุกคร้ังหลงั จากการใชง้ านเคร่ืองมือช่าง หรือเคร่ืองมือทาสวน ควรทาความสะอาดเคร่ืองมือให้ เรียบร้อย เช็ดใหแ้ หง้ เพื่อกาจดั น้าและความช้ืน รวมท้งั พ่นน้ายาป้องกนั สนิมเคลือบเคร่ืองมือ เหล่าน้นั ก่อนเก็บใหห้ ่างไกลจากน้าและความช้ืน 3.ประเภทของสนมิ หรือชนดิ ของสนมิ 1. สนิมทว่ั ไป - Flash rust (เกิดบนผวิ เหลก็ เปลือย) - Brush rust (เกิดบนผิวเหลก็ ที่มีการทาสีแลว้ ) 2. สนิม Galvanic เม่ือโลหะสองชนิดสมั ผสั กนั โลหะที่ไวตอ่ การเกิดสนิมมากกวา่ ซ่ึงจะมีประจุเป็นลบ (anode) จะข้ึนสนิมก่อนโลหะท่ีมีประจุเป็นบวก (cathode) 3. สนิมหลุม เม่ือเกิดสนิมปริมาณมากรวมอยใู่ นพ้นื ที่แคบ 4. สนิมตามรอยแยก เมื่อเกิดสนิมข้ึนในช่องแคบระหวา่ ง ช้ินส่วนเลก็ ๆ เช่นระหวา่ ง เกลียวกบั หวั หมดุ

5 4.ปฏกิ ริ ิยาการเกดิ สนมิ ปฏิกิริยาการเกิดสนิม เป็นปฏิกิริยาที่พบเห็นไดง้ ่ายๆ กบั สิ่งก่อสร้างต่างๆ ที่มีเหลก็ เป็น องคป์ ระกอบ แตเ่ ป็นปฏิกิริยาท่ี แก๊ส NO2 ในอากาศ เม่ือถกู แสดงอาทิตยจ์ ะสลายตวั เป็น แกส๊ NO และอะตอมอิสระของออกซิเจน เกิดข้ึนอยา่ งชา้ ๆ อาจจะกินเวลายาวนาน เกิดข้ึนเม่ือมี เหลก็ สัมผสั กบั น้าและความช้ืน โดยจะคอ่ ยๆ สึกกร่อน ซ่ึงสามารถรวมตวั กบั แกส๊ O2 เป็น O3 กลายเป็นเหลก็ ออกไซด์ หรือท่ีเรารู้จกั กนั วา่ สนิมเหลก็ (Fe2O3.H2O) สังเกตไดจ้ ากสีและ ลกั ษณะอื่นๆ ที่แตกตา่ งจากเหลก็ (Fe) .ปฏิกิริยาการเกิดสนิม มีดงั น้นั 1.การผกุ ร่อนของโลหะ คือปฏิกิริยาเคมีท่ีเกิดระหวา่ งโลหะกบั ภาวะแวดลอ้ ม 2.ภาวะแวดลอ้ มท่ีทาใหผ้ กุ ร่อน คือ ความช้ืน และออกซิเจน (H2O, O2) หรือ H2O กบั อากาศ 3.ปฏิกิริยาเคมีที่เกิดในการผกุ ร่อน เป็นปฏิกิริยารีดอกซ์ 3.1 โลหะท่ีเกิดปฏิกิริยา Oxidation (ใหอ้ ิเลก็ ตรอน) 3.2 ภาวะแวดลอ้ มเป็นฝ่ายรับอิเลก็ ตรอน เกิดปฏิกิริยา Reduction 4. สมการแสดงปฏิกิริยาการผกุ ร่อน 5.สรรพคุณของมะเขือเทศ พระเอกของมะเขือเทศลกู กลม ๆ ก็คือ \"ไลโคปี น\" (lycopene) นี่เองคะ่ ซ่ึงสารไลโคปี น เป็นสารอีกตวั ในกล่มุ แคโรทีนอยด์ พบในผกั ผลไมท้ ่ีมีสีส้มสีแดง อยา่ งเช่น แตงโม มะละกอ แค รอท ฟักขา้ ว เกรปฟรุต ถือเป็นสารตา้ นอนุมูลอิสระ ป้องกนั การเกิดโรคมะเร็งไดช้ ้นั ยอด โดย จากขอ้ มูลของมหาวทิ ยาลยั มหิดล ระบวุ า่ ในมะเขือเทศสด 100 กรัม จะมีปริมาณไลโคปี น ประมาณ 0.9–9.30 มิลลิกรัม ซ่ึงไลโคปี นและวิตามินแร่ธาตุอ่ืน ๆ ในมะเขอื เทศ มีส่วนช่วยบารุงสุขภาพแทบจะทกุ ส่วนของร่างกาย โดยมีงานวจิ ยั มากมายใหค้ ายนื ยนั ถึงสรรพคุณช้นั เลิศของพืชสีแดงชนิดน้ี อยา่ งเช่น + ลดความเสี่ยงโรคมะเร็งตอ่ มลกู หมาก ขอ้ น้ีถือเป็นสรรพคุณเด่นมากของพชื สีแดงชนิด น้ีเลย + ป้องกนั โรคมะเร็งลาไส้ เพราะมะเขือเทศมีไฟเบอร์และน้ามาก จึงช่วยดูแลระบบขบั ถ่าย ใหเ้ ป็นไปอยา่ งปกติ + ลดความเส่ียงโรคมะเร็งปอด มะเร็งรังไข่ มะเร็งเตา้ นม มะเร็งตบั อ่อน

6 + ชะลอความแก่ ริ้วรอยแห่งวยั เพราะมีสารตา้ นอนุมูลอิสระสูง + บารุงผิวพรรณใหส้ ดใส ชุ่มช้ืน + ช่วยกาจดั คอเลสเตอรอลไมด่ ีท่ีอยใู่ นผนงั หลอดเลือด จึงลดความเสี่ยงโรคหวั ใจและ หลอดเลือด + บารุงสายตา เพราะมีวติ ามิน เอ สูง + มีวิตามินซีสูง ช่วยรักษาโรคลกั ปิ ดลกั เปิ ด เลือดออกตามไรฟัน เสริมสร้างภูมิคุม้ กนั ให้ ร่างกาย ไม่ใหเ้ ป็นหวดั ง่าย + ควบคุมและลดระดบั น้าตาลในเลือด + เสริมสร้างกระดูกใหแ้ ขง็ แรง ช่วยป้องกนั โรคกระดูกพรุน เพราะมีวติ ามินเคสูง + ช่วยลดอาการบวมน้าในร่างกาย เพราะมะเขือเทศจะช่วยควบคุมสมดุลของเหลวใน เซลลแ์ ละเน้ือเยอื่ + ช่วยทาความสะอาดคอเลสเตอรอลไม่ดีที่อยใู่ นผนงั หลอดเลือด ลดคอเลสเตอรอลไมด่ ี ในกระแสเลือด + ช่วยลดความเครียดได้ + บารุงผมใหเ้ งางาม แขง็ แรง ดูมีสุขภาพดี + ช่วยขบั ปัสสาวะ

7 บทท่ี 3 วธิ ีดาเนินการศึกษาคน้ ควา้ ในการศึกษาคร้ังผศู้ ึกษาไดท้ าการศึกษาน้ายากดั สนิมจากมะเขือเทศซ่ึงมีวธิ ีการดงั น้ี 1.ระเบยี บวธิ ีที่ใช้ในการศึกษา ในการศึกษาใชร้ ูปแบบการสารวจ สืบคน้ ขอ้ มลู จากหนงั สือ อินเตอร์เน็ตและตอบ แบบสอบถาม 2.กล่มุ ตวั อย่าง กลุ่มตวั อยา่ งท่ีใชใ้ นการศึกษาคร้ังน้ีไดแ้ ก่นกั เรียนระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่5/8 โรงเรียน ปัว ปี การศึกษา 2564 จานวน 1 หอ้ งเรียน เป็นนกั เรียนท้งั ส้ิน 10 คน ไดม้ าโดยสุ่มอยา่ งงา่ ย เพื่อ ตอบแบบสอบถามที่สร้างข้ึน ระยะเวลาท่ีใช้ในการศึกษา ระยะเวลาที่ใชใ้ นการศึกษา 2564 3. วธิ ีดาเนนิ การศึกษา ผศู้ ึกษาไดด้ าเนินการตามข้นั ตอนดงั น้ี 3.1 กาหนดเรื่องที่จะศึกษา โดยสมาชิกท้งั 5 คน ประชุมร่วมกนั และร่วมกนั คิดและวางแผน วา่ จะศึกษาเร่ืองใด 3.2 สารวจปัญหาท่ีพบในโรงเรียน ซ่ึงมีท้งั ปัญหาดา้ นผเู้ รียน ครูผสู้ อน อาคาร สถานท่ี ส่ิงแวดลอ้ มในโรงเรียน ฯลฯ 3.3 เลือกเร่ืองที่จะศึกษา โดยเลือกเร่ืองที่สมาชิกมีความสนใจมากท่ีสุด เพอื่ เป็นแรงจูงใจในการ คน้ หาคาตอบ 3.4 ศึกษาแนวคิดในการแกป้ ัญหา ( ในขอ้ น้ียงั ไม่สามารถดาเนินการไดเ้ น่ืองจาก การเรียน รายวิชา IS1 เวลามีจากดั ผศู้ ึกษาจึงทาไดเ้ ฉพาะการสารวจความคิดเห็นและสร้างเครื่องมือ (แบบสอบถาม) ศึกษาเพียงเพื่อใหม้ ีความรู้ ความเขา้ ใจ เรื่องกระบวนการวิจยั เท่าน้นั 3.5 ต้งั ชื่อเรื่อง 3.6 สมาชิกท้งั 5 คนของกลมุ่ พบครูผสู้ อนเพอ่ื ปรึกษา วางแผนและรับฟังความคิดเห็น ปรับปรุง แกไ้ ข

8 3.7 เขียนความสาคญั ความเป็นมาของปัญหา วตั ถุประสงค์ สมมตุ ิฐาน ขอบเขตการวิจยั และ ประโยชน์ที่คาดวา่ จะไดร้ ับ โดยศึกษาขอ้ มูลจากหนงั สือ วทิ ยานิพนธแ์ ละสืบคน้ ขอ้ มูลจาก อินเตอร์เน็ต และจดบนั ทึกในโครงร่างรายงานเชิงวิชาการ (ตามใบงาน) 3.8 สร้างเคร่ืองมือ ที่เป็นแบบสอบถาม จานวน 4 ขอ้ 3.9 นาเคร่ืองมือท่ีปรับปรุงแลว้ ไปใชก้ บั กลุ่มตวั อยา่ ง 3.10 รวบรวมขอ้ มลู 3.11 วิเคราะห์ขอ้ มลู 3.12 สรุปการศึกษา 4. เครื่องมือทใี่ ช้ในการศึกษา เคร่ืองมือที่ใชใ้ นการศึกษาคร้ังน้ี คือ แบบสอบถาม ( หรือแบบประเมินความพงึ พอใจ) 1 ฉบบั ซ่ึงมีรายละเอียดดงั น้ี 4.1 ออกแบบแบบสอบถาม เร่ือง น้ายากดั สนิมจากมะเขือเทศ โดยขอคาแนะนาจากท่ีปรึกษา หรือผสู้ อน โดยเตรียมร่างขอ้ คาถาม มีลกั ษณะเป็นขอ้ คาถามจานวน 4 ขอ้ เป็นแบบมาตราส่วน ประมาณ 5 ระดบั คือ 5 หมายถึง เห็นดว้ ยมากท่ีสุด 4 หมายถึง เห็นดว้ ยมาก 3 หมายถึง เห็นดว้ ยปานกลาง 2 หมายถึง เห็นดว้ ยนอ้ ย 1 หมายถึง เห็นดว้ ยนอ้ ยท่ีสุด การพจิ ารณาค่าเฉลี่ย จะใชเ้ กณฑด์ งั น้ี ค่าเฉลี่ย 4.51 – 5.00 หมายถึง เห็นดว้ ยมากท่ีสุด คา่ เฉลี่ย 3.51 – 4.50 หมายถึง เห็นดว้ ยมาก คา่ เฉลี่ย 2.51 – 3.50 หมายถึง เห็นดว้ ยปานกลาง คา่ เฉลี่ย 1.51 – 2.50 หมายถึง เห็นดว้ ยนอ้ ย คา่ เฉล่ีย 1.00 – 1.50 หมายถึง เห็นดว้ ยนอ้ ยที่สุด 4.2 สร้างแบบสอบถาม เร่ือง น้ายากดั สนิมจากมะเขือเทศ โดยขอคาแนะนา จากที่ปรึกษาหรือ ผสู้ อน จากน้นั นามาปรับปรุงแกไ้ ข แลว้ นาไปตรวจสอบความเหมาะสม

9 4.3 นาแบบสอบถามเร่ือง น้ายากดั สนิมจากมะเขือเทศ ท่ีแกไ้ ข ปรับปรุงแลว้ ใหก้ ลุ่มตวั อยา่ ง ประเมิน หลงั จากน้นั นาผลที่ไดม้ าหาค่าเฉลี่ย 5. การเกบ็ รวบรวมข้อมูล การศึกษาคร้ังน้ีไดด้ าเนินการโดยนาแบบสอบถามที่สร้างข้ึนใหน้ กั เรียนกลุ่มตวั อยา่ งตอบ จานวน 10 คน และเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู จากนกั เรียน ที่เป็นกลุ่มตวั อยา่ ง โดยผูศ้ ึกษาท้งั 10 คน ดาเนินการเก็บรวบรวมขอ้ มูลดว้ ยตนเอง 6. การวเิ คราะหข์ อ้ มลู ในการวเิ คราะหข์ อ้ มูล ผศู้ ึกษาไดว้ ิเคราะห์ขอ้ มลู ดงั น้ี 6.1 นาแบบสอบถามท้งั หมดที่ตอบโดยนกั เรียนกลุ่มตวั อยา่ ง มาหาคา่ คะแนนรวม 6.2 นาผลรวมมาคิดคา่ ร้อยละและการหาค่าเฉลี่ย 7. สถิติท่ีใชใ้ นการศึกษา สถิติท่ีใชใ้ นการศึกษาคร้ังน้ี คือ ร้อยละและการหาค่าเฉล่ีย


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook