ขนมสอดไส้

้ ส ไ ด อ ขนมส

สูตรดั้งเดิม รสชาติแบบไทยๆ

คำ�นำ�

ในปัจจุบันคนไทยทุกคนนิยมหันไปกินขนมที่มาจากต่างประเทศ จนลืมไปว่า ขนมไทยที่ทั้งอร่อยและกลมกล่อมมีบางชนิดที่หาได้ยากมากและน้อยคนที่ทำ�าเป็น ขนม ไทยจึงเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและมีความหลากหลาย ซึ่งเป็นของหวานที่นิยม ทำ�และรับ ประทานกันในประเทศไทย ทั้งนี้ขนมสอดไส้เป็นขนมโบราณจึงไม่ค่อยเป็น ที่รู้จักในกลุ่มคน ส่วนมาก แต่ขนมสอดไส้ในที่นี้เป็นสูตรที่ทำ�มาหลายปีจึงมีความแตก ต่างจากสูตรทั่วๆ ไป และได้รับการตอบรับจากผู้ซื้อพร้อมการันตีถึงความอร่อย

สารบัญ หัวข้อ

หน้า

วัตถุประสงค์ กลุ่มเป้าหมาย ประวัติความเป็นมา ส่วนผสมของขนมสอดไส้ วิธีการทำ�ไส้ขนม วิธีการทำ�แป้งวิธีการจัดเตรียมใบตอง วิธีการห่อขนมสอดไส้ วิธีการนึ่ง คุณค่าและประโยชน์

1 1 2 3 4 5 6 7 8

วัตถุประสงค์ 1. เพื่อให้เยาวชนรุ่นใหม่ได้ศึกษาขนม ไทยเพิ่มมากขึ้น 2. เพื่อเผยแพร่ขนมไทยในสมัยโบราณ ให้เป็นที่รู้จักในยุคปัจจุบัน

กลุ่มเป้าหมาย

1. ผู้ที่ชื่นชอบการทานขนมไทยโบราณ 2. สามารถรับประทาน ได้ทุกเพศ ทุกวัย

ประวัติความเป็นมา ขนมไทย เป็นของหวานที่ทำ�และรับประทานกันในอาณาจักรไทย มี เอกลักษณ์ด้านวัฒนธรรม ประจำ�ชาติไทยคือมีความละเอียดอ่อนประณีตในการ เลือกสรรวัตถุดิบ วิธีการทำ�ที่พิถีพิถัน รสชาติอร่อย หอมหวาน สีสันสวยงาม รูปลักษณ์ชวนรับประทาน ตลอดจนกรรมวิธีการรับประทานที่ปราณีตบรรจง ของ ขนมแต่ละชนิด ซึ่งยังแตกต่างกันไปตามลักษณะของขนมชนิดนั้นๆ ทั้งนี้ “ขนมใส่ไส้” หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ขนมสอดไส้” เป็นขนมไทยที่ใช้ในพิธีขันหมากในสมัยโบราณ ขนมใส่ไส้นี้ ห่อด้วยใบตองแล้วมีเตี่ยวคาด (เตี่ยวก็คือทางมะพร้าว) ห่อเป็นทรงสูง ขนมใส่ไส้มีกลิ่นหอมและหวาน จากตัวไส้ รสเค็มมันด้วยหน้ากะทิที่สดใหม่ หน้าข้นพอดี ไม่เละ เดี๋ยวนี้จะหาขนมใส่ไส้ที่มีรสอร่อยซึ่งมี ทั้งกลิ่นหอมและหวานมันมารับประทาน ได้ยาก เพราะขนมใส่ไส้ที่อร่อยต้องใส่กะทิที่ข้นมัน สำ�หรับตัว แป้งที่หุ้มใช้ทั้งแป้งข้าวเหนียวขาวและแป้งข้าวเหนียวดำ�เวลานวดต้องค่อยๆ ใส่น้ำ�าแล้วต้องนวดนานๆ เม็ด แป้งจะอุ้มน้ำ�ได้ดีเพราะเป็นแป้งแห้งแป้งจะมีความเหนียวดีไม่เหมือนในสมัยก่อนจะใช้ แป้งที่โม่เอง แป้งก็จะเปียกและอุ้มน้ำ�อยู่แล้วไม่จำ�เป็นต้องนวดนานหน้าของขนมเวลา กวนแล้วต้องรีบตักหยอดขณะ ที่ร้อนอยู่จึงจะเรียบเวลาห่อขนมจะได้รูปตามที่ห่อและ น่ารับประทานใบตองที่ใช้ห่อขนมใส่ไส้ควรใช้ใบ ตองตาน

1.ส่วนผสมของขนมสอดไส้

- แป้งข้าวเจ้า 500g - แป้งข้าวเหนียว 500g - ถั่วเขียว 2กิโลกรัม - น้ำ�ตาลทราย 4กิโลกรัม - สาคู - มะพร้าวอ่อน - เกลือป่น

2.วิธีการทำ�ไส้ขนม - วางกระทะแล้วต้มน้ำ�ให้ร้อนโดยใช้ไฟขนาดปาน กลาง จากนั้นใส่ ถั่วเขียวลงไป เมื่อถั่วเขียวเริ่มแตกตัวแล้ว ให้ใส่น้ำ�ตาลทรายทันที พร้อมกับปิดฝาทิ้งไว้เพื่อให้ส่วน ผสมข้างในเกาะตัวกันหลังจากนั้นกวนทุกอย่​่างให้เข้ากัน แล้วค่อยใส่มะพร้อมอ่อนลงไป เพื่อให้ได้กลิ่นหอม เมื่อไส้ ขนมเริ่มแห้งแล้วพยายามใช้ไฟอ่อนเพื่อไม่ให้เกิดการไหม้

3.วิธีการทำ�แป้ง 1. ส่วนที่1 (แป้งข้าวเจ้า) - นำ�แป้งข้าวเจ้ามาละลายกับน้ำ�กะทิ คนให้เข้ากัน เพื่อไม่ให้แป้งจับตัว เป็นก้อน ใส่เกลือลงไปนิดหน่อย แล้วนำ�มาตั้งไฟประมาณ 20 นาที 2. ส่วนที่2 (แป้งข้าวเหนียว) - นำ�แป้งข้าวเหนียวมาผสมกับน้ำ�แล้วนวดแป้ง โดยไม่ให้แป้งติดมือ สามารถปั้นได้ 3. ส่วนที่3 (สาคู) - นำ�สาคูมาผสมน้ำ�กะทิและเกลือ จากนั้นคนให้เข้ากัน ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที

4.วิธีการจัดเตรียมใบตอง - ตัดใบตองในส่วนหัว-ท้าย เป็นสามเหลี่ยมให้เท่ากัน เช็ดให้ สะอาดทั้ง 2ข้าง - ไม้กลัด นำ�มาจากใบมะพร้าว

5.วิธีการห่อขนมสอดไส้ - นำ�แป้งส่วนที่2 มาแผ่ให้แบนลงบนใบตอง ปั้นตัวไส้เป็นวงกลม จากนั้นหุ้มไว้ให้มิด แล้วนำ�แป้งส่วนที่1 มาใส่ทับลงไปอีกที

6.วิธีการนึ่ง - นำ�น้ำ�ใส่หม้อนึ่ง 1/3 แล้วปิดฝารอ 5 นาที เมื่อน้ำ�เดือดนำ�ขนมที่เตรียวไว้ มานึ่งทันที ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที

7.คุณค่าและประโยชน์ - ขนมสอดไส้เป็นขนมไทยโบราณ มีคุณค่าทาง โภชนาการ - ควรทานขนมสอดไส้เย็นๆจะอร่อยกว่า

อ้างอิง ขอขอบคุณข้อมูลจาก คุณ สุดา หลำ�เบ็นส๊ะ

ผู้ผลิต นางสาว อัฐภิญญา กูโน 591011668 ชื่อผลงาน ขนมสอดไส้ นำ�เสนอ อาจารย์ ธีระ ราชาพล วิชา วารสารศาสตร์ทางสื่อออนไลน์ ปีการศึกษา 1/2561 หลักสูตรนิเทศศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ