น้ำท่วมโลกยุคเรือโนอาห์ เรื่องจริงหรือแค่ตำนานปรัมปรา

รูปเรือโนอาห์

ที่มาของภาพ, Getty Images

คำบรรยายภาพ, ตำนานน้ำท่วมโลกและเรือโนอาห์ ถือเป็นเรื่องราวหนึ่งจากคัมภีร์ไบเบิลที่ผู้คนคุ้นหูกันมากที่สุด

เรื่องเล่าขานจากคัมภีร์ไบเบิลที่ผู้คนทั่วโลกเคยได้ยินได้ฟังกันมากที่สุด รวมทั้งถูกนำมาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ให้ได้ชมกันบ่อยครั้ง เห็นจะไม่มีเรื่องไหนได้รับความนิยมเกินหน้าตำนานน้ำท่วมโลกยุคเรือโนอาห์ (Noah’s ark) อีกแล้ว

แม้พระธรรมปฐมกาล (Genesis) บทแรกของคัมภีร์ไบเบิลจะระบุไว้ว่า พระเจ้าทรงบัญชาให้โนอาห์และครอบครัวของเขาซึ่งเป็นผู้มีศีลธรรม สร้างเรือใหญ่ที่บรรทุกคู่สิงสาราสัตว์ทุกชนิด เพื่อเอาชีวิตรอดจากอุทกภัยครั้งใหญ่ที่พระเจ้าจะใช้กวาดล้างเหล่ามนุษย์ที่ปราศจากความยำเกรงในพระองค์ แต่ปัจจุบันก็ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์หรือโบราณคดีที่ยืนยันได้ว่า มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริงในประวัติศาสตร์

ศาสตราจารย์เดวิด มอนต์โกเมอรี ผู้เชี่ยวชาญทางธรณีวิทยาจากมหาวิทยาลัยวอชิงตันของสหรัฐฯ กล่าวฟันธงไว้ในหนังสือที่เขาเขียนขึ้นเมื่อปี 2012 ว่า “หากคุณกำลังมองหาร่องรอยของเหตุการณ์น้ำท่วมโลกในอดีต จากหลักฐานทางธรณีวิทยาที่ปรากฏอยู่อย่างชัดเจนในปัจจุบัน ผมขออภัยที่จะต้องบอกตรง ๆ ว่า ปริมาณน้ำในโลกนี้มีไม่มากพอที่จะท่วมมิดยอดเขาสูงที่สุด ตามที่ตำนานบอกเอาไว้ได้”

แม้พระเจ้าจะบันดาลให้เกิดฝนตกหนักเป็นประวัติการณ์ โดยไอน้ำทั้งหมดในชั้นบรรยากาศควบแน่นเทลงมาเป็นห่าฝนในคราวเดียวกัน ก็ยังไม่เพียงพอจะท่วมบริเวณที่สูงบนแผ่นดินโลกได้ โดยฝนนี้สามารถจะทำให้เกิดน้ำเจิ่งนองระดับตื้นเหนือพื้นดิน โดยคิดเป็นค่าเฉลี่ยเพียง 1 นิ้ว หรือ 2.5 เซนติเมตรเท่านั้น ซึ่งเป็นระดับความลึกที่ไม่พอจะให้เรือแคนูลำเล็ก ๆ ลอยตัวได้ด้วยซ้ำ

OSAMA MUHAMMED AMIN

ที่มาของภาพ, OSAMA MUHAMMED AMIN

คำบรรยายภาพ, จารึกสมัยบาบิโลนที่บันทึกตำนานน้ำท่วมโลกจากมหากาพย์กิลกาเมช มีอายุเก่าแก่กว่า 3,800 ปี

หากพิจารณาว่าเกิดกรณีธารน้ำแข็งและแผ่นน้ำแข็งขั้วโลกละลายจนหมด องค์การนาซาเคยบอกว่าระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นจากภาวะดังกล่าวจะมีได้สูงสุดไม่เกิน 60 เมตรเท่านั้น และหากมวลน้ำปริมาณ 22.6 ล้านลูกบาศก์กิโลเมตร ซึ่งซ่อนอยู่ในแผ่นเปลือกโลกลึกลงไปใต้ดินราว 2 กิโลเมตร เกิดไหลล้นออกสู่ผิวดินทั้งหมด ก็ยังสามารถจะเอ่อท่วมแผ่นดินโลกได้ลึกเพียง 180 เมตร แต่ก็ยังห่างไกลจากอุทกภัยใหญ่ยุคเรือโนอาห์ ซึ่งน้ำท่วมถึงยอดเขาสูงสุดอย่างเอเวอเรสต์ที่ระดับ 8,849 เมตรได้

อย่างไรก็ตาม ศ.มอนต์โกเมอรีแสดงความเห็นว่า หากเรามองว่าตำนานน้ำท่วมโลกคือบันทึกเหตุการณ์จริงซึ่งเหตุอุทกภัยเกิดขึ้นในวงจำกัด แต่มีขนาดใหญ่ครอบคลุมขอบเขตที่คนโบราณเข้าใจว่าเป็นโลกทั้งใบแล้ว ก็จะมีความเป็นไปได้ในทางธรณีวิทยามาก โดยน่าจะเคยเกิดเหตุการณ์แบบในยุคของโนอาห์จริง ในส่วนใดส่วนหนึ่งของโลก

เคยมีผู้เสนอสมมติฐานดังกล่าวในปี 1998 ต่อที่ประชุมสหภาพธรณีฟิสิกส์อเมริกัน (AGU) และลงตีพิมพ์ในวารสาร Science มาแล้ว โดยระบุว่าเมื่อราว 7,500 ปีก่อน น้ำจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียนอาจไหลเข้าไปสู่ทะเลดำ ซึ่งยังตั้งอยู่ในตำแหน่งที่แยกตัวเป็นเอกเทศจากทะเลอื่น ๆ ในยุคนั้น ทำให้มีน้ำทะเลเอ่อท่วมผืนแผ่นดินโดยรอบทะเลดำยุคโบราณ จนเป็นที่มาของตำนานโนอาห์ ซึ่งเขาและครอบครัวสามารถล่องเรือลี้ภัยจนไปถึงดินแดนเมโสโปเตเมียได้

ส่วนในแง่ของการวิเคราะห์วรรณกรรม มีความเป็นไปได้มากว่าตำนานน้ำท่วมโลกยุคเรือโนอาห์นั้นไม่ใช่เหตุการณ์จริง แต่เป็นเรื่องเล่าเชิงอุปมานิทัศน์ (allegory) ซึ่งก็คือการยกตัวอย่างนิทานปรัมปราขึ้นมาเป็นคติสอนใจ โดยสื่อสารเป็นเชิงเปรียบเทียบถึงเหตุการณ์ปัจจุบันในทางอ้อม

ศาสตราจารย์ไอรา สปาร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดีจากวิทยาลัยรามาโปของสหรัฐฯ บอกว่าเรื่องของเรือโนอาห์นั้นน่าจะมีที่มาจากตำนานโบราณหลายสำนวนจากหลายวัฒนธรรม ซึ่งมีการเล่าขานกันมาก่อนที่คัมภีร์ไบเบิลภาคพันธสัญญาเดิม (Old Testament) จะถูกเขียนขึ้นเมื่อราว 800-500 ปีก่อนคริสตกาล

GETTY IMAGES

ที่มาของภาพ, Getty Images

คำบรรยายภาพ, บางคนเชื่อว่าชั้นหินรูปร่างประหลาดที่ยอดเขาในตุรกี คือซากของเรือโนอาห์ในตำนาน

หนึ่งในตำนานน้ำท่วมโลกที่เก่าแก่ที่สุด คือมหากาพย์กิลกาเมช (Epic of Gilgamesh) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอารยธรรมเมโสโปเตเมีย โดยตำนานนี้มีจุดกำเนิดย้อนไปได้ถึงช่วง 3,000 ปีก่อนคริสตกาลเลยทีเดียว ส่วนคัมภีร์วิษณุปุราณะของศาสนาฮินดูก็ระบุถึงมัตสยาวตาร อวตารปางหนึ่งของพระวิษณุที่ทรงแปลงกายเป็นปลาใหญ่ลากเรือของพระมนู ทำให้ไม่อาจแน่ใจได้ว่านิทานเรื่องน้ำท่วมโลกสำนวนแรกเกิดขึ้นที่ไหนและมาจากยุคใดกันแน่

ศ. มอนต์โกเมอรีบอกว่า ตำนานน้ำท่วมโลกและการล่องเรือใหญ่หนีอุทกภัยนั้น มีอยู่ในวัฒนธรรมของชนพื้นเมืองแถบชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกทางตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ รวมทั้งในอารยธรรมโบราณแถบชายฝั่งของภูมิภาคอเมริกาใต้และหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ด้วย โดยเนื้อหาของตำนานมีลักษณะคล้ายการเกิดน้ำท่วมเนื่องจากคลื่นยักษ์สึนามิพัดถล่มเป็นอย่างมาก

ส่วนที่มีการกล่าวอ้างว่า พบซากเรือของโนอาห์ที่ยอดเขาแห่งหนึ่งในประเทศตุรกีเมื่อหลายปีก่อนนั้น ผลการตรวจสอบทางธรณีวิทยาล่าสุดยังคงชี้ว่า มันเป็นเพียงชั้นหินที่มีรูปร่างคล้ายเรือใหญ่เท่านั้น ไม่ใช่ซากโครงสร้างเรือของโนอาห์แต่อย่างใด แม้แต่ชิ้นไม้ที่พบในบริเวณดังกล่าวก็มีอายุน้อยเกินกว่าที่จะนำมาอ้างเป็นหลักฐานยืนยันได้

ดร. โจดี แม็กเนส นักโบราณคดีจากมหาวิทยาลัยนอร์ทแคโรไลนา วิทยาเขตแชเปิลฮิลล์ของสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับนิตยสารแนชันแนลจีโอกราฟิก เมื่อปี 2022 ว่า “ไม่มีทางที่เราจะพิสูจน์ได้ว่า เหตุการณ์น้ำท่วมโลกยุคเรือโนอาห์เคยเกิดขึ้นที่ไหนและเมื่อไหร่ นอกเสียจากจะมีจารึกของคนโบราณบ่งชี้เป็นลายลักษณ์อักษรอยู่ด้วย มิฉะนั้นเราจะไม่สามารถเชื่อมโยงวัตถุโบราณใด ๆ ที่หลงเหลืออยู่ เข้ากับเหตุการณ์ที่ไม่ทราบถึงต้นกำเนิดนี้ได้เลย”