เขื่อนสิริกิติ์น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณฯ พร้อมสานต่อโครงการพระราชดำริ ชีววิถี

เมื่อวันที่ 17 ต.ค. ที่อาคารประชาสัมพันธ์เขื่อนสิริกิติ์ นายประเสริฐ อินทับ ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขื่อนสิริกิติ์ ปฏิบัติการ นำคณะผู้บริหารและพนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตเขื่อนสิริกิติ์ จำนวนกว่า 200 คน ถวายความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมยืนสงบนิ่งถวายความอาลัยเป็นเวลา 9 นาที พร้อมร่วมลงนามถวายอาลัยในสมุดลงนามถวายอาลัย

เพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อม รำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดำเนินพร้อมสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงประกอบรัฐพิธีเปิดเขื่อนสิริกิติ์ เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2520 นับถึงปัจจุบันเป็นเวลา 39 ปี คณะผู้บริหารและพนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตเขื่อนสิริกิติ์ พร้อมใจแสดงความจงรักภักดี ด้วยการเจริญตามรอยพระยุคลบาท พร้อมสานต่อภารกิจตามพระราชดำริของพระองค์ ประพฤติปฏิบัติตนเป็นข้าราชการที่ซื่อสัตย์สุจริต

นายประเสริฐ กล่าวว่า เขื่อนสิริกิติ์ยังคงเดินหน้าสานต่อโครงการพระราชดำริ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 โดยเฉพาะการเผยแพร่ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงให้แก่ประชาชนที่อยู่รอบโรงไฟฟ้าเขื่อนสิริกิติ์ และบุคคลทั่วไปที่ต้องการความรู้เกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียง โดยจัดเป็นศูนย์การเรียนรู้เกษตรเศรษฐกิจพอเพียงตาม “โครงการชีววิถี เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน สู่เศรษฐกิจพอเพียง” ภายในเขื่อนสิริกิติ์มีแปลงสาธิตชีววิถีแบบผสมผสานแบ่งเป็นโซน

นายประเสริฐ กล่าวด้วยว่า มีพื้นที่ปลูกพืชนานาชนิดประเภทยืนต้นให้ผล เช่น ขนุน ผักสวนครัวริมรั้วกินได้ เห็ดนางฟ้า ถั่วฟักยาว ตะไคร้ พริกไทย การเลี้ยงสัตว์ อาทิ ปลาดุกรัสเซีย ไส้เดือนแดง กบบูลฟร็อก หมูพันธุ์เหมยซานเลี้ยงในหลุม พร้อมนำมูลผลิตเป็นการชีวภาพใช้ในครัวเรือน

การปลูกหญ้าแฝกแทรกอยู่ริมแปลงผักขั้นบันไดเพื่อป้องกันการพังทลายของหน้าดิน สามารถเข้าเยี่ยมชมพร้อมศึกษาหาความรู้เพื่อนำไปพัฒนาต่อยอดในแปลงเกษตรของตนเองได้ หรือต้องการนำไปประกอบอาชีพเลี้ยงดูครอบครัว เพื่อเป็นการลดรายจ่ายในครัวเรือนของตนเองได้ สำหรับแปลงเกษตรสาธิตมีทั้งในพื้นที่เขื่อนสิริกิติ์และพื้นที่เขื่อนดินช่องเขาขาด รวมเนื้อที่แปลงสาธิตชีววิถีทั้ง 2 แห่ง จำนวนเกือบ 100 ไร่