สวัสดีชาว Pantip ทุกคน
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า นี่เป็นการรีวิวครั้งแรกถ้ามีข้อผิดพลาดประการใด ยังไงขอต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
หากจะพูดถึงอุทยานแห่งชาติในจังหวัดลำปาง เชื่อเหลือเกินครับ ว่าหลายท่านคงจะคิดถึงอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนเป็นอันดับแรก
และยังมีอุทยานแห่งชาติแห่งอื่นที่มีชื่อเสียงไม่แพ้อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนได้แก่ อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล อุทยานแห่งชาติแม่วะ
อุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท อุทยานแห่งชาติดอยจง แต่ว่าวันนี้ผมจะพาไปแนะนำอุทยานแห่งชาติแห่งใหม่ในจังหวัดลำปางคือ
"อุทยานแห่งชาติเขลางค์บรรพต" ครับ
อุทยานแห่งชาติเขลางค์บรรพตตั้งอยู่ในจังหวัดลำปางเป็นแนวเขาทอดยาวกั้นระหว่างอำเภอเมืองและอำเภอแม่เมาะออกจากกัน
แต่เดิมมาพื้นที่แห่งนี้มีปัญหาการเกิดไฟป่าทุกปีจึงเกิดแนวคิดการอนุรักษ์พื้นที่บริเวณนี้และผลักดันให้เกิดเป็นอุทยานแห่งชาติในที่สุด
เอาหล่ะครับกลัวจะออกทะเลไปไกลมาดูสถานที่น่าสนใจในอุทยานแห่งชาติเขลางค์บรรพตกันดีกว่า
ที่ตั้งที่ทำการอุทยาน
ตรงนี้สำคัญมากครับ!!!! สำหรับการเดินทางไปยังดอยหน้าผากช้างนั้น ณ ตอนนี้วันที่ 21 พฤศจิกายน 2561 ยังไม่เปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวนะครับทางผมที่ได้รับอนุญาตขึ้นไปก็เพราะทำงานในส่วนอุทยาน เลยมีโอกาสได้ตามเจ้าหน้าที่ไป หากเพื่อนๆอยากจะขึ้นไปกางเต็นท์ดูวิวทิวทัศน์ควรติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขลางค์บรรพตนะครับ เพื่อความปลอดภัยของเพื่อนๆเอง
การเดินทางครั้งนี้ ผมออกเดินทางในวันที่ 15-16 พฤศจิกายน 2561 ซึ่งเป็นช่วงที่จังหวัดลำปางมีหมอกลงเยอะพอสมควรซึ่งคาดว่าน่าจะได้เห็นเมฆหมอกที่เยอะพอสมควร ผมและเพื่อนๆเริ่มเดินทางเวลาประมาณ เที่ยงวันของวันที่ 15 โดยมีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขลางค์บรรพเป็นผู้นำทางซึ่งจุดหมายที่เราจะไปกางเต็นท์ก็คือ บริเวณดอยหน้าผากช้างครับ จุดแรกที่ต้องแวะเลยก็คือศาลเจ้าพ่อเขางามครับ ขอพรให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยคุ้มครองกันสักหน่อยครับ
เอาละครับมาเริ่มเดินป่ากันเลยเริ่มแรกจะพบกับอุโมงค์ไม้ไผ่และทางเดินที่รกพอดู สำหรับเส้นทางนั้นพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าเบญจพรรณกับเต็งรังครับมีหินก้อนเล็กๆอยู่พอสมควร ทางเดินก็ชันน่าดู ชันชนิดที่ว่าเริ่มท้อกันเลยครับ แค่ 300 เมตรแรกก็แทบถอดใจอยากกลับบ้านกันเลยทีเดียว
พอผ่านเนินที่ชันจบแทบร้องขอชีวิตมาแล้วก็จะพบกับ "ม่อนปลดเป้" ม่อนในภาษาเหนือแปลว่าเนินเล็กๆ หรือภูเขาเตี้ยๆ ส่วนที่ได้ชื่อว่าม่อนปลดเป้ก็ชัดเจนเลยครับใครที่มาถึงจุดนี้ต้องปลอดสัมภาระออกพร้อมกับนั่งพักด้วยความอิดโรย
พอพักได้สักครู่ก็ต้องเดินทางกันต่อ
ขอตั้งชื่อรูปนี้ว่า "กลับตัวก็ไม่ได้ ให้เดินต่อไปก็ไปไม่ถึง"
วิวสวยๆ เป็นรางวัลแด่ความเหนื่อยหล้า พอมาถึงตรงนี้ก็ผ่านมาได้ครึ่งทางแล้วครับ
500 เมตรสุดท้ายจะมีอีก 2 เนินครับแม้ว่าไม่มากเท่าม่อนปลดเป้ครับ
ในที่สุดก็ถึงบริเวณที่จะกลางเต็นท์ครับ ตรงนี้สามารถมาเห็นวิวของอำเภอเมืองลำปางได้ชัดเจนทีเดียว แถมยังมีก้อนหินขนาดใหญ่ที่คอยกันลมให้ด้วยครับ กลางคืนจึงไม่ค่อยหนาวมาก
จุดชมวิวจะอยู่ห่างจากบริเวณกางเต็นท์ประมาณ 300 เมตรครับ ตรงนี้เราต้องปีนโขดหินไป
พอมาถึงจุดชมวิวเราสามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้ทั้งอำเภอเมืองลำปางและอำเภอแม่เมาะได้ครับ อีกทั้งยริเวณนี้ยังมีต้นสนอีกด้วย สวยมากครับ
พอตกดึกก็ยังเห็นแสงไฟจากตัวเมืองครับ ขอตั้งชื่อภาพนี้ว่า "นับดวงดาวบนฟ้า ตระการตาดาวบนดิน"
อรุณสวัสดิ์ครับ กลับมาที่จุดเดิมก็สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นสวยงามดีครับ
เมื่อพระอาทิตย์ขึ้นได้ไม่นาน จากป่าที่เคยเป็นสีเขียวก็เกิดการไหลเข้ามาของหมอกสีขาวที่พร้อมจะปกคลุมพื้นป่าโดยรอบ จากที่เคยเห็นภูเขาทั้งลูกก็จะเหลือเพียงยอดเล็กๆเพียงเท่านั้น
อ่านมาถึงตรงนี้ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามครับ เชื่อเหลือเกินครับว่าอีกไม่นานที่แห่งนี้จะเป็นจุดท่องเที่ยวที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดลำปาง ให้นักท่องเที่ยวทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัดแวะเวียนมาเยี่ยมชมครับ
สำหรับกระทู้แนะนำดอยหน้าผากช้าง อุทยานแห่งชาติเขลางค์บรรพตก็ขอจบการแนะนำแต่เพียงเท่านี้ ขอบคุณครับ และสวัสดี
เที่ยวดอยหน้าผากช้าง ที่อุทยานแห่งชาติเขลางค์บรรพต จังหวัดลำปาง
และยังมีอุทยานแห่งชาติแห่งอื่นที่มีชื่อเสียงไม่แพ้อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนได้แก่ อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล อุทยานแห่งชาติแม่วะ
อุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท อุทยานแห่งชาติดอยจง แต่ว่าวันนี้ผมจะพาไปแนะนำอุทยานแห่งชาติแห่งใหม่ในจังหวัดลำปางคือ
"อุทยานแห่งชาติเขลางค์บรรพต" ครับ
แต่เดิมมาพื้นที่แห่งนี้มีปัญหาการเกิดไฟป่าทุกปีจึงเกิดแนวคิดการอนุรักษ์พื้นที่บริเวณนี้และผลักดันให้เกิดเป็นอุทยานแห่งชาติในที่สุด
เอาหล่ะครับกลัวจะออกทะเลไปไกลมาดูสถานที่น่าสนใจในอุทยานแห่งชาติเขลางค์บรรพตกันดีกว่า