ประวัติสงครามญี่ปุ่น ภาค 4 ฮิเดโยชิ และ อิเอยาสุ


อาเคจิ มิตสึฮิเดะ
หลังจากการตายของ “โอดะ โนบุนางะ” อาคาจิก็ได้ก็ได้เข้าไปตั้งทัพที่ปราสาทโยโด และ โชริวจิ
เพื่อจัดการความวุ่ยวายในดินแดนของโนบุนางะ

ทางด้าน “ฮาชิบะ” เมื่อทราบข่าวการตายของโนบุนางะ ก็ได้ขอสงบศึกกับตระกูลโมริ
และเคลื่อนทัพ 3 หมื่นมาทางภาคกลางเพื่อต่อสู้กับ “มิตสึฮิเดะ”

ฮาชิบะ ฮิเดโยชิ

เมื่อมิตสึฮิเดะ ทราบข่าวการยกทัพมาของฮาชิบะ ก็ได้ไปตั้งทัพรออยู่ที่แม่น้ำเอ็นโมจิกาว่า โดยมีกำลังทหารกว่า 16,000 คน
รอตั้งรับ ก่อนวันปะทะ “ฮาชิบะ“ ได้ส่งนินจาเข้าไปวางเพลิงทำลาย ค่ายของมิตสึฮิเดะในตอนกลางคืน
รอจน รุ่งสาง ก็ได้ยกทัพกว่า 3 หมื่นเข้าถล่มทัพของอาเคจิ


ทหารของอาเคจิไม่สามารถต้านทานทัพของฮาชิบะได้ ถอยร่นไปที่ปราสาทโชริวจิ ส่วน “มิตสึฮิเดะ“ ก็หนีตาย และ หายสาบสูญไป
(คาดว่าโดนโจรป่าฆ่าตาย)  “ฮาชิบะ“ ตามตีทหารของอาเคจิที่เหลือและยึดปราสาทโชริวจิได้
ทำให้ “อาเคจิ มิตสึฮิเดะ“ ผู้ที่สามารถฆ่า “โอดะ โนบุนางะ“ กับได้ครองอำนาจได้เพียง 13 วัน
หลังได้รับชัยชนะ “ฮาชิบะ“ ก็ได้ดินแดนของ “มิตสึฮิเดะ“ มาดูแล
ทำให้ตอนนี้ ฮาชิบะ ได้กลายเป็นไดเมียวที่มีที่ดินมากที่สุดในขุนพลเก่าของโนบุนางะ


เมื่อ “ฮาชิบะ ฮิเดโยชิ“ ได้ปราบ “มิตสึฮิเดะ“ แก้แค้นให้โนบุนางะสำเร็จ เขาก็ได้รับการยกย่องและขึ้นมามีอำนาจสูงสุดในตระกูลโอดะ
และเมื่อ “โอดะ โนบุนางะ“ สิ้นไปจ้าวตระกูลคนต่อไปก็ต้องมีการเลือกขึ้นมาใหม่ “ฮิเดโยชิ“ กับ “นิวะ“
ได้จับมือกันเสนอให้ “ซันโปชิ“ ลูกชายของ“โนบุทาดะ“
(โนบุทาดะ เสียชีวิต ตอนที่โนบุนางะตายเขาฆ่าตัวตายตามเพราะโทษตัวเองที่เขายกทัพมาช่วยพ่อตัวเองไม่ทัน)
ขึ้นเป็นผู้สือทอด ซึ่งมีอายุเพียง 2 ขวบ “ชิบาตะ“ และ “มาเอดะ“ ได้คัดค้านแต่ก็ไม่เป็นผล พวกเขาจึงเกิดการขัดแย้งกับ ฮิเดโยชิ  
นับแต่ตอนนั้นมา

ค.ศ.1583 “ฮิเดโยชิ“ ได้นำกำลังทหารกว่า 5 หมื่นบุกเข้าแคว้นเอจิเซ็น เพื่อต่อสู้กับ “ชิบาตะ“ ที่มีกำลังเพียง 2 หมื่น 7 พันคน
โดยรวมกับทหารของ “ซาคุมะ โมริมาสะ“ ด้วย  ทั้งสองทัพได้ปะทะกันที่ ชิซูกาทาเกะ ใกล้ๆ กับทะเลสาบบิวะ


ผลศึกทัพของ “ฮาชิบะ“ สามารถตีทัพของ“ชิบาตะ“แตกพ่ายและบุกยึดปราสาทคิตะโนโช ในแคว้นเอจิเซ็นได้
ทำให้ “ชิบาตะ คัสซึอิเอะ“ ทำการ เซ็ปปุกุ เสียชิวิตไปพร้อมกับ “อิจิ“ ภรรยา
(น้องสาวโนบุนางะ หลังจากอาซาอิตายก็มาแต่งงานกับชิบาตะ)

เมื่อฮิเดโยชิ ปราบ ชิบาตะเสร็จสิ้น “โอดะ โนบุคัตสึ“ ลูกคนรองของโนบุนางะ เกิดความวิตก
ที่เสียคนสนับสนุนในการขึ้นมาเป็นผู้นำตระกูล เขาจึงได้ไปขอให้ “โทคุกาว่า อิเอยาสุ“ มาช่วยเหลือ
ซึ่งอิเอยาสุก็ตอบตกลง ทำให้สองผู้ยิ่งใหญ่ ฮิเดโยชิ กับ อิเอยาสุ จะต้องถึงคร่าวเปิดศึกกัน

เดือน 3 กองทัพของ “อิเอยาสุ“ ได้ มาถึงปราสาทคิโยสุในโอวาริ ตระเตรียมกองทัพสำหรับทำศึก
“อิเคดะ“ ขุนพลเฝ้าปราสาทอินุยาม่า ของตระกูลโอดะได้เปลี่ยนข้างไปอยู่ฝ่ายฮิเดโยชิ
“อิเอยาสุ“ จึงนำกำลัง 5 พันบุกตียึดปราสาทอินุยาม่าทันที แต่ไม่สำเร็จ

ทางด้าน “ฮิเดโยชิ“ เมื่อทราบข่าวการมาของ “อิเอยาสุ“ ก็ได้ยกทัพออกจากโอซาก้า มาเสริมกำลังที่ปราสาทอินุยาม่า
ทางด้าน “อิเอยาสุ“ ก็ได้เคลื่อนทัพไปที่ปราสาทโคมากิยาม่า บนเขาโคมากิ เพื่อตั้งรับ


“ฮิเดโยชิ“ เลือกที่จะตัดกำลัง “ฮิเอยาสุ“ โดยการส่งทัพย่อยเข้าตีแคว้นมิคาว่า และล้อมเขาโคมากิไว้
แต่ก็ไม่สามารถไม่สำเร็จ “ฮิเดโยชิ “ จึงถอยทัพกลับสู่ปราสาทโอซาก้า

ค.ศ.1584 เมื่อไม่สามารถหาผู้แพ้ชนะได้ “ฮิเดโยชิ“ จึงเจรจาสงบศึกกับ “อิเอยาสุ“
และได้ส่งคนในครอบครัวไปเป็นตัวประกันที่แคว้นมิคาว่า

ค.ศ.1585 เมื่อจัดการทางด้านตะวันออกเรียบร้อย “ฮิเดโยชิ“  จึงมุ่งหน้าสู่ตะวันตกต่อ โดยเป้าหมายในครั้งนี้เป็นเกาะชิโกกุ
ที่มีไดเมียวผู้ทรงอำนาจ “โจโซคาเบะ โมโตชิกะ“ จ้าวตระกูลโจโซคาเบะครอบครองอยู่

ย้อนไปในปี 1575 ตระกูลโจโซคาเบะ เป็นเพียงตระกูลที่ครอบครองส่วนหนึ่งของแคว้นโทสะเท่านั้น

โจโซคาเบะ คุนิจิกะ

“โจโซคาเบะ คุนิจิกะ“ และ “โมโตชิกะ“ ลูกชาย ได้เปิดศึกกับตระกูลอาคิ ผู้ครองแคว้นโทสะทางตะวันตก โดย “คุนิจิกะ“
รวบรวมกำลังทหาร 7 พันคน บุกตีกระกูลอาคิแตกพ่ายและได้ครอบครองแคว้นโทสะทั้งหมด

จนในปี ค.ศ.1579 เมื่อกองทัพของ “โนบุนางะ“ ได้ปะทะกับทัพของโมริ
แคว้นอิโยะ ที่ปกครองโดย “ตระกูลโคโนะ“ ก็ถูกทอดทิ้งให้โดดเดี่ยวและอ่อนแอเมื่อไม่ได้รับการสนับสนุนจากโมริ
“โมโตจิกะ“ จึงยกทัพกว่า 3 หมื่นเข้าตีแคว้นอิโยะ และ ขับไล่ตระกูลโคโนะให้ถอยออกจากชิโกกุไป
เมื่อครอบครอง 2 แคว้นใหญ่ในชิโกกุแล้ว “โมโตจิกะ“ ก็ยกทัพ ยึดแคว้นอาวะ ซานุกิ
ครอบครองเกาะชิโกกุได้สำเร็จในปี ค.ศ. 1583
จนในปี ค.ศ.1585 กองทัพของฮิเดโยชิก็ยกมาตีเกาะชิโกกุ

โดย กองทัพของ “ฮาชิบะ ฮิเดโยชิ“  มีจำนวนกว่า 1 แสนคน โดยเป็นทหารของ
“ฮิเดโยชิ“ 6 หมื่นคน ของ “ตระกูลโมริ“ 3 หมื่นคน “ตระกูลอุคิตะ“ 1 หมื่นคน
เมื่อ “โมโตจิกะ“ เห็นว่ากำลังทหารต่างกันเกินไปจึงขอยอมแพ้ “ฮิเดโยชิ“ จึงขอยึดแคว้นอิโยะ อาวะ ซานุกิ ไปดูแล
เหลือเพียงแคว้นโทสะให้ “โมโตจิกะ“ ดูแลเท่านั้น


ค.ศ. 1586 “ฮาชิบะ ฮิเดโยชิ“ ได้รับการแต่งตั้งเป็น “คัมปะกุ“ หรือผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิ
และประทานนามสกุลใหม่เป็น โทโยโทมิ กลายเป็น “โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ“

ตอนนี้ ฮิเดโยชิ ได้ครอบครองดินแดนแทบทั้งหมดของญี่ปุ่นแล้ว ยกเว้น ดินแดนบนเกาะคิวชู คันโต และ ดินแดนทางเหนือโอชู
เมื่อ “ฮิเดโยชิ“ ได้เป็นผู้สำเร็จราชการแล้ว “ตระกูลโอโตโมะ“ ในเกาะคิวชู ด็ได้ร้องขอความช่วยเหลือ
เพราะตอนนี้ “ตระกูลชิมัตสึ“ ตระกูลใหญ่อันดับหนึ่งบนเกาะคิวชู กำลัง บุกตีแคว้นของ “โอโตโมะ“

“ฮิเดโยชิ“ ตอบตกลงที่จะช่วยเหลือตระกูลโอโตโมะ และได้เป็นข้ออ้างในการยกทัพเข้ายึดคิวชู

ย้อนกลับไปในอดีต บนเกาะคิวชูนั้น เป็นดินแดนขุมกำลังของตระกูลไทระ แต่เมื่อสิ้นตระกูลไทระแล้ว
ตระกูลโชนิก็ขึ้นมามีอำนาจทางเหนือของคิวชูครอบครองแคว้นจิคุเซ็น บุเซ็น ฮิเซ็น แต่ด้วยสงครามที่ยืดเยื้อกับตระกูลโออุจิ
ก็ทำให้ตระกูลโชนิ อ่อนแอลง และ ถูกตระกูลริวโซจิ ข้ารับใช้ ยึดอำนาจไปเข้าครอบครองแคว้นฮิเซ็น ฃ
ส่วนที่เหลือถูก ตระกูลโอโตโมะเข้าควบคุม


ค.ศ. 1554 “ตระกูลชิมัตสึ“ สามารถยึดแคว้นโอสึมิจาก “ตระกูลกาโม“ ได้สำเร็จ ขึ้นมาเป็นไดเมียวที่มีอำนาจในคิวชู

ชิมัตสึ โยชิฮิโระ

โอโตโมะ โซริน

ค.ศ.1570 “โอโตโมะ โซริน“ นำกำลัง 6 หมื่น เข้าล้อมปราสาทซากะ ของ “ตระกูลริวโซจิ“ ในฮิเซ็น
ตระกูลริวโซจิมีกำลังทหารเพียงหลักพันจึงต้องวางกลยุทธและด้วยชัยภูมิที่คุ้นเคย
ทัพของ“ริวโซจิ“ ก็บุกตีทัพของ“โอโตโมะ“ในตอนกลางคืน เด็ดหัว “โอโทโมะ จิคาซาดะ“ ผู้นำทัพได้
ทำให้ทัพของโอโตโมะ ต้องแตกพ่ายล่าถอยไปทันที

ริวโซจิ ทาคาโนบุ

ค.ศ. 1577 กองทัพของชิมาซึที่นำโดย “ชิมัตสึ โยชิฮิโระ“ ได้ยกกำลังขับไล่ “ตระกูลอิโต้“ ออกไปจากฮิวงะได้สำเร็จ

ค.ศ. 1578 “โอโตโมะ โซริน“ มองว่า “ชิมัตสึ“ เป็นภัยคุกคามถ้าหากปล่อยไว้ เขาจึงรวบรวมหารกว่า 4 หมื่นยกไปที่ฮิวงะ
เพื่อจัดการกับตระกูลชิมัตสึ เมื่อ“ชิมัตสึ โยชิฮิโระ“ ทราบข่าวก็ได้ระดมกำลังกว่า 5 หมื่นคนยกไปปะทะกับทัพโซริน
ที่แม่น้ำมิมิกาว่า

ผลศึก ทัพของโซริน พ่ายแพ้อย่างหนัก จนทำให้ทัพ 4 หมื่นของ“โอโตโมะ“ เสียหายอย่างมาก
และทำให้กำลังทหารของโอโตโมะอ่อนแอลง เมื่อเห็นโอโตโมะอ่อนแอ
“ริวโซจิ ทาคาโนบุ“ ก็ได้บุกยึดดินแดนของ “โอโทโมะ“ ครอบครองแคว้น จิคุเซ็น จิคุโกะ

ค.ศ. 1584 “ตระกูลอาริมะ“ ได้ก่อการจราจลขึ้นในคาบสมุทรชิมาบาระ “ริวโซจิ ทาคาโนบุ“ จึงนำกำลังเข้าจัดการ
แต่ฝ่าย “อาริมะ“ ขอกำลังเสริมจากตระกูลชิมัตสึ มาสมทบ การกบฐเป็นไปอย่างยืดเยื้อ จนทำให้ “ทาคาโนบุ“ เสียชีวิตลง

ค.ศ. 1585 “โยชิฮิโระ“ ได้ยึดปราสาทยาสึชิโระ ในแคว้นฮิโกะ และขอให้“ตระกูลซางาระ“ ยอมแพ้


หลังการตายของ“ทาคาโนบุ“ ลูกชายของเขาก็ได้ถูกส่งตัวไปที่ชิมัตสึ เพื่อแลกกับการคงอยู่ของตระกูล
ด้วยความแข็งแกร่งของตระกูลชิมัตสึ “โยชิฮิโระ“ ก็สามารถไล่ต้อนทั้งตระกุล“โอโทโมะ“ และ “ริวโซจิ“
จนสามารถครอง คิวชูเกือบทั้งหมด

ค.ศ. 1586 “โยชิฮิโระ” เข้าโจมตีตระกูลโอโตโมะ ยึดแคว้นบุงโกะได้สำเร็จ จนตระกูลโอโตโมะต้องถอยไปตั้งรับที่แคว้นบุเซ็น
และขอความช่วยเหลือไปที่ “ฮิเดโยชิ “

เมื่อได้รับการร้องขอ “ฮิเดโยชิ “ ก็ตอบตกลง และ เขาส่งทัพหน้า จำนวน 2 หมื่น ที่เป็นกองกำลังผสมของ
ตระกูลโจโซคาเบะ โอโตโมะ เซนโกคุ เข้าตีแคว้นบุงโกะ ซึ่งชิมัตสึก็ตั้งรับอยู่ที่ปราสาทฟุไน
การศึกเป็นไปอย่างยืดเยื้อ จน ชิมัตสึต้องล่าถอยออกจากบุงโกะ

ค.ศ. 1587 “ฮิเดโยชิ“ สั่งให้ “ฮาชิบะ ฮิเดนากะ“ น้องชายนำกำลัง 1 แสนเข้าตีแคว้นฮิวงะ จนชิมัตสึต้องล่าถอยออกจากฮิวงะ
ส่วนตัว “ฮิเดโยชิ“ ก็ยกกำลังเข้ายึดแคว้น จิคุโกะ
และศึกสุดท้าย กองกำลัง 1 แสน 7 หมื่นของ ฮาชิบะก็ตี ทัพ 3 หมื่นห้า ของชิมัตสึแตก
และล้อมปราสาทของชิมัตสึไว้ จน “โยชิฮิโระ“  ยอมจำนนต่อ “ ฮิเดโยชิ “


“ฮิเดโยชิ“ ขอดินแดนในคิวชูไว้ดูแลเหลือเพียงแคว้นซัทสึมะ กับ โอสึมิ ให้ตระกุลชิมัตสึ ดูแล

หลังจากยึดเกาะคิวชูเรียบร้อย “ฮิเดโยชิ“ ก็ มุ่งไปที่ตะวันออกก็คือ เป้าหมายก็คือ“ตระกูลโฮโจ“
โดยในตอนนี้ จ้าวตระกูลโฮโจ คือ “โฮโจ อุจิมาสะ“ แต่เดิมตระกูลโฮโจคงอยู่มาได้ด้วยการเชื่อมความสัมพันธ์กับตระกุลต่างๆ
ทั้ง ทาเคดะ อุเอสึงิ โทคุกาว่า แต่พอ ค.ศ. 1590 “ฮิเดโยชิ “ ได้ขอให้ “โทคุกาว่า“ เข้าร่วมในการตีตระกุลโฮโจด้วย
ซึ่ง“โทคุกาว่า“ ก็ตอบตกลง ทัพ กว่า 2 แสน ก็ยกมาปิดล้อมปราสาทโอดาวาระของ“โฮโจ อุจิมาสะ“ ซึ่งมีกำลังทหารเพียง 5 หมื่น
การปิดล้อมตัดเสบียงอยู่สักพัก “อุจิมาสะ“ ก็ยอมจำนน และ ทำการ เซ็ปปุกุ ตัวเอง


ชัยชนะเหนือตระกูลโฮโจทำให้ ตอนนี้มีเพียงดินแดนตอนเหนือโอชู เท่านั้นที่ยังเหลืออยู่
ซึ่งภายในดินแดนโอชูถูกปกครองด้วยตระกูลเล็กๆ 5-6 ตระกูล เมื่อรู้ข่าวว่า “โฮโจ“  พ่ายแพ้ แก่ “ฮิเดโยชิ“  
แล้ว “ดาเตะ มาซามุเนะ“ ก็นำเหล่าไดเมียวในโอชู เข้าร่วมกับ “ฮิเดโยชิ“ ทำให้ในตอนนี้ “โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ“  
ได้ครอบครองดินแดนญี่ปุ่นทั้งหมด

เมื่อรวบรวมญี่ปุ่นได้แล้ว “โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ“ ก็หมายอยากพิชิตราชวงค์หมิง จึงขอให้ราชวงค์โชซอนในเกาหลี
เข้าด้วยกับตนแต่ทางเกาหลีปฎิเสธ “ฮิเดโยชิ“  จึงระดมกำลังและขุนพลแนวหน้าบุกโจมตีเกาหลี

แม่ทัพใหญ่คือ “อุคิตะ ฮิเดะอิเอะ“ ขุนพลคนอื่นๆ ได้แก่
โคะนิชิ ยุกินางะ
คาโต้ คิโยมาสะ
คุโรดะ นางามาสะ
ชิมัตสึ โยชิฮิโระ
ฟุกุชิมะ มาซาโนริ
โคบายาคาว่า ทากากาเงะ
โมริ เทรุโมโตะ

แต่การรุกรานเกาหลี ประสบความล้มเหลว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่