🙉🙉🙉--กำเนิดขุนพลลิง ผู้สานต่อการรวมญี่ปุ่น ฮิเดโยชิ--🙉🙉🙉

ความเดิมตอนที่แล้ว
http://pantip.com/topic/33665090




ฮิเดโยชิ โทโยโทมิ (Hideyoshi Toyotomi : 豊臣秀吉) 




เป็น 1 ใน 3 บุรุษสร้างชาติและรวบรวมแผ่นดินในยุคมืดคือสมัยเซนโคกุ (戦国時代)

ได้สร้างผลงานต่อจากโนบุนางะ โอดะ ไดเมียวคนสำคัญแห่งยุคอีกหนึ่งคน ว่ากันว่าเขาเป็นคนที่มีไหวพริบดีและฉลาดในการปกครองที่สุดใน 3 บุรุษสร้างชาติ  บุรุษสร้างชาติคนก่อนที่นำเสนอไปนั้นก็คือ โนบุนากะ โอดะ ขุนพลสะท้านแผ่นดิน



            ฮิเดโยชินั้นเกิดที่แคว้นโอวาริ (尾張) จังหวัดไอจิในปัจจุบัน (愛知) ในครอบครัวชาวนาที่ยากจน โดยมีชื่อเดิมว่าโทคิจิโร่ คิโนะชิตะ (Tokichiro Kinoshita : 木下藤吉郎) และมีฉายาว่า “ลิง” มาตั้งแต่เด็ก เพราะมีใบหน้าคล้ายลิง!! ภายหลังบิดาเสียชีวิตก็ได้เดินทางไปยังแคว้นมิคาวะเพื่อเข้าร่วมกองทัพของโยชิโมโตะ อิมาคาวะ (Yoshimoto Imagawa : 今川義元) อยู่พักหนึ่งจึงตัดสินใจเดินทางกลับบ้านเกิดและเข้าร่วมกองทัพของโนบุนากะเพื่อร่วมรบกับกองทัพของโยชิโมโตะที่มีกำลังเหนือกว่าถึง 5 เท่าจนสำเร็จ



นอกจากนี้ในการทำศึกกับตระกูลไซโตไดเมียวแห่งแคว้นมิโนะ ฮิเดโยชิก็ได้คิดอุบายให้โนบุนางะเข้ายึดปราสาทปราสาทกิฟุ (岐阜) บนเขาอินาบะ (稲葉山) เพราะค้นพบทางลัดขึ้นเขา และเขาก็ได้เป็นเพื่อนสนิทกับโทชิอิเอะ มาเอดะ (Toshiie Maeda : 前田利家) ที่จะเป็นพันธมิตรสำคัญที่สุดในอนาคตของเขาด้วย แต่ด้วยนิสัยที่หยิ่งเกินไปและสามารถก้าวขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งที่สูงได้ในเวลาอันสั้นนั้น ทำให้นายทหารคนอื่นๆไม่ค่อยจะชอบเขาสักเท่าไหร่  417px-YoshiClimber_R โทคิจิโร่ คิโนะชิตะ ปีนเขาอิบานะ หลังจากนั้นฮิเดโยชิก็ได้ร่วมเดินทัพไปเกียวโตกับโนบุนากะและเปลี่ยนชื่อจากโทคิจิโร่ คิโนะชิตะ (Tokichiro Kinoshita : 木下藤吉郎) มาเป็นฮิเดโยชิ ฮาชิบะ (Hideyoshi Hashiba : 羽柴秀吉)



และได้ร่วมทำศึกต่างๆอีกมากมายโดยดำรงตำแหน่งขุนพลครั้งแรกในปี ค.ศ. 1570 ซึ่งเข้าปะทะกับโยชิคาเงะ อาซาคุระ (Yoshikage Asakura : 朝倉義景) และนางามาสะ อะไซ (Nagamasa Azai : 浅井長政) ที่แม่น้ำอะเนะ (Anegawa : 姉川の戦い) พอชนะศึกครั้งนี้ก็ได้รับตำแหน่งไดเมียวแห่งแคว้นโอมิ (近江) ซึ่งเป็นดินแดนเดิมของตระกูลอะไซ  ปี ค.ศ. 1576 ฮิเดโยชิและมิสึฮิเดะ อาเกชิ (Mitsuhide Akechi : 明智光秀) ได้รับมอบหมายจากโนบุนากะให้ยกทัพไปทำสงครามกับตระกูลโมริที่กำลังเรืองอำนาจอยู่ที่ชูโกคุ ซึ่งนำโดยเทรุโมโตะ โมริ (Terumoto Mori : 毛利輝元)

ซึ่งในสงครามครั้งนี้เองทำให้ฮิเดโยชิได้รู้จักกับโยชิทากะ คุโรดะ (Yoshitaka Kuroda : 黒田孝高) หรือคัมเบะ คุโรดะ (Kanbe Kuroda : 黒田官兵衛) ซึ่งจะมาเป็นที่ปรึกษาคนสำคัญของฮิเดโยชิ ในขณะที่ฮิเดโยชิยึดปราสาททาคามัตสึ (Takamatsu : 高松) ของตระกูลโมริได้นั้นก็ได้ทราบข่าวว่าโนบุนางะและลูกชายถูกมิสึฮิเดะลอบสังหารที่วัดฮอาโนจิแล้ว… ฮิเดโยชิจึงมุ่งหน้าสู่เกียวโตและสังหารมิสึฮิเดะได้อย่างง่ายดายที่ศึกยามาซากิ (山崎の戦い)


ขอย้อนไปถึงเหตุการณ์ในกระทู้ก่อนหน้า การเสียชีวิตของ ไดเมียวผู้กล้าแกร่ง
ศึกที่วัดฮอนโนจิ อวสานโนบุนากะ
เหตุการณ์ที่วัดฮอนโนจิ ส่งผลสะเทือนต่อหน้าประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นอย่างที่ไม่มีใครคาดคิด และผู้จุดชนวนนั้นก็คือ อาเคจิ มิตสึฮิเดะ ผู้เก็บงำความไม่พอใจในตัวของโนบุนางะเอาไว้ จนกระทั่งมันรุนแรงมากขึ้นและประทุออกมา



ในปี ค.ศ. 1582 โนบุนางะวางแผนเตรียมการพิชิตดินแดนทางตะวันตกของโมริให้ราบคาบ เพื่อจะได้ครองญี่ปุ่นโดยสมบูรณ์ ฮิเดโยชิได้รับการวางตัวให้เป็นแนวหน้าในการทำศึกกับโมริ และก็ต้องประสบกับความยากลำบากมาก เพราะทัพเรือของโมริก็ยังคงมีอานุภาพเข้มแข็ง และต้านทานการรุกของฮิเดโยชิได้

โนบุนางะจึงส่งมิตสึฮิเดะให้นำกองทัพสนับสนุนไปช่วยเหลือฮิเดโยชิจำนวนหลายหมื่นคน โดยก่อนจะออกศึกครั้งนี้ อิเอยาสึซึ่งเพิ่งจะทำศึกทางฝั่งมิคาวะเสร็จ ก็ได้เข้ามาเยี่ยมโนบุนางะอย่างเป็นทางการ โนบุนางะจึงได้จัดงานเลี้ยงต้อนรับอิเอยาสึ โดยมอบหมายให้มิตสึฮิเดะซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในงานพิธีต่างๆรับหน้าที่นี้

แต่ระหว่างที่กำลังเลี้ยงต้อนรับอิเอยาสึ ซึ่งจัดว่าเป็นงานสำคัญมากเพราะอิเอยาสึเป็นพันธมิตรที่มีกำลังใหญ่โตที่สุดและเป็นพันธมิตรมายาวนานที่สุดในบรรดาพันธมิตรทั้งหมดของโนบุนางะนั้น มีรายงานแจ้งเข้ามาถึงการเคลื่อนไหวของทางโมริ ซึ่งฮิเดโยชิกำลังลำบากอย่างหนักและอาจจะต้านทานไม่อยู่ โนบุนางะจึงคิดจะส่งกำลังหนุนไปช่วย โดยสั่งให้มิตสึฮิเดะไปเตรียมทัพของตนเพื่อออกศึก และขอริบดินแดนซากาโมโตะ และทัมบะซึ่งเป็นดินแดนในปกครองของมิตสึฮิเดะทั้งหมดคืนมา และสั่งว่าหากมิตสึฮิเดะสามารถตีโมริแตกได้ ก็จะมอบดินแดนทั้งหมดของโมริ ซึ่งก็คืออิสึโมะให้แก่มิตสึฮิเดะ

การสั่งการของโนบุนางะในครั้งนี้ค่อนข้างแปลกพิสดาร เพราะการที่ริบดินแดนคืนก่อนที่แม่ทัพผู้นั้นจะออกศึก ก็เท่ากับว่าไม่มีปราสาทและดินแดนให้ครอบครัวและผู้คนของแม่ทัพผู้นั้นอยู่อาศัย มิตสึฮิเดะไม่มีทางเลือกนอกจากต้องพาครอบครัวทั้งหมดของตนและของผู้ใต้บังคับบัญชากว่าหมื่นชีวิตเคลื่อนย้ายไปยังสนามรบด้วย


คำสั่งของโนบุนางะในครั้งนี้เปรียบเสมือนฟางเส้นสุดท้ายที่บีบจนมิตสึฮิเดะหมดทางเลือก เนื่องจาก 3 ปีมานี้ เขายังคงเจ็บแค้นโนบุนางะในเรื่องการตายของแม่ตนมาตลอด เมื่อรวมกับความรู้สึกที่อยากให้บ้านเมืองสันติของตัวเขาด้วยแล้ว หากยังปล่อยให้โนบุนางะซึ่งมีแต่จะเหี้ยมโหดขึ้นทุกวันมีชีวิตต่อไปละก็ แผ่นดินคงนองเลือดไม่จบสิ้น เขาจึงตัดสินใจก่อกบฏต่อโนบุนางะ



ในวันนั้นโนบุนางะเข้าพักที่วัดฮอนโนจิ ซึ่งตามปกติแล้วเมื่อโนบุนางะอยู่ในเขตแดนของตนมักจะวางกำลังป้องกันตนเองไว้ไม่มาก ทหารที่เขาพาไปที่วัดฮอนโนจิมีจำนวนเพียง 30 คนเท่านั้น มิตสึฮิเดะรู้ถึงข้อนี้จึงแสร้งทำเป็นจะยกทัพไปช่วยฮิเดโยชิตามคำสั่งของโนบุนางะในทีแรก โดยทำการเดินทัพในยามวิกาล เพื่อใช้ความมืดอำพรางจำนวนแท้จริง ในขณะที่กองทัพส่วนใหญ่ซึ่งมีจำนวนเกือบหมื่นคนยังคงปักหลักรอโอกาสอยู่

อาเคจิ มิตสึฮิเดะ

จนกระทั่งมิตสึฮิเดะแน่ใจแล้วว่าโนบุนางะเข้าค้างคืนที่วัดฮอนโนจิด้วยกำลังส่วนตัวเพียงเล็กน้อย ปราศจากแม่ทัพคนใดอยู่เคียงข้าง เขาจึงสั่งโจมตีแบบสายฟ้าในยามค่ำคืนทันที ซึ่งนับว่าทุกอย่างประจวบเหมาะ เพราะโอดะ โนบุทาดะ บุตรชายคนโตของโนบุนางะนำกำลังของตนออกไปยังปราสาทกิฟุพอดี ดังนั้นถึงแม้ว่าโนบุทาดะจะทราบข่าวการโจมตีนี้ ก็ไม่อาจยกทัพกลับมาช่วยได้ทัน ซึ่งเรื่องครั้งนี้สร้างความเสียใจแก่โนบุทาดะมาก ภายหลังเขาจึงทำการคว้านท้องตนเองลง


ฝ่ายโนบุนางะเมื่อรู้ว่ามิตสึฮิเดะก่อการ ก็สายเกินไปที่จะแก้ไข ทหารของโนบุนางะที่เฝ้าอารักขาอยู่ที่วัดฮอนโนจินั้นน้อยเกินกว่าจะต้านทานกองทัพเชี่ยวชาญศึกของมิตสึฮิเดะได้ ในที่สุดวัดฮอนโนจิก็ถูกเผา และโนบุนางะก็สิ้นชีพลงที่นั่น ด้วยอายุขัย 49 ปี โดยที่ไม่มีผู้ใดพบศีรษะของเขา ซึ่งกล่าวกันว่าเขาได้ทำการฮาราคีรีตนเองในกองไฟ และได้ฝากศีรษะของตนเองให้แก่ โมริ รันมารุ คนสนิทข้างกายเอาไปซ่อนไว้ บ้างก็ว่าร่างของเขาถูกไฟเผาจนเหลือแต่เถ้ากระดูก

มิตสึฮิเดะกลายเป็นผู้พิฆาตจอมมารฟ้า ยุติความโหดเหี้ยมทารุณที่เกิดจากน้ำมือของจอมมารผู้นี้ลงได้ แต่กระนั้นแผ่นดินก็ยังไม่พบกับความสงบ

มิตสึฮิเดะกลายเป็นผู้มีอำนาจสูงสุด แต่ก็เป็นเวลาเพียง 7 วันเท่านั้น ก่อนที่ชายผู้หนึ่งจะประกาศชูธงแก้แค้นให้แก่โนบุนางะ และสามารถทำได้สำเร็จ ทำให้เขากลายเป็นผู้มีอำนาจยิ่งใหญ่กว่าสมัยของโนบุนางะเสียด้วยซ้ำ ชายผู้นั้นก็คือ ขุนพลที่ว่ากันว่าร้ายกาจที่สุดในกองทัพโอดะ ผู้ไต่เต้ามาจากชาวนา นั่นก็คือ โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่