พลังแห่ง "วันครีษมายัน" วันที่เห็นดวงอาทิตย์ขึ้นเร็วที่สุด และตกช้าที่สุดในรอบปี 2566

พลังแห่ง "วันครีษมายัน" วันที่เห็นดวงอาทิตย์ขึ้นเร็วที่สุด และตกช้าที่สุดในรอบปี 2566

พลังแห่ง "วันครีษมายัน" วันที่เห็นดวงอาทิตย์ขึ้นเร็วที่สุด และตกช้าที่สุดในรอบปี 2566
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ธรรมชาติสร้างความอัศจรรย์ให้แก่มวลมนุษย์เสมอ แต่ละรอบปีจึงมีวันสำคัญที่ชวนให้เราหยุดมองเพื่อเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ไม่เคยหยุดนิ่ง เช่นเดียวกับ "วันครีษมายัน" วันที่เราจะเห็นดวงอาทิตย์ขึ้นเร็วที่สุด และตกช้าที่สุดในรอบปี 

ในปี 2566/2023 วันครีษมายัน ตรงกับวันที่ 21 มิถุนายน 2566 

ประวัติวันครีษมายัน

วันครีษมายัน”  ออกเสียงว่า “ครีด-สะ-มา-ยัน” สากลเรียก The summer solstice   คำว่า Solstice เป็นภาษาอินโดยูโรเปียน มาจากคำว่า  Stice หมายถึง สถิต หรือ หยุด ดังนั้น Summer Solstice จึงหมายถึงวันที่ดวงอาทิตย์โคจรไปถึงจุดหยุดหรือจุดสูงสุด  เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกเฉียงไปทางเหนือมากที่สุด และตกทางทิศตะวันตกเฉียงไปทางเหนือมากที่สุด  จึงทำให้มีช่วงเวลากลางวันยาวนานที่สุดในรอบปี

สำหรับประเทศไทย วันครีษมายัน ในปีนี้ ตรงกับวันที่ 21 มิถุนายน 2566 ดวงอาทิตย์ขึ้นเวลาประมาณ 05:51 น. และจะตกลับขอบฟ้า เวลาประมาณ 18:47 น. รวมเวลาที่ดวงอาทิตย์ปรากฏอยู่บนท้องฟ้าประมาณ 12 ชั่วโมง 56 นาที เราอาจตื่นเต้นในวันที่เห็นแสงสว่างยาวนาน แต่สำหรับประเทศทางซีกโลกเหนือ คือวันเปลี่ยนฤดูกาลเข้าสู่ฤดูร้อน ขณะที่ประเทศในซีกโลกใต้กำลังเปลี่ยนสู่ฤดูหนาว

วันครีษมายัน จึงเป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนผ่านตามฤดูกาล ที่บรรพบุรุษยุคกาลก่อนในหลายพื้นที่ให้ความสำคัญ ในฝั่งยุโรปมีความเชื่อโบราณกล่าวว่า ในวันครีษมายันเท่านั้นที่ผู้คนมีโอกาสที่จะเปลี่ยนชีวิต ด้วยเชื่อว่าธาตุทั้งสี่ได้รวมกัน ทั้งไฟ น้ำ ดิน และอากาศ ครีษมายันจึงมีพลังเวทย์มนตร์ที่ไม่ธรรมดา ที่แม้แต่คนนอกศาสนายังเคารพ

ชาวสลาฟในซีกโลกตะวันออกเฉียงเหนือ เชื่อกันว่าในวันครีษมายันนี้ เป็นวันที่ต้องสร้างความปรารถนาอย่างแรงกล้าเพื่อการเปลี่ยนแปลงในชีวิต แล้วภายในสิ้นปีทุกอย่างจะสำเร็จ พวกเขาเชื่อว่าวันครีษมายัน คือวันที่พระเจ้าส่งพลังของดวงอาทิตย์มาเพื่อควบคุมชะตากรรม พลังแห่งธรรมชาตินี้จะช่วยเติมเต็มความปรารถนาที่พวกเขามี

เช่นเดียวกับหลายวัฒนธรรม ที่ถือว่าฤดูร้อนคือเป็นช่วงเวลาแห่งการประสบความสำเร็จ ราวกับดวงอาทิตย์ได้หลั่งพลังงานเชิงบวกมากมาย มอบความคุ้มครองและความเจริญรุ่งเรืองแก่ทุกคน จึงมีการจัดพิธีกรรมต่าง ๆ เพื่อความรักและเพื่อความเจริญรุ่งเรืองและเพื่อการเก็บเกี่ยว เช่น พิธีเก็บน้ำค้างเพื่อความอุดมสมบูรณ์ หลายคนยังเก็บสมุนไพรในวันครีษมายัน ด้วยเชื่อว่ามีสมุนไพรที่เก็บวันนี้มีประสิทธิภาพเป็นพิเศษ  ขณะที่หญิงสาวทอพวงหรีดจากดอกไม้ป่าและกิ่งไม้โอ๊กให้เพื่อมอบให้กับชายหนุ่ม สร้างจุดเริ่มต้นของการมองหาชีวิตคู่

ในเวปไซต์ต่างประเทศได้การอธิบายถึงพิธีกรรมที่ไม่ซับซ้อนแต่ลึกซึ้งของผู้ที่มีความเชื่อนี้ปฏิบัติสืบกันมา  นั่นคือ การใช้เวลาในรุ่งเช้ากับธรรมชาติ ยืนบนพื้นด้วยเท้าเปล่าแล้วหันหน้าไปทางดวงอาทิตย์ ผ่อนคลายและหลับตา แล้วสัมผัสถึงกระแสพลังงานอันอบอุ่นที่พุ่งขึ้นมาจากพื้นดินผ่านเท้าของตนเอง

เมื่อรู้สึกถึงพลังออร่าที่เกิดขึ้นกับตัวเอง พวกเขาจะยกแขนขึ้น กางออกด้านข้างโดยให้ฝ่ามือขึ้น ขอให้ดวงอาทิตย์ให้กำลังแก่ตนเอง มองไปทางดวงอาทิตย์ แต่ไม่มองตรงไปที่ดวงอาทิตย์เพราะเป็นอันตราย ยอมรับพลังงานแสงอาทิตย์อย่างซาบซึ้ง

นอกจากพลังจากแสงอาทิตย์ในวันครีษมายัน จะทำให้ความปรารถนาเป็นจริงแล้ว พวกเขายังเชื่อว่าการปฏิบัติเช่นนี้จะทำให้ตนแข็งแกร่งขึ้น มีความมั่นใจในตนเอง และมีเสน่ห์มากขึ้น

เป็นความเชื่อที่มอบพลังเชิงบวกทั้งสิ้น

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook