เครื่องปั้นดินเผา คือ สิ่งของที่มนุษย์ตั้งใจทำขึ้นจากดิน (ดินเหนียว) ผสมกับน้ำและวัตถุอื่นๆ ผ่านการขึ้นรูปตามลักษณะที่ต้องการ แล้วนำไปผ่านความร้อนด้วยการเผาไฟ ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งภาชนะหรือเครื่องมือเครื่องใช้และอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ตุ๊กตา ประติมากรรม เครื่องประดับ ตราประทับ อิฐ กระเบื้องมุงหลังคา อุปกรณ์ตักอาหาร เบี้ยดินเผา และกระสุนดินเผา
เครื่องปั้นดินเผา เป็นวัตถุทางวัฒนธรรมประเภทแรก ๆ ที่มนุษย์รู้จักนำเอาวัสดุธรรมชาติมาดัดแปลงทำเป็นสิ่งของเครื่องใช้ และยังเป็นโบราณวัตถุที่สามารถพบได้ทั่วไปในแหล่งโบราณคดีตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ในช่วงเวลาที่มนุษย์ดำรงชีวิตด้วยการทำเกษตรกรรมแล้ว ต่อเนื่องมาจนกระทั่งปัจจุบัน
ดังนั้น เครื่องปั้นดินเผาจึงเป็นหลักฐานสำคัญอย่างหนึ่งในการบอกเล่าเรื่องราวของมนุษย์ในหลากหลายมิติ เช่น กิจกรรมและพฤติกรรมทางเศรษฐกิจ เทคโนโลยี ศิลปะ เป็นเครื่องหมายบอกลำดับเวลาและวัฒนธรรม เป็นหลักฐานสำหรับศึกษาและคำนวณความหนาแน่นของประชากร เป็นสื่อสัญลักษณ์ในเชิงการเมืองและจัดระเบียบทางสังคม ความคิดและความเชื่อของผู้ผลิต บางครั้งยังถูกใช้เป็นเครื่องมือในการแบ่งระดับวิวัฒนาการของสังคมมนุษย์
พิพิธภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาที่ทำในประเทศไทย ของศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร เน้นนำเสนอเครื่องปั้นดินเผาไทยในแง่มุมของการเป็นเครื่องมือที่ใช้จัดลำดับเวลา และทำความเข้าใจวัฒนธรรม เทคโนโลยี ศิลปะ รวมทั้งความคิดความเชื่อ การจัดแสดงเรียงลำดับตามอายุสมัย ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์เมื่อราว 4,000 ปีก่อน จนถึงสมัยอยุธยา ผู้ชมจะเห็นถึงพัฒนาการทางเทคโนโลยีการทำเครื่องปั้นดินเผา เอกลักษณ์ ความเหมือนและความแตกต่างของเครื่องปั้นดินเผาในแต่ละวัฒนธรรม ทั้งที่ร่วมสมัยและต่างสมัยกัน
การนำเสนอเริ่มจากภาพกราฟิกโครงกระดูกในตู้จำลองหลุมขุดค้นทางโบราณคดี และข้อมูลที่ชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ของการศึกษาเครื่องปั้นดินเผา ถัดไปเป็นตู้จัดแสดงวัตถุและเล่าเรื่องราวเครื่องปั้นดินเผาก่อนประวัติศาสตร์ในแต่ละพื้นที่ของไทย ได้แก่ วัฒนธรรมบ้านเชียง (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) (ภาชนะดินเผาแบบเด่นคือ ภาชนะเขียนสีแดง) วัฒนธรรมบ้านเก่า (ภาคตะวันตก) (ภาชนะดินเผาแบบเด่นคือ หม้อสามขา และภาชนะดินเผาสีน้ำตาล-ดำ) และวัฒนธรรมในแถบลุ่มแม่น้ำลพบุรี-ป่าสัก (ภาคกลาง) (ภาชนะดินเผาแบบเด่นคือ ภาชนะรูปวัวและภาชนะดินเผาลายหนังช้าง ที่เกิดจากการถูกกดประทับผิวด้านนอกด้วยเครื่องจักสานขนาดใหญ่ คล้ายผิวหนังชองช้าง)
ถัดจากนั้นก็จะเข้าสู่เครื่องปั้นดินเผายุคประวัติศาสตร์ ที่มีเทคโนโลยีการผลิตและรูปแบบพัฒนาขึ้นเป็นอย่างมาก ภาชนะดินเผาบางส่วนยังได้รับการยอมรับจากดินแดนโพ้นทะเลจนกลายเป็นหนึ่งในสินค้าส่งออกสำคัญ การนำเสนอจะจัดแบ่งเครื่องปั้นดินเผาตามวัฒนธรรมและแหล่งเตาเผาสำคัญ เช่น เครื่องปั้นดินเผาในวัฒนธรรมทวารวดี (พุทธศตวรรษที่ 12-16) เครื่องปั้นดินเผาจากแหล่งเตาบ้านบางปูน (พุทธศตวรรษที่ 17-21) (เป็นแหล่งเตาที่แสดงถึงพัฒนาการทางเทคโนโลยี เพราะผลิตเครื่องปั้นดินเผาเนื้อแกร่ง ที่เผาด้วยอุณหภูมิสูงขึ้น ทำให้เนื้อภาชนะแข็งและละเอียดมากขึ้น) เครื่องปั้นดินเผาในวัฒนธรรมร่วมแบบเขมรที่พบในพื้นที่อีสานตอนล่าง (พุทธศตวรรษที่ 15-19) เครื่องสังคโลกของสุโขทัย เครื่องเคลือบของล้านนา เครื่องปั้นดินเผาจากเตาแม่น้ำน้อย เครื่องปั้นดินเผาในลุ่มแม่น้ำสงคราม และเครื่องปั้นดินเผาประกอบสถาปัตยกรรมในสมัยทวารวดีและสุโขทัย เช่น ลวดลายพรรณพฤกษาประดับสิ่งก่อสร้างสมัยทวารวดี กระเบื้องมุงหลังคา กระเบื้องเชิงชาย บราลีรูปเทวดา ประติมากรรมรูปสิงห์ สมัยสุโขทัย เป็นต้น
นอกจากนี้บริเวณกลางห้องยังจัดแสดงเครื่องปั้นดินเผาเนื่องในความเชื่อ ได้แก่ พระพิมพ์ดินเผาสมัยต่างๆ และตุ๊กตาดินเผาสมัยทวารวดี สุโขทัย และศรีวิชัย ที่บางส่วนอาจเป็นวัตถุที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่เกี่ยวข้องกับความเชื่อ ตุ๊กตาดินเผานี้นับว่าเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาเรื่องหน้าตาของคนในอดีตเป็นอย่างมาก
ส่วนสุดท้ายของพิพิธภัณฑ์ นำเสนอข้อมูลและจัดแสดงขั้นตอนการผลิตเครื่องปั้นดินเผา ตั้งแต่การคัดเลือกดิน เตรียมดิน ขึ้นรูป ตกแต่ง จนกระทั่งขั้นตอนการเผาและลักษณะเตาเผาแต่ละแบบที่จะให้อุณหภูมิการเผาต่างกัน ซึ่งมีความสัมพันธ์โดยตรงกับลักษณะและความแข็งของเนื้อเครื่องปั้นดินเผา