posttoday

เขื่อนสิริกิติ์ปรับแผนรับพม่าหยุดจ่ายก๊าซ

24 กุมภาพันธ์ 2556

ผอ.เขื่อนสิริกิติ์เตรียมการปรับแผนรองรับพม่าหยุดจ่ายก๊าซวอนประชาชนช่วยกันประหยัดพลังงาน

ผอ.เขื่อนสิริกิติ์เตรียมการปรับแผนรองรับพม่าหยุดจ่ายก๊าซวอนประชาชนช่วยกันประหยัดพลังงาน

นายธนรัชต์ ภุมมะกสิกร ผู้อำนวยการเขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่า หลังรับแจ้งว่าพม่าหยุดจ่ายก๊าซในช่วงวันที่ 5 ถึง 13 เมษายน 2556 ซึ่งมีผลกระทบต่อการเดินเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าและความเสี่ยงที่อาจมีไฟฟ้าดับหรือไฟตกในพื้นที่ภาคใต้และกรุงเทพมหานคร และผลต่อระบบการผลิตกระแสไฟฟ้าของประเทศไทยโดยตรง ทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้เตรียมแผลรองรับ แก้ไขปัญหาดังกล่าว ให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด

สำหรับเขื่อนสิริกิติ์เป็นเขื่อนดินที่ใหญ่ที่สุด สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้สูงสุดถึง 500,000 กิโลวัตต์ ช่วยเสริมระบบไฟฟ้าของประเทศให้มั่นคงยิ่งขึ้น แต่การผลิตกระแสไฟฟ้าของเขื่อนสิริกิติ์ขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำที่ปล่อยออกเพื่อการชลประทานจะผ่านเครื่องกำเนิดไฟฟ้า และเข้าสู่กระบวนการจ่ายกระแสไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตไปยังการไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ

นายธนวัชต์ กล่าวว่า แต่ด้วยปริมาณน้ำที่ไหลเข้าเขื่อนสิริกิติ์ปัจจุบันเฉลี่ยวันละ 2 ล้าน ลบ.เมตร เหตุจากฝนที่ทิ้งช่วง ทำให้ระดับน้ำที่สามารถใช้งานได้อยู่ที่ 1,646 ล้าน ลบ.เมตร หรือ ร้อยละ 24.70 เป็นปริมาณน้ำที่ต่ำกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง 11 เมตร หรือ 5,030 ล้าน ลบ.เมตร โดยปีที่ผ่านมาเขื่อนสิริกิติ์เก็บกักน้ำได้มากถึง 6,678 ล้าน ลบ.เมตร หรือร้อยละ 70.23 เมื่อการพร่องน้ำของเขื่อนขึ้นอยู่กับความต้องการใช้น้ำของกรมชลประทาน และมติที่ประชุมของคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ ช่วงภัยแล้งนี้มีการระบายน้ำเฉลี่ยวันละ 25 ล้าน ลบ.เมตร

ทั้งนี้ ทุกปีที่ผ่านมาเมื่อเข้าสู่เดือนเมษายน จะพร่องน้ำลดลงประมาณ 15-20 ล้าน ลบ.เมตร ส่วนทางกับความต้องการใช้ไฟฟ้าของประชาชนที่สูงสุด แต่ปีนี้ด้วยผลกระทบจากพม่าหยุดจ่ายก๊าซ อาจมีการปรับแผนทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกรมชลประทาน แต่ต้องคำนึงถึงปริมาณน้ำต้นทุนที่เก็บกักไว้ด้วยอย่างไรก็ตามการแก้ปัญหาที่ดีและทำได้ง่ายที่สุด คือ การประหยัดการใช้ไฟฟ้า การรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงการขาดแคลนพลังงานไม่เฉาะไฟฟ้ารวมไปถึงทรัพยากรธรรมชาติ ที่มีวันหมด ยิ่งต้องพึ่งพาต่างประเทศยิ่งต้องให้ความสำคัญและต้องกระทำอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่เฉพาะเหตุวิกฤตเท่านั้น