ละครนอกเรื่อง ไกรทอง ตอนพ้อล่าง-ไกรทองอาสา

โดยนักศกึ ษาปริญญาตรีปีท่ี ๓ วนั อังคาร ท่ี ๑๓ กันยายน ๒๕๖๕ ชว่ งเช้า เวลา ๐๙.๐๐ น. ชว่ งบ่าย เวลา ๑๓.๐๐ น. วิทยาลยั นาฏศิลปลพบุรี สถาบนั บณั ฑติ พฒั นศลิ ป์ กระทรวงวฒั นธรรม ณ หอประชุมอาคารเอนกประสงคว์ ิทยาลัยนาฏศลิ ปลพบรุ ี

ครดู ี ครูเกง่ ทเ่ี รอื งปญั ญา มคี วามเปน็ เลิศด้านศิลปะ ตามเอกลกั ษณ์วถิ วี ังหน้า และภมู ิปญั ญาทอ้ งถ่ิน

คณะกรรมการ การแสดงผลสัมฤทธิ์ในรายวชิ า ทักษะนาฏศลิ ป์ ๕ ประจาปีการศึกษา ๒๕๖๕ นางนนั ทวนั สงั ขะวร หวั หนา้ ภาควชิ านาฏศลิ ป์ นายสมชาย ฟอ้ นราดี นางจุฑารัตน์ สเุ มรุรัตน์ อาจารย์ประจารายวิชา อาจารยป์ ระจารายวิชา

คณะกรรมการ การแสดงผลสมั ฤทธิใ์ นรายวชิ า ทักษะนาฏศลิ ป์ ๕ ประจาปีการศึกษา ๒๕๖๕ นายภกู จิ พาสนุ นั ท์ นายอนัส มาลาวงษ์ อาจารยป์ ระจารายวชิ า อาจารยป์ ระจารายวชิ า

กาหนดการแสดงผลสัมฤทธิ์ในรายวิชา ทกั ษะนาฏศิลป์ ๕ ประจาปีการศึกษา ๒๕๖๕ วันท่ี ๑๓ กนั ยายน ๒๕๖๕ ช่วงเช้า ลงทะเบยี น ผ้อู านวยการวทิ ยาลยั นาฏศิลปลพบุรี เวลา ๐๘.๓๐ น. กล่าวเปิดงานนาฏยวพิ ธิ ทศั นาวชิ าการ เวลา ๐๙.๐๐ น. ในรายวชิ าทักษะนาฏศลิ ป์ ๕ การแสดงเบกิ โรง ชุด นาฏนารีศรลี ะครนอก เวลา ๐๙.๓๐ น. การแสดงละครนอก เรื่องไกรทอง เวลา ๑๐.๐๐ น. ตอนพ้อลา่ ง - ไกรทองอาสา พกั รบั ประทานอาหาร เวลา ๑๒.๐๐ น. ช่วงบา่ ย ลงทะเบียน การแสดงเบกิ โรงนาฏนารศี รลี ะครนอก เวลา ๑๒.๓๐ น. การแสดงละครนอก เร่อื งไกรทอง เวลา ๑๓.๐๐ น. ตอนพ้อล่าง - ไกรทองอาสา เวลา ๑๓.๓๐ น. *กาหนดการอาจมกี ารเปล่ยี นแปลงตามความเหมาะสม*



การแสดงผลสัมฤทธิ์ ในรายวชิ าทกั ษะนาฏศิลป์ ๕ ประจาปีการศกึ ษา ๒๕๖๕ การแสดงเบิกโรงชุด นาฏนารีศรีละครนอก เป็นผลงาน สร้าง สรรค์ ของ นักศึกษาปริญญาตรีปีที่ ๓ ในรายวิชา ทกั ษะนาฏศิลป์ ๕ การแสดงกล่าวถึงนางเอกจากละครเร่ือง รถเสน คาวี แก้วหน้าม้า สุวรรณหงส์ สังข์ทอง มณีพิชัย พิกุลทอง ไกรทอง ท่ีนิยมนามาใช้ในการแสดงละครนอกและยังส่ือให้เห็นถึง ความงามแบบนางเอกละครนอก ประพันธ์บทโดยนักศึกษา ปริญญาตรีปีท่ี ๓ บรรจุเพลงโดย นายณรงค์ฤทธิ์ คงป่ิน (รองผูอ้ านวยการวทิ ยาลยั นาฏศิลปลพบุร)ี

การแสดงเบกิ โรง ชดุ นาฏนารศี รลี ะครนอก (แตง่ กายยืนเคร่อื ง) ป่ีพาทยท์ าเพลง รอ้ งเพลงนกจาก เมรี ศรีสวัสด์ิ สายสวาท พระรถนิราศ รา้ งหาย ให้หว่นั ไหว รา่ ดว้ ยรกั ติดตามมา ดว้ ยอาลยั จนขาดใจ อยแู่ ทบทาง ฝัง่ นที รอ้ งเพลงกระบอกเงนิ จันทร์สดุ า เกศาฉม นางผมหอม เป็นขวญั จอม ม่งิ เมือง มเหสี ซ่อนในกลอง จนประสบ พบคาวี ถูกพรากหนี เฒา่ ระยา ทาประจาร ร้องเพลงแขกไทร นางมณี รัตนา นาฏนงนุช วิเศษสุด สวมรูปมา้ ทากล้าหาญ ทีคลอ่ งแคลว่ แกลว้ ล้า ปรีชาชาญ อนงคราญ ได้ปนิ่ ทอง มาครองใจ ร้องเพลงตุ๊กตา เกศสุริยงค์ ทรงศกั ด์ิ นางวเิ ศษ ทาปลอมเพศ เปน็ พราหมณ์พรต สวยสดใส พี่กุมภณฑ์ ตามตดิ มติ รร่วมใจ สวัสด์ไิ สว คู่สวุ รร-ณหงส์ทอง ร้องเพลงลลี ากระทุ่ม รจนา มาลัยคล้อง เสยี่ งตอ้ งเงาะ งามจาเพาะ รูปชั้นใน ไม่หมน่ หมอง เหน็ นิมิตร วรกาย พระสังขท์ อง ได้คู่ครอง เคยี งสมคั ร ม่นั ภักดี

การแสดงเบกิ โรง ชุด นาฏนารีศรลี ะครนอก (แตง่ กายยืนเครอื่ ง) รอ้ งเพลงกระบอกทอง สกนธ์ทิพย์ รินร่นื ช่ืนประทิน ยอพระกล่ิน เยาวเรศ เฉลิมศรี มีโอสถ ชบุ ฟื้น คนื ชวี ี ร่วมฤดี มณีพิชัย คชู่ ีวัง รอ้ งเพลงขน้ึ พลบั พลา พิกุลทอง นงนุช สุดสงวน พาทีถว้ น บุหงาคา พร่าพรพู ร่งั ตอ้ งคาสาป เปน็ ชะนี เพยี งภวงั ค์ สุขสมหวัง ครองคู่ พระพไิ ชย ร้องเพลงสะสม ตะเภาทอง อาบน้า ริมฝงั่ ท่า ขัดกายา มวั หมอง ใหผ้ ่องใส ชาละวนั วนุ่ ว่าย เห็นสายใจ กาหนดั ใน มโนสวาท นารถอนงค์ ตะเภาแกว้ นอ้ งนาง ช่างนา่ รัก เสมอศักด์ ผพู้ ช่ี วน ใหลหลง โฉมไกรทอง ครองรัก สมคั รคง เชยผจง ช่ืนชู้ ค่บู งั อร รอ้ งเพลงจระเขข้ วางคลอง เหล่าอนงค์ ทรงโฉม ประโลมพิลาศ สดุ สวาท ทรามสงวน นวลสมร แตง่ จริต อวดกริยา ใหง้ ามงอน อยา่ งนางเอก ละครนอก นาฏกรรม จะเย้อื งยา้ ย หยดุ ยัก คอ้ นควักให้ จะกลอ่ มไหล่ ซา้ ยขวา ดูคมขา อายในที ยิม้ ในหนา้ ชายตารา คณุ คา่ ลา้ เลศิ วิชา ควรค่าไทย ปี่พาทยบ์ รรเลงเพลงเร็ว

เมรี

จนั ทรส์ ดุ า

มณรี ตั นา

เกศสุรยิ งค์

รจนา

ยอพระกล่นิ

พกิ ลุ ทอง

ตะเภาทอง – ตะเภาแกว้



ละครนอก มีมาต้งั แต่ครัง้ กรุงศรอี ยุธยา เป็นละครที่แสดงกันนอกราชธานี แตเ่ ดิมคงมาจาก การละเล่นพ้นื เมอื ง และร้องแกก้ นั เป็นละครทพ่ี ฒั นามาจากละครชาตรี แตเ่ ดิมคงมีตวั ละครเพยี ง ๓-๔ ตัว อยา่ งละครชาตรี ตอ่ มามกี ารแสดงละครกันอยา่ งแพรห่ ลายทัว่ ไป ในหม่รู าษฎร มีการเล่นเรอื่ งต่างๆ มากข้นึ ต้องเพิ่มตัวละครขนึ้ ตามเน้ือเรื่อง ผแู้ สดง ยงั คงเปน็ ชายล้วน แต่การแตง่ กายได้ประดษิ ฐ์เพิม่ เตมิ เปล่ยี นแปลงให้ประณตี งามขึน้ ในสมัยกรงุ ศรีอยุธยา นยิ มเล่นกันหลายเรื่อง ลว้ นแตเ่ ปน็ ประเภทจักรๆ วงศๆ์ นทิ าน ชาวบ้าน นิทานชาดก มีคตสิ อนใจ เชน่ การเกด คาวี ไชยทัต พิกุลทอง พมิ พ์สวรรค์ พิณสุรยิ วงศ์ มโนราห์ โม่งปา่ มณีพชิ ัย สังข์ทอง ไกรทอง เป็นตน้ ละครนอกไกรทอง ตอนพ้อลา่ ง-ไกรทองอาสา เน้ือเรื่องกล่าวถึงพญาชาละวัน จระเข้ท่ีมีคาถาอาคมอาศัยอยู่ในถ้าใต้น้าท่ีเมือง พิจิตร มีภรรยาสองคนคือนางวิมาลาและนางเลื่อมลายวรรณ วันหนึ่งพญาชาละวัน ออกจากถ้าเพราะอยากกินเนื้อมนุษย์ เม่ือเห็นนางตะเภาแก้วและนางตะเภาทองกาลัง เล่นน้า เกิดความเสน่หาจึงตรงเข้าไปคาบนางตะเภาทองไปยังถ้าใต้น้า สร้างความไม่ พอใจให้ภรรยาท้ังสอง ฝ่ายเศรษฐีบิดาของนางตะเภาทองคิดว่าลูกสาวเสียชีวิตจึงป่าว ประกาศให้สินบนแก่ผู้ท่ีฆ่าชาลวันได้ แต่ไม่มีผู้ใดทาสาเร็จ ไกรทองซ่ึงเป็นชาวเมือง นนทบุรีคุมเรือไปค้าขายท่ีเมืองพิจิตร ทราบข่าวจึงขันอาสาและสามารถปราบชาละวัน ได้สาเร็จและช่วยนางตะเภาทองกลับมาได้ เศรษฐีจึงปูนบาเหน็จรางวัลและยกลูกสาว ทั้งสองให้ไกรทอง ต่อมาไกรทองหวนคิดถึงนางวิมาลาเพราะหลงใหลความงามของ นางจึงได้นางเป็นภรรยาอีกคน จากน้ันก็พาขึ้นอาศัยอยู่ด้วยกันบนบก สร้างความไม่ พอใจให้นางตะเภาแก้วตะเภาทองทะเลาะตบตีจนนางวิมาลาโมโหกลายร่างเป็นจระเข้ กลบั ลงไปยงั ถ้าใตน้ ้าดงั เดิม

บทละคร เรือ่ งไกรทอง ตอน พอ้ ลา่ ง – ไกรทองอาสา ณ หอประชมุ อาคารเอนกประสงค์ วิทยาลยั นาฏศิลปลพบุรี วันที่ ๑๓ กนั ยายน ๒๕๖๕ (เปิดมา่ น) ฉาก ลานบ้านเศรษฐี - ป่ีพาทย์ทาเพลงโยนดาบ - (เศรษฐพี ิจิตร ภรรยา ตะเภาทอง ตะเภาแก้ว และสาวใชน้ ัง่ อยูใ่ นฉาก) - รอ้ งเพลงโยนดาบ - กล่าวถึง ทา่ นเศรษฐี ภรยิ า พรอ้ มธดิ า ทัง้ สอง ละอองขวญั ตะเภาแก้ว ตะเภาทอง พน่ี ้องครัน ผวิ ผ่องพรรณ เหมอื นลมา้ ย คลา้ ย มารดาทั้งสองทา่ น บิตรุ าช มาตุเรศ รักดงั ดวง นยั เนตร ซ้ายขวา ถนอมเลีย้ ง เคยี งชม ภิรมยา จนโสภา แรกรนุ่ สนุ ทรี - ขบั เสภา - วนั เมือ่ สองนารี จะมีเหตุ เขมน่ เนตร นวลละออง ท้ังสองศรี ให้รอ้ งใจ อยากจะไป เล่นวารี ให้เป็นที่ เยน็ สบาย คลายอุรา ว่าแลว้ นวลนาง ตะเภาทอง ชวนน้อง ตะเภาแกว้ เสนห่ า ไปอาบน้า ดาว่าย กันเถดิ รา แลว้ จงึ มา หลับนอน พกั ผ่อนกาย - เจรจา -

บทละคร เรื่องไกรทอง ตอน พ้อลา่ ง – ไกรทองอาสา ณ หอประชมุ อาคารเอนกประสงค์ วิทยาลัยนาฏศิลปลพบรุ ี วนั ที่ ๑๓ กนั ยายน ๒๕๖๕ - ร้องเพลงสนี วล – เมอื่ นั้น สองธิดา งามเลิศ เฉดิ ฉาย พร้อมแน่งน้อย งามงาม ตามครรไล รบี ตรงไป วงั วน ชลธาร - ป่พี าทยท์ าเพลงเรว็ แลว้ ลา - (ตะเภาทองตะเภาแกว้ ลาบดิ ามารดาแล้วชวนสาวๆไปเล่นนา้ ราออกเวทีล่าง) (ปดิ มา่ น) (ตะเภาทอง ตะเภาแก้ว พรอ้ มสาวใช้ ราวน ๑ รอบ แลว้ ลา) (ท้ายเพลงลาเปิดม่าน) ฉากทา่ นา้ - ร้องเพลงลงสรงลาว – คร้นั มา ถึงท่า นทศี รี สองนารี ลงเลน่ ชลหาร พร้อมบา่ วไพร่ ว่ายดา เลน่ สาราญ สนุกสนาน เฮฮา ในวารี บ้างก็ว่าย ยอกยอ้ น เลน่ ซอ่ นหา ไขวค่ ว้า ตามประสา มารศรี มิได้หวาด เกรงภัย ในนที ทจ่ี ะมี มาแผว้ พานกาย - ป่ีพาทยท์ าเพลงฉง่ิ -

บทละคร เรอ่ื งไกรทอง ตอน พ้อลา่ ง – ไกรทองอาสา ณ หอประชมุ อาคารเอนกประสงค์ วิทยาลัยนาฏศลิ ปลพบรุ ี วันที่ ๑๓ กนั ยายน ๒๕๖๕ (ตะเภาทอง ตะเภาแก้ว กับบา่ วไพรล่ งเลน่ น้า สกั คร่ชู วนกนั เล่น ตีโปง่ เลน่ จี จ่อเจย๊ี บ และเลน่ ซอ่ นหาตะเภาทองไปแอบอยทู่ างหนงึ่ ) (จระเขช้ าละวนั ออกว่ายเมียงมองหน้าเวที) -ขบั เสภา- ชาละวัน หาญกล้า ชะลา่ จิต ทะนงฤทธ์ิ ว่ายวน ชลสาย ถงึ ทา่ น้า เมอื งพิจิตร สะดวกดาย เหน็ ผูค้ น วุ่นวาย ว่ายธารา ตะลงึ จอ้ ง ตะเภาทอง ผุดผอ่ งพกั ตร์ กาเรบิ รัก รงึ จิต คดิ ปรารถนา จะพาไป เชยชม ภิรมยา ในคูหา สวุ รรณ อันโสภี - รอ้ งเพลงทะเลบ้า – คิดแลว้ คาบร่าง ตะเภาทอง กึกก้อง ท่ัวทอ้ ง นทีศรี แลว้ ดง่ิ ดา สู่วงั วน ชลธี ตรงไปท่ี คูหา ใต้บาดาล -ปี่พาทย์ทาเพลงรัวทา้ ยปลูกตน้ ไม-้ (จระเข้คาบนางตะเภาทองลงใต้นา้ เห็นแตม่ อื ไหวๆ พวกบา่ วไพรก่ รีดร้อง เสยี งดงั ตะเภาแก้วร้องใหค้ นช่วยแล้วรีบขึ้นจากนา้ ) (ปดิ ฉาก)

บทละคร เรอื่ งไกรทอง ตอน พอ้ ลา่ ง – ไกรทองอาสา ณ หอประชมุ อาคารเอนกประสงค์ วทิ ยาลยั นาฏศิลปลพบุรี วนั ที่ ๑๓ กนั ยายน ๒๕๖๕ ปีพ่ าทย์ทาเพลงเชิดฉากถ้าชาละวัน - ปพ่ี าทยท์ าเพลงนกจาก - (ชาละวนั (มนษุ ย)์ นางตะเภาทองออกน่ังเตียง) - รอ้ งเพลงนกจาก – เมอ่ื นัน้ กมุ ภา ชาลวัน ใจหาญ น่ังเตียง เคียงข้าง นางนงคราญ พลางเผย พจมาน ประโลมใจ ตวั พ่ีน้ี เป็นพญา กมุ ภาชาติ องอาจ ศักดา จะหาไหน วันนี้ มีกุศล เข้าดลใจ พบทรามวัย จึงพา มาชมชดิ - รอ้ งเพลงมุล่ง - พ่รี ักจรงิ ไมท่ ้ิงแมย่ อดรัก อย่าเศร้านักพกั ตร์จะหมองเพราะข้องจติ วา่ พลางทางเคล้าเขา้ จมุ พิต แนบสนทิ โฉมเฉลาตะเภาทอง เชยชมสมสงั วาสสวาทสดุ นางมนษุ ยช์ นื่ ชีวไี มม่ สี อง หยอกเย้าเช้าค่าลาพอง กอดตระกองน้องสนทิ แนบนิทรา - ปีพ่ าทยท์ าเพลงตระนอน (เท่ียวเดียว) - (นางวิมาลากบั เล่ือมลายวรรณออก)

บทละคร เรอ่ื งไกรทอง ตอน พอ้ ลา่ ง – ไกรทองอาสา ณ หอประชุมอาคารเอนกประสงค์ วทิ ยาลัยนาฏศิลปลพบุรี วันท่ี ๑๓ กนั ยายน ๒๕๖๕ - รอ้ งเพลงโลมนอก - คราน้นั จงึ โฉม นางกมุ ภีล์ สาวศรี วิมาลา เสน่หา กับเล่อื ม ลายวรรณ กัลยา เป็นเมีย กุมภา ชาลวัน รู้วา่ สามี มเี มียใหม่ กลมุ้ ใจ หมกมุ่น หุนหนั วมิ าลา ว่าแม่ เล่อื มลายวรรณ ไปเพือ่ นกัน ดทู า่ อหี น้าเพรียง - ร้องรา่ ย - มาถึง จึงหยุด แอบมอง ตามฉาก ชน้ั ช่อง ห้องเฉลยี ง เหน็ ผวั หลบั กรน อยู่บนเตยี ง นางมนุษย์ นงั่ เคียง ประคองกาย คิดแคน้ แน่นจิต รษิ ยา กระซิบดา่ มบุ มบิ อฉี ิบหาย สกิดกนั สญั ญา แยบคาย มั่นหมาย จะทา ใหห้ นาใจ สองนาง ตา่ งเดนิ เมนิ เมยี ง ขนึ้ น่งั บนเตยี ง เคียงไหล่ ทาขยับ ทับเพลา เข้าไป แสรง้ สบัด สไบ ไปมา - ร้องเพลงตวงพระธาตุ – -ตะเภาทอง- เจยี มเอ๋ยเจียมตัว ตะเภาทอง หมองมัว เมินหน้า เขา้ ใจ ในทานอง สองรา คงจะเปน็ ภรรยา ชาลวัน แกล้งมา ระราน พาลผดิ จนจติ จางด อดกลั้น ค่อยลงจาก แทน่ แก้ว แพรวพรรณ มายืนแฝง ม่านกลนั้ ช้นั ใน

บทละคร เรอื่ งไกรทอง ตอน พอ้ ล่าง – ไกรทองอาสา ณ หอประชุมอาคารเอนกประสงค์ วทิ ยาลัยนาฏศลิ ปลพบรุ ี วนั ท่ี ๑๓ กันยายน ๒๕๖๕ - รอ้ งเพลงตวงพระธาตชุ ้นั เดยี ว - เห็นเอยเห็นคร้าม สองนาง ตา่ งตาม ไปถามไถ่ นีแ่ น่ แม่รปู งาม ทรามวยั เคอื งข้า ว่าไร ไมพ่ าที ขึน้ อยู่ บนบลั ลงั ก์ ต้ังปง่ึ ดังหน่ึง องคอ์ ัคร มเหสี เห็นเรา เขา้ มา ท่สี ามี แกลง้ เดนิ หนี มาน่งั บงั ตวั - ขับเสภา – - ตะเภาทอง – แมค่ ุณขา ข้าเจา้ ชาวพิจิตร ไมไ่ ด้คดิ ดอกว่า จะหาผวั พญา ชาลวัน ไปเอาตวั ฉดุ มาไว้ ได้ช่วั เพราะกลวั ภยั พ่เี ป็น ผหู้ ญงิ จรงิ จรงิ นะ ถึงพจ่ี ะ ดา่ ว่า อชั ฌาศยั เพราะพึ่งมา ข้าเจา้ ไม่เข้าใจ ว่าใคร เปน็ จอม หมอ่ มเมยี จะกราบไหว้ ให้โปรด ชว่ ยว่าผัว พาตวั ข้าขึ้น ไปส่งเสยี ร้อนอก หมกไหม้ ดงั ไฟเลยี หม่อมหรือคะ คือเมยี โปรดเมตตา (เจรจา)

บทละคร เร่ืองไกรทอง ตอน พ้อล่าง – ไกรทองอาสา ณ หอประชุมอาคารเอนกประสงค์ วทิ ยาลัยนาฏศิลปลพบุรี วนั ที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๖๕ - รอ้ งเพลงเขมรกาปอ - - วิมาลา - ชะชะชะ แมย่ อดสร้อย นอ้ ยไปรือ้ ประชดหรือ แสรง้ งอน ค่อนแคะ เช่อื ตวั ผวั รัก ยักพดู จา ข้าหรือ จะวา่ ใหพ้ าไป ถ้าว่า ให้พาเจา้ เขา้ หอ้ ง น่นั แหละคลอ่ ง ไม่พกั ต้องผลักไส หรือโลมเล้า เคลา้ คลึง ไมถ่ ึงใจ อยากกลบั ไป หากิน ทถี่ ่ินเคย - ร่าย - - เลอ่ื มลายวรรณ - ชะนาง ช่างแก้ ไม่แดผ๋ ัว เห็นตวั ตอแหล เจา้ แม่เอย๋ ตะบอยเฝ้า เย้าย่วั ใหผ้ ัวเชย เหลือเคย อกี เล่า ขา้ เขา้ ใจ หรือเมือง พจิ ติ ร ตดิ จะจดื มาหาพชื ถงึ ถา้ ใตน้ ้าไหล แกลง้ เปรยี บเปรย เย้ยเยาะ ไยไพ คอ้ นควกั ผลกั ไส ไปมา - รอ้ งเพลงแขกอะหวงั ชนั้ เดียว - ฟงั ดา่ วา่ แนมเหน็บ แสนเจ็บจิต ไมค่ ดิ ชวี งั ยอมสงั ขาร์ ขึน้ เสียง เถยี งพรา่ ทงั้ น้าตา มารมุ กนั ดา่ ขา้ ว่ากระไร มิใชว่ ่า ขา้ วงิ่ มาชงิ ผัว จะได้กลัว หมอบราบ กราบไหว้ ด่าทอ ตอแหล ออกแซไ่ ป มนั มา ทางไหน ไปทางนั้น

บทละคร เรอ่ื งไกรทอง ตอน พอ้ ล่าง – ไกรทองอาสา ณ หอประชุมอาคารเอนกประสงค์ วทิ ยาลยั นาฏศลิ ปลพบุรี วันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๖๕ ผัวของเจ้า เอาไป ใครจะหา้ ม ขา้ ตาม ยดุ มือ ไว้หรือน่นั นอ้ ยหรอื อ้อื องึ ขึ้นมงึ มัน เหมอื นกนั แหละวะ ไมล่ ะใคร - ร้องเพลงเทพทอง - โฉมนาง กุมภลี ์ วมิ าลา โกรธา หุนหัน หม่ันไส้ นอ้ ยนอ้ ยหรือ ถอื ตัว ไมก่ ลัวใคร ตบเลน่ เปน็ ไร กเ็ ป็นกนั ว่าแลว้ รุกไล่ เขา้ ไปพลาง เล่อื มลายวรรณ เขา้ ขวาง กางกน้ั ตะเภาทอง ก็หลกี หลบทนั ปลุกผัว ตัวสั่น โศกา - ป่พี าทยท์ าเพลงโอด - - รอ้ งรา่ ย - จา้ เอย จ้าละหว่นั ชาลวัน ครน้ั ตน่ื ยืนขวางหนา้ ห้ามนาง พลางขยี้ ข้ีตา อย่าอย่า แม่คณุ อยา่ วนุ่ ไป แลว้ ไต่ถาม ซกั ความ สามนารี แรกเร่มิ เดมิ ที เป็นไฉน น้อยหรอื อ้อื อึง เอาแต่ใจ จะยาเยง เกรงใคร กไ็ มม่ ี

บทละคร เรอ่ื งไกรทอง ตอน พอ้ ลา่ ง – ไกรทองอาสา ณ หอประชมุ อาคารเอนกประสงค์ วทิ ยาลยั นาฏศลิ ปลพบุรี วนั ท่ี ๑๓ กนั ยายน ๒๕๖๕ - ร้องเพลงขวัญออ่ น - แสนเอย แสนสยอง โฉมนาง ตะเภาทอง หมองศรี สะอืน้ พลาง ทางสนอง วาที ฆ่าตี เสยี เถดิ ไม่นอ้ ยใจ เพราะพอ่ เจา้ เอามา ทาระกรรม ให้เมยี ซา้ ด่าวา่ ไม่ปราศรัย ท้งั สองนาง อย่างเสอื ดุเหลอื ใจ ครวญพลาง ทางรา่ ไห้ นา้ ตานอ (นางวิมาลากับนางเลอ่ื มลายวรรณเข้าตบตนี างตะเภาทอง) - ขบั เสภา - - ชาลวัน - เหน็ สองนาง เข้ารมุ กลุ้มใจครัน ชาลวนั ขุ่นกมล หม่นหมอง เชด็ น้าตา ว่านิง่ เสียเถดิ นอ้ ง มนั จะต้อง วนุ่ กนั ละวันน้ี เหลียวมา วา่ แน่ แฮ้สองนาง ตดิ ค้าง เท่าไหร่ อยา่ งไรนี่ มาพาโล โฉ่ฉ่า ด่าตี เมอื่ ข้างน้ี มาใหม่ ไม่ทันรู้ ช่างเซ็งแซ่ แหโ่ หม โครมครกึ อึกกะทึก ทั้งพวก ข้าหนวกหู ถ้ากล้าดี ตเี ข้า กล็ องดู แมน้ กู มิใส่ มิใช่มือ

บทละคร เร่อื งไกรทอง ตอน พอ้ ล่าง – ไกรทองอาสา ณ หอประชุมอาคารเอนกประสงค์ วิทยาลัยนาฏศิลปลพบรุ ี วนั ที่ ๑๓ กนั ยายน ๒๕๖๕ - ร้องรา่ ย - -วมิ าลา- ยิ่งเอยย่ิงโกรธา วิมาลา ว่านอ้ ย ไปแลว้ หรอื เมียบอก ออกได้ ดังไฟฮอื หมายมั่น ปั้นมือ เขา้ กบั นาง โอ้ยอย่าพกั หัวร่อ เลยพ่อเจา้ คลึงเคลา้ กันเถดิ ไม่ขัดขวาง พูดเทา่ น้ัน ผนั พยัก กับสองนาง เยือ้ งยา่ ง กลับไป ห้องไสยา (นางวิมาลากบั นางเลื่อมลายวรรณเขา้ โรง) - รอ้ งเพลงสงิ โตเล่นหาง - เมอ่ื นนั้ พญา ชาลวนั หรรษา โลมเล้า ตะเภาทอง น้องยา ขวญั ตา อยา่ ละหอ้ ย น้อยใจ แต่นี้ มิใหใ้ คร หยามหยาบ พจี่ ะปราบ ปรองดอง ให้ผอ่ งใส ทงั้ สมบตั ิ วัตถา ข้าไท จะรีบรัด จัดให้ เสมอกัน - ปี่พาทยร์ ับ - (ชาลวันเขา้ โรงปลอบนางตะเภาทองแล้วปดิ มา่ น)

บทละคร เร่ืองไกรทอง ตอน พอ้ ล่าง – ไกรทองอาสา ณ หอประชุมอาคารเอนกประสงค์ วทิ ยาลยั นาฏศลิ ปลพบรุ ี วันท่ี ๑๓ กนั ยายน ๒๕๖๕ (ไกรทองออกราฉยุ ฉายหน้าม่าน ) - ป่พี าทย์ทาเพลงฉุยฉาย – - รอ้ งเพลงฉุยฉาย – ฉุยฉายเอย เจ้าไกรทองแคล่วคลอ่ งกรดี กราย แต่งตวั รัดกมุ เป็นหนมุ่ สมชาย สวมมงคลมนตก์ าจายบนศรี ษะ ใครเป็นเหน็ เปน็ หลงงวยงงเสนห่ ์ กรมุ้ กรม่ิ ยมิ้ แผลป่ ราบจระเขด้ ้วยเดชะ - รอ้ งเพลงแม่ศรี – แมศ่ รเี อย แมศ่ รหี มอจระเข้ ชน่ื อารมณส์ มคะเน จะบาราบชาละวัน วางบ่งึ ผึ่งผาย สมเป็นชายฉกรรจ์ สาวหลงงงงนั อยากสัมพันธไ์ กรทองเอย - ป่ีพาทย์ทาเพลงเร็ว ลา -

บทละคร เรื่องไกรทอง ตอน พอ้ ล่าง – ไกรทองอาสา ณ หอประชุมอาคารเอนกประสงค์ วทิ ยาลัยนาฏศิลปลพบุรี วนั ที่ ๑๓ กนั ยายน ๒๕๖๕ ฉากรมิ ฝงั่ แม่น้าเมอื งพจิ ติ รหน้าบ้านเศรษฐี เหน็ ปราพิธี ( ตัวละครมีไกรทอง และสหาย เศรษฐีบ่าวไพร่ เจ้าเมืองกรมการเมอื งพจิ ติ ร) - ปพี่ าทย์ทาเพลงแขกตอ่ ยหม้อ – ( เปดิ ม่าน ) - ร้องเพลงแขกต่อยหมอ้ - แสนเอยแสนลาพอง เจ้าไกรทอง หนุ่มนอ้ ย ลอยหน นงั่ แพ หยวกย้ิม กร่ิมกมล เศกมนต์ดล สรรเสริญ กุมภา - ปีพ่ าทย์ทาเพลงตระเชิญ – - อา่ นโองการ – ( ชาละวันโผล่ออกมา ) - ขับเสภา - ไกรทอง มองเหน็ ตะเขใ้ หญ่ รกุ ไล่ โบกหาง วางร่า เสียงบนฝั่ง ทะลงึ่ ทะล่ัง โกลา กร็ ู้ว่า กุมภา ชาลวนั จอ้ งชะนกั ยักคอ หัวรอ่ คิก ถกผา้ ขยิกขยิก ไม่มีพรนั่ เออื้ นโอม โองการ อาจารยพ์ ลัน ปา่ วกระฉอก ละลอกล่ัน ประจักษต์ า

บทละคร เรือ่ งไกรทอง ตอน พอ้ ลา่ ง – ไกรทองอาสา ณ หอประชมุ อาคารเอนกประสงค์ วทิ ยาลัยนาฏศลิ ปลพบุรี วันท่ี ๑๓ กนั ยายน ๒๕๖๕ - ปพ่ี าทย์ทาเพลงรัว - - ร้องเพลงกระบอก - หวั ผงก อกเตน้ เห็นชะนกั ชาลวัน โกรธหนัก ไม่ยักทา่ เดชา อาคม มนตรา กมุ ภา โผมิได้ ดงั ใจนึก ยิง่ พโิ รธ โกรธเกรี้ยว เคย้ี วกราม คาราม ฟาดรอ้ ง ก้องกกึ เอาคางเกย แพจม ลม่ ลึก สะอกึ ทบั ไกรทอง ส้ทู ้องนที - ปี่พาทยท์ าเพลงรวั - (คนตื่น เพือ่ นไกรทองหา้ ม) - ขับเสภา - ไกรทอง เขา้ ชิด ติดชะนัก จมนา้ สาลกั ไมย่ ักหนี ทิ้งชะนัก ควักมีด กรดี กมุ ภลี ์ เชอ่ื ดี ต่อสู้ ไม่รรู้ า เหวี่ยงแว้ง แทงกรีด ด้วยมดี เหน็บ ถูกชา ละวันเจบ็ หนกั หนา เสยี งสนัน่ ครั่นครน้ื คงคา ไกรทอง แล่นถลา โลดขน้ึ แพ ชาลวัน สัน่ สะทา้ น หนาวเหน็บ ถูกมีด หมอเจ็บ เป็นหลายแผล คอคาง หางทือ่ ตนี มอื แบ ทอ้ แท้ เหลอื ประวงิ แล้วด่งิ ไป - ป่พี าทย์ทาเพลงรวั - (จระเข้ชาลวันเขา้ โรงไกรทองกระโดน้าตาม) ( ปิดมา่ น จบ)

ไกรทอง

ชาละวนั

ตะเภาทอง

ตะเภาแกว้

วิมาลา

เล่อื มลายวรรณ

ขอขอบคุณ ผูอ้ านวยการวิทยาลัยนาฏศลิ ปลพบุรี นายลิขติ สุนทรสขุ รองผู้อานวยการฝา่ ยบรหิ าร นายณรงค์ฤทธิ์ คงปน่ิ รองผอู้ านวยการฝา่ ยวชิ าการ นางอารี แม่นม่นั รองผอู้ านวยการฝา่ ยกิจการนักเรียน นกั ศึกษา นายสรุ ะชัย สบี ุบผา รองผู้อานวยการฝา่ ยศิลปวฒั นธรรม นางไพเราะ เหมบตุ ร หัวหนา้ ภาควชิ าศึกษาทั่วไป นางเพชราภรณ์ หนิ เธาว์ หัวหนา้ ภาควิชานาฏศิลป์ นางนันทวัน สังขะวร หวั หนา้ ภาคดรุ ยิ างคศิลป์ นายประสงค์ จันทพันธ์ุ อาจารยป์ ระจาวิชาและอาจารยท์ ี่ปรกึ ษา นางนนั ทวัน สงั ขะวร นางจฑุ ารัตน์ สเุ มรรุ ตั น์ นายสมชาย ฟอ้ นราดี นายพิทักษ์ ร่มโพธท์ิ อง นายอนสั มาลาวงษ์ นายภูกจิ พาสนุ นั ท์ นายธณาวฒุ ิ อน้ วงษ์

ขอขอบคุณ งานเคร่ืองแตง่ กาย นางชิตา ทศั มาลัย นายอนสั มาลาวงษ์ งานแสง/เสียง/ภาพและวิดโี อ นายชานนท์ อนันต์สลงุ นางสาวชญาพร หลายเจรญิ อาจารยผ์ ูถ้ ่ายทอดท่ารา นางสาวตรีรัตน์ วิสุทธิพันธ์ ไกรทอง นายไตรรงค์ ตรี ณานนท์ ชาละวัน นางสาวประพาพร มัน่ คง นางวมิ าลานางเล่อื มลายวรรณ นางตะเภาแก้ว/นางตะเภาทอง นายภูกจิ พาสุนันท์ นายอนสั มาลาวงษ์ อาจารยผ์ ูค้ วบคุมการบรรเลง นางนันทวัน สังขะวร นางนันทวัน สังขะวร นายประสงค์ จันทพนั ธุ์ นายณรงค์ฤทธิ์ คงป่นิ นายไตรรงค์ ตีรณานนท์ นายวิทยา จุ้ยวงษ์ นายพลณศกั ด์ิ ทรพั ยบ์ างยาง

ขอขอบคุณ อาจารย์ผคู้ วบคุมการบรรเลง นายสพุ ัศชา ผดงุ สุทธ์ นายมานพ ศรีสังข์ ผู้บรรเลง นายทองธวัช ศรที อง (ระนาดเอก) (ระนาดทมุ้ ) นายธรณ์ ชชู ม (ฆอ้ งวงใหญ)่ นายอนั ดา แช่มชรุ ี (ฆอ้ งวงเล็ก) นางสาวณฏั ฐณิชา เถินมงคล (ฉ่งิ ) นายเกรยี งศกั ดิ์ อิม่ รงั (กรบั ) นางสาวศศกิ าณต์ สวา่ งแสงทอง (กลองแขก) นายธีรภทั ร อ่อนสลุง (กลองทดั ) นายณฐั ชนน หมีเอีย่ ม นายเขมทตั คลา้ ยปาน อาจารยผ์ ู้ควบคุมขับร้อง นางสาวบญุ สม ทรพั ยส์ นิ นางนงนุช สุนทรสุข นายดนยั นอ้ ยชืน่

ขอขอบคณุ ผู้ขบั รอ้ ง นางสาวบุญสม ทรัพยส์ ิน นายดนัย นอ้ ยชน่ื ปฏคิ ม นางสาวกัลณกิ า อิม่ ดี Backstage นางสาวชนัญชิดา เอมแสง ครคู วบคุมฝ่ายฉาก นางสาวปนัดดา แย้มสกลุ ฝา่ ยฉาก นางสาวศภิสรา จนั ณรงค์ พิธกี ร นายอัครชัย ตา่ ยขาว ประสานงาน/บริการ นักศึกษาปริญญาตรปี ีท่ี ๓ นักศึกษาปรญิ ญาตรีปที ่ี ๑-๓ นายพิทกั ษ์ รม่ โพธ์ทิ อง นายชนิ กฤต ขดั จาปา นายณัฐนนท์ โพธ์อิ อ่ น นายอดศิ ร ศรขี น นางสาวสุพชั ชา ดาวทอง นางสาวอรรถรวดี สมั มาศาสตร์ นางสาวณฤฌาภรณ์ ปเู่ นยี ม นางสาวพยิ ดา ทัศทอง

ขอขอบคุณ แตง่ หนา้ /ทาผม/แตง่ กาย นายชลชาติ ศรีเมือง นกั แสดงสมทบ นายพันกร แพงแกว้ นายสิทธิพล ดารงบุล นายเฉลมิ วงศ์ โพธิศ์ รี นายภานุเดช ภูตอี ัด นายศภุ นนท์ เวียงวเิ ศษ นายชลชาติ ศรเี มือง นายณัฐพงค์ หสั โต นายปัณณธร บญุ เกลี้ยง นายพุฒิพงศ์ กลับดี นายจรี ะวัฒน์ คาพลึก นายภานุเดช ภูตอี ดั นายอนุกูล นามบุญศรี นายชยตุ ม์ วานุนาม นายพนั กร แพงแก้ว นายกนกชยั มะกอกไฟ นายเดน่ พิชยั รมิ แจ้ง นายสทิ ธิพล ดารงบุล

นักแสดง ไกรทอง รบั บทโดย นายกานต์สุธี แสนสวสั ด์ิ นายชชั วาล พรมออ่ น ชาละวนั รับบทโดย นายธีรชาติ ถาวร นายณัฐพงษ์ นาคนยิ ม นางตะเภาทอง รับบทโดย นายพรชัย แยม้ แตงอ่อน นายจักรกฤษณ์ บุญสขุ นางตะเภาแกว้ รับบทโดย นายพุฒิพงษ์ กลับดี นายณฐั พงค์ หัสโต นางวมิ าลา รบั บทโดย นายพงศก์ ร จนั ทร์ทรงกลด นางสาวพรยุพา ถลา นางเล่อื มลายวรรณ รับบทโดย นางสาวชุตมิ า บุญทาบทอง นางสาวจิราพร พอเณร ท่านเศรษฐี รับบทโดย นางสาวรัตยา เช้ือมแี รง นางสาวณฤฌาภรณ์ ปู่เนียม ภรรยา รบั บทโดย นางสาวมณฑิรา กลั่นห่นุ นางสาวชัญญา กลิ่นศรสี ขุ ชาละวัน(จระเข้) รบั บทโดย นางสาวสุทินา มาตวรรณา นางสาวศิริพตั รา สรี ะพนั นางเมรี รบั บทโดย นางจนั ทร์สุดา รบั บทโดย นางมณรี ตั นา รับบทโดย นางเกศสรุ ิยงค์ รับบทโดย นางรจนา รบั บทโดย นางยอพระกลน่ิ รบั บทโดย นางพกิ ุลทอง รับบทโดย นางตะเภาทอง รับบทโดย นางตะเภาแกว้ รับบทโดย

นักศึกษาปรญิ ญาตรีปที ่ี ๓ สาขานาฏศิลปศ์ ึกษา ๑.นายพรชัย แยม้ แตงอ่อน ๑๑.นางสาวศิรพิ ตั รา สรี ะพัน ๒.นายชชั วาล พรมอ่อน ๑๒.นางสาวพรกัญญา จันทรแ์ ดง ๓.นายณฐั นนท์ โพธอิ์ ่อน ๑๓.นางสาวสทุ นิ า มาตวรรณา ๔.นางสาวรตั ยา เชือ้ มีแรง ๑๔.นายจักรกฤษณ์ บญุ สขุ ๕.นางสาวรัชณียก์ ร เยน็ สุข ๑๕.นางสาวพณั ฒ์นวรตั น์ เอนสาร ๖.นางสาวมณฑิรา กล่ันหุ่น ๑๖.นายณัฐวุฒิ เมอื งชา้ ง ๗.นางสาวจิราพร พอเณร ๑๗.นายกานต์สุธี แสนสวัสดิ์ ๘.นางสาวณฤฌาภรณ์ ปู่เนยี ม ๑๘.นายณัฐพงษ์ นาคนิยม ๙.นายธีรชาติ ถาวร ๑๙.นายณัฐพล สร้อยสุข ๑๐.นางสาวพิยดา ทัศทอง ๒๐.นางสาวพมิ ลพรรณ บุญมาก ๒๑.นางสาวอรรถรวดี สมั มาศาสตร์

สาธโุ ข สฺปปก นาม อปิ ยาทสิ กีทิส ...ขึน้ ชื่อวา่ ศลิ ปะ แม้เชน่ ใด เช่นหนงึ่ กย็ ังประโยชนใ์ ห้สาเร็จได้...