JJNY : มะนาวราคาพุ่งพรวด│จากฝายแกนดินซีเมนต์กลายเป็นฝายไฟลุก│สภาพิจารณางบฯ ก่อนลงมติวันนี้│อียูฉลุยแผน“ถลุงเงินรัสเซีย”

ร้อนแล้ง มะนาว ราคาพุ่งพรวด แม่ค้าโอดต้นทุนสูง หลายรายหยุดขาย คาดแพงแตะ 10 บาท
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_8149860
 
บุรีรัมย์ ฤดูร้อน หน้าแล้ง มะนาว ผลผลิตออกน้อยราคาพุ่งพรวด ลูกละ 8 บาท แม่ค้าโอดต้นทุนสูง พ่อค้าปลีกบางรายหยุดขาย คาดแพงขึ้นแตะผล 10 บาท ปชช.ไม่มีกำลังซื้อ หันใช้มะขามแทน
 
21 มี.ค. 67 – ผู้สื่อข่าวสำรวจราคาพืชผัก ตลาดสดเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ช่วงฤดูร้อน หน้าแล้ง สภาพอากาศที่ร้อนจัด พบว่าผักบางชนิดมีการปรับขึ้นราคาตามฤดูกาล เนื่องจากช่วงนี้ผลผลิตจะออกน้อยกว่าฤดูกาลอื่น
 
แต่ที่ราคาพุ่งสูงมากที่สุดในช่วงนี้ก็ คือ มะนาวซึ่งมีราคาขายปลีกเฉลี่ยลูกละ 7-8 บาท จากที่ก่อนหน้านี้ขายเพียงลูกละ 3-5 บาท ทำให้พ่อค้าแม่ค้าทั้งขายปลีกและขายส่ง ต่างได้รับผลกระทบไปตามๆ กัน เพราะต้องแบกรับภาระต้นทุนในการรับซื้อมาจำหน่ายเพิ่มขึ้นจากปกติ
 
ขณะที่พ่อค้าแม่ค้าขายปลีกพืชผักบางคนถึงกับต้องชะลอรับซื้อมะนาวมาขายก่อนในช่วงนี้ เพราะสู้ต้นทุนไม่ไหว ทั้งต้องแบกรับความเสี่ยงหากขายไม่ได้ เพราะประชาชนเองก็ไม่มีกำลังซื้อและบางคนก็หันไปซื้อมะขาม หรือมะนาวขวดทดแทนมะนาวจริง เพราะมีราคาถูกกว่า คาดว่ามีแนวโน้มจะแพงขึ้นถึงลูกละ 10 บาท
 
น.ส.วรรณา และ น.ส.สวง แม่ค้าขายผักในตลาดสดเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ บอกตรงกันว่า มะนาวเริ่มมีราคาแพงมาตั้งแต่ช่วงต้นเดือน มี.ค.แล้ว โดยช่วงนี้ราคาขายปลีกอยู่ที่ลูกละ 7-8 บาท คาดว่าผลพวงมากจากสภาพความแห้งแล้งและอากาศร้อน ทำให้ผลผลิตออกน้อย ช่วงนี้จึงต้องลดปริมาณการรับมาขายต่อลงจากปกติเท่าตัว จากเมื่อก่อนช่วงที่ยังไม่แพงก็จะรับครั้งละ 10 – 15 กิโลกรัม แต่ช่วงนี้ก็เหลือเพียง 5 – 10 กิโลกรัมเท่านั้น
 
แม่ค้าบางคนก็ไม่รับมาขายเลยเพราะสู้ต้นทุนไม่ไหว แต่หากราคาแพงขึ้นถึงลูกละ 10 บาท อาจจะต้องชะลอรับมาขายเช่นกัน เข้าใจว่าเป็นไปตามฤดูกาลและกลไกตลาด แม่ค้าเองก็ต้องปรับตัวเช่นกัน ผักชนิดไหนที่แพงมากก็รับน้อยลงหรือชะลอไปก่อน เพราะหากขายไม่ได้ก็จะเน่าเสียและขาดทุนได้



เวอร์ชั่นเต็ม! จากฝายแกนดินซีเมนต์กลายเป็นฝายไฟลุก โต้เดือดด่าเ-ือก-ท้าลาออกกลางสภาฯ
https://www.matichon.co.th/clips/news_4485746

ฉบับเต็มการประชุมสภาพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 มาตรา 20 กระทรวงมหาดไทย นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะ กมธ.พิจารณางบ 2567 ชี้แจงเหตุผลหั่นงบฝายแกนดินซีเมนต์ ก่อนเกิดการประท้วงเดือดจาก สส.พรรคเพื่อไทย ถึงขั้นด่าเ-ือกและท้าลาออกกลางสภาฯ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

 
สภาพิจารณางบฯ 67 แล้ว 26 มาตรา-เหลืออีก 15 ก่อนลงมติวันนี้
https://innnews.co.th/news/politics/news_693226/

สภาเตรียมพิจารณาร่าง พรบ.งบประมาณ วาระ 2 ต่อเนื่อง เป็นวันที่ 3 เห็นชอบไปแล้ว 26 มาตรา เหลืออีก 15 มาตรา ก่อนลงมติวันนี้
 
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในเวลา 09.00 น. วันนี้ (22 มี.ค.67) เป็นวันสุดท้ายของการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 วงเงิน 3,480.000 ล้านบาท ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญ ฯ พิจารณาเสร็จแล้ว และมีการปรับลดลงกว่า 9,200 ล้านบาท ในวาระ 2 และวาระ 3 รายรายมาตราต่อจากวานนี้ (21 มี.ค.67) หลังประธานได้สั่งพักการประชุมเมื่อเวลา 01.04 น. ที่ผ่านมา โดยที่ประชุมผ่านความเห็นชอบเพิ่มอีก 11 มาตรา ซึ่งที่สมาชิกสงวนความเห็นและคำแปรญัตติกันมาก เช่น มาตรา 20 งบประมาณของกระทรวงมหาดไทย , มาตรา 22 งบประมาณของกระทรวงแรงงาน , มาตรา 23 กระทรวงวัฒนธรรม และมาตรา 24 งบประมาณของกระทรวงศึกษาธิการ
 
ทั้งนี้ ภาพรวม 2 วัน ที่ประชุมผ่านความเห็นชอบแล้ว 26 มาตรา เหลืออีก 15 มาตรา จากทั้งสิ้น 41 มาตรา โดยเช้าวันนี้ จะเริ่มพิจารณาต่อที่มาตรา 27 งบประมาณของส่วนราชการไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี ที่กรรมาธิการปรับลดลงเหลือกว่า 35,400 ล้านบาท จากเดิมเสนอมากว่า 35,900 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน การประชุมเมื่อวานนี้ (20 มีนาคม) มีมาตราที่น่าสนใจ สมาชิกจากพรรคก้าวไกล อภิปรายค่อนข้างดุเดือด คือ มาตรา 20 งบประมาณกระทรวงมหาดไทย ที่ กมธ. ตัดลดงบประมาณเหลือ290,098,048,900บาท จากที่เสนอมา 291,535,042,000บาท และมีการอภิปรายยาวนานกว่า 1 ชั่วโมง โดยเฉพาะประเด็นโครงการฝายแกนดินซีเมนต์องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) 3,000กว่าแห่งทั่วประเทศจำนวน 1,255 ล้านบาท ที่พรรคก้าวไกล เปรียบเหมือนเป็นการแจกเสื้อโหลชัดเจน พร้อมแฉพรรคเพื่อไทย สมคบ สว. อยู่เบื้องหลัง ดันโครงการนี้ เร่งรีบดำเนินการ จึงขอท้ากล้าประกันความทนทาน 2 ปีหรือไม่ ขอยืนยันดินผสมซีเมนต์ผิดหลักการ เข้ากันเป็นเนื้อเดียวไม่ได้ และเรียกร้องให้กระจายงบประมาณอย่างเป็นธรรมทั่วถึง อย่าทำเป็นมือใครยาวสาวได้สาวเอา ทำให้ ประธานวิปรัฐบาลของขึ้น ด่ากลับ ไม่รู้ อย่า ส.ใส่เกือก พร้อมท้าลงพื้นที่ดูให้เห็นกับตา
เช่นเดียวกับ มาตรา 21 งบประมาณกระทรวงยุติธรรม จำนวน 13,326 ล้านบาท ซึ่ง กมธ. ขอปรับลดลง 107 ล้านบาท โดย สส.พรรคก้าวไกล มองว่า ไม่ตอบโจทย์คืนคนดีสู่สังคม นักโทษทำผิดซ้ำซาก มีจำนวนสูงลิ่วกว่า 9 หมื่นคน ส่วนงบค่าเช่ารถหรูข้าราชการตุลาการมากถึง 3.6 แสนบาทต่อปี ขณะที่กรมราชทัณฑ ตั้งเป้านักโทษสูงเกินจริงทุกปี แต่จัดสรรงบไม่เคยเพียงพอ ทำให้ข้องใจมีเงินทอนหรือไม่ สำหรับกรมคุ้มครองสิทธิ์ฯ’ ที่ของบ 2 พันกว่าล้านบาท จะใช้หมดทันเวลาหรือไม่
 
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจนถึงมาตรา 41 จากนั้น จะเป็นการพิจารณาข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ และพิจารณาต่อในวาระที่ 3 ก่อนส่งให้วุฒิสภาพิจารณาต่อในวันที่ 26 มีนาคมนี้ ต่อไป
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่