"พาเลาะเจอร์นีย์ รถไฟ-เชียงใหม่-มอไซค์-ม่อนแจ่ม"

สวัสดีสมาชิกผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวทุกท่านครับ วันนี้พวกเรามีทริปท่องเที่ยวที่น่าตื่นเต้นมาฝากอีกเช่นเคย 
โดยทริปนี้จะเป็นการนั่งรถไฟ จากกรุงเทพขึ้นไปเชียงใหม่ หลังจากนั้นเช่ารถมอเตอร์ไซค์ ขับไปม่อนแจ่ม 
ถ้าพร้อมแล้ว ไปลุยกันครับ




จุดเริ่มต้นการเดินทาง เราเริ่มจากการนั่งรถไฟครับ เราเลือกที่จะขึ้นที่สถานีรังสิต

รถไฟที่เราโดยสารเป็นรถไฟขบวนที่ 9 ด่วนพิเศษ "อุตราวิถี" เราเลือกนั่งชั้น 2 สำหรับค่าโดยสารค่าโดยสาร กรุงเทพ-เชียงใหม่จะอยู่ที่ 
เตียงบน 941 บาท
เตียงล่าง 1041 บาท

รถออกเวลา 18:10 ถึงเชียงใหม่ 07:15 ครับ

Cr. รูปภาพจากเว็บไซต์การรถไฟแห่งประเทศไทย
http://www.railway.co.th/main/train/popular.html

อ้อลืมบอก เราสะดวกขึ้นที่สถานีรังสิตนะครับ และนี่ก็เป็นเส้นทางที่เราจะเดินทางในค่ำคืนนี้

 
เนื่องจากการเดินทางในคืนนี้ มันค่อนข้างนาน ดังนั้นเราเลย ตุนขนมมาไว้พอสมควร เผื่อหิวกลางดึก
แต่บนรถไฟก็มีตู้สเบียงนะครับ ถ้าหิวก็เดินไปกินได้ แต่ต้องไปก่อน 4 ทุ่มนะครับ 

ได้เวลานอนครับ เพราะพรุ่งนี้ต้องใช้พลังงานค่อนข้างเยอะ


07:05 รถไฟวิ่งใกล้จะถึงเชียงใหม่แล้วครับ


07:25 ถึงสถานีเชียงใหม่แล้วครับ ลงรถไฟแล้วdHไปหาที่เช่ารถมอเตอร์ไซค์กัน


คนเยอะมากครับ น่าจะเป็นเพราะช่วงหยุดยาว


ซ้ายมือนั่น น่าจะเป็นร้านให้เช่ามอเตอร์ไซค์


ตรงป้ายนี้มีคนมาถ่ายรูปเยอะพอสมควร


ร้านให้เช่ารถมอเตอร์ไซค์ อยู่ติดชานชาลาที่ 2 เลยครับ ตอนนี้ประมาณ 07:30 ซึ่งร้านเปิดแล้วพอดี


เส้นทางที่เราจะไปมันเป็นเขา เลยต้องเอาพวก 125cc ขึ้นไปกลัวไม่ไหว เลยเลือกคันนี้ละกัน

รถที่ร้านมีให้เลือกเป็น 10 คันได้มีรถเก่ารถใหม่ปนกันไป

ค่าเช่าคันนี้วันละ 250 บาทถ้าเกินคิดค่าปรับชั่วโมงละ 50บาท 
เอกสารที่ใช้คือบัตรประชาชน 1 ใบกับต้องเซ็นเอกสารเช่ารถ ซึ่งในเอกสารเขาจะกรอกว่าเราจะเดินทางไปที่ไหน พักที่ไหน ถ้ารถเกิดมีปัญหาเขาซัพพอร์ทเราแค่ รัศมี 40 กิโลเมตรครับ

หมวกกันน๊อคแบบไม่มีกระจกยืมฟรี ส่วนแบบมีกระจกวันละ 50 บาทครับ

น้ำมันจะมีให้ครึ่งถัง ขากลับคืนรถต้องครึ่งถังเหมือนกัน ( ดูดีๆนะครับ คันของผมตอนที่ร้านครึ่งถัง ขับออกไปไม่ถึงกิโล ตกฮวบลงมาเหลือ 1/4 ถัง) เจ้าของร้านบอกให้เติมแก๊สโซฮอลล์ 95

ปล. ตอนไปเช่า เจ้าของร้านนี่โกรธใครมาก่อนรึเปล่าเนี่ย


นาทีนี้ Google Map ต้องทำงานละ ระยะทางที่เราจะขับไปคือ 42 กิโลเมตร พร้อมแล้ว ลุยกันครับ


อันดับแรก แวะปั๊มก่อนเลยครับ เติมเต็มถังหมดไป 60 บาท


ทุกอย่างพร้อมแล้ว มุ่งหน้าต่อครับ


อากาศวันนี้เย็นสบายๆ แอบหนาวนิดๆ ขับรถไม่ร้อนเลยครับ


เราขับมาทางอำเภอแม่ริม ขับไปจอดไป เพราะต้องดูแผนที่ด้วย


09:15 รู้สึกเริ่มหิวเลยแวะหาข้าวกินก่อน คือว่าด้วยความที่ไม่ใช่คนพื้นที่เลยไม่รู้ว่าจะมีร้านข้าวอยู่อีกหรือเปล่า เลยตัดสินใจแวะก่อนครับ เติมพลังกันหน่อย จุดนี้คือเลยออกมาจากอำเภอแม่ริมนิดเดียว


เมนูหลักก็นี่เลยครับ ไก่ย่าง


และอีกอย่างคือส้มตำ ชีวิตนี้ขาดปลาร้าไม่ได้เลย


กินข้าวเสร็จก็ขับรถต่อ ความเร็วที่ใช้ก็ 50-60 ไม่ได้ขับเร็มเท่าไหร่ครับ


แถวนี้ที่เที่ยวเยอะไปหมดเลย


ขับเลยโป่งแยงมานิดหน่อย ทางนี่อย่างโหดเลยครับ มันคือการขับรถขึ้นเขา ตรงจุดนี้คือต้องจอดครับ ผมรู้สึกว่ารถมีกลิ่นเหม็นไหม้ รู้สึกกลัวมันพังกลางทาง เลยจอดพักเครื่องให้เย็นก่อนขับต่อ


10:50 ก็มาถึงที่พักเราเลือกที่นี่ครับ ไร่มีนาที่พักเป็นแบบกระโจม ราคาก็เริ่มต้นที่พัก 2 คน 2000 บาท 3 คน 2300 ( ไม่แน่ใจว่าราคาจะมีเปลี่ยนแปลงไหม อันนี้ต้องสอบถามกับทางที่พักอีกทีครับ)
ปล. ขอชมหน่อยเจ้าของต้อนรับดีครับ


เนื่องจากว่าเรามาถึงที่พักไวกว่าปกติ ยังไม่ทัน 11 โมงเลย ซึ่งมันยังไม่ถึงเวลาเช็คอิน
เจ้าหน้าที่เลยให้คุยกับเจ้าของ ก็ได้ข้อสรุปว่างั้นก็เลือกที่พักรอไว้ก่อน เดี๋ยวผมไปขับรถเล่นค่อยกลับเข้ามา
อันนี้เจ้าของที่พักจัดการให้เรียบร้อย


สั่งกาแฟร้อนๆ สักแก้ว พร้อมกับถามเจ้าหน้าที่ ตอนนี้มีที่ไหนน่าไปถ่ายรูปรอได้บ้าง  เขาบอกว่า นู่นเลย พร้อมชี้ไปฝั่งตรงกันข้าม ตรงนั้นแหละม่อนแจ่ม มีสวนดอกไม้ไปถ่ายรูปเล่นได้
โอเค งั้นเราจะฝากกระเป๋าไว้ก่อนและจะขับรถไป


เส้นทางที่เราจะไปต่อครับ จากไร่มีนาไปไร่ดอกลมหนาว


12:10 ระยะทางจากที่พัก มาถึงที่นี่ก็ 2 กิโล คือเป็น 2 กิโลแบบบนเขานะครับ เสียวทุกเนินทุกโค้ง


จอดรถเรียบร้อยเดินไปสำรวจข้างบนกัน คนก็เยอะพอสมควรครับ ต่างชาติก็มี


ไร่ดอกลมหนาว เอ๊ะมีอะไรข้างใน ป่ะเข้าไปชมกัน


แต่ก่อนเข้า ต้องมีค่าบำรุงสวน ไม่แพงครับคนละ 30 บาท


ได้บัตรเข้าสวนมาละ หน้าตาเป้นอย่างนี้


ในสวนนี้มีดอกไม้สวยๆ เยอะแยะไปหมด บางดอกผมก็ไม่รู้ชื่อมันเหมือนกันครับ


อันนี้มองย้อนไปทางที่พักของเราครับ


มีจุดให้ยืนถ่ายรูปเยอะครับ
อ้อ ในสวนเขาเตรียมตะกร้าใส่ดอกไม้ให้ ใช้เป็นพร๊อบถ่ายรูปด้วยนะครับ



ข้างบนมีร้านค้า ร้านกาแฟให้บริการ แต่จุนนี้จะอยู่ข้างนอกสวนนะครับ


มองย้อนกลับไปทางที่ขึ้นมา เอ๊ะ นั่นอะไรเห็นเขาเล่นรถอะไรกัน เดี๋ยวต้องเดินกลับไปดู


ศูนย์เรียนรู้การปลูกป่าในระบบวนเกษตรแบบโครงการหลวง


โอเค ได้เวลาเดินไปดูเจ้ารถล้อเลื่อนไม้ละครับ


แต่ก่อนอื่น แวะดูสตรอเบอรี่ก่อนลูดสดๆ เพียบเลย
จริงๆ แล้วตรงนี้คือจุดที่เราเดินขึ้นมาเมื่อก่อนหน้านี้ครับ แต่ว่าไม่ได้แวะ


ราคาไม่แพงครับ ได้ลองชิมดูแล้ว อร่อยมาก


แม่ค้าน้อย น่าร๊าากมาก



มีชุดชาวดอยขายด้วยนะครับ หรือถ้าอยากจะเช่าถ่ายรูปก็มี


ราคาค่าเล่นรถล้อเลื่อนไม้ครับ

คันเดี่ยวนั่งคนเดียว 50 บาท
คันคู่นั่ง 2 คน 80 บาท


เท่าที่ผมไปยืนดู เขาจะเอารถกระบะ ลากรถไม้นี่ขึ้นไปบนเนิน ไกลๆ นู่นเลยแล้วก็ปล่อยไหลลงมา


หน้าตาเป็นแบบนี้ครับ มีเบรคมือให้อันนึง


14:30 ยืนดูเขาเล่นได้พักนึง ก็ได้เวลากลับละครับ กลับที่พักเพื่อไปเตรียมของก่อน


ถึงที่พักจัดการข้าวของเสร็จ ก็ออกขับรถมอเตอร์ไซค์เลาะกันต่อครับ มาเจอยายคนนี้ปิ้งมันกับข้าวโพดขาย
ข้าวโพด 20 บาท มันปิ้ง 3ชิ้น 20 บาท  อร่อยดีครับ