ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงวัดจันทร์ จังหวัดเชียงใหม่

ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงวัดจันทร์ ตั้งอยู่ในอำเภอกัลยาณิวัฒนา จ. เชียงใหม่ ก่อกำเนิดขึ้นหลังจากที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมเยียนราษฎรชาวเขาในเขตหมู่บ้านวัดจันทร์ พระองค์ทรงทราบถึง ความยากลำบากของชาวเขาใน พื้นที่ จึงมีพระราชดำริให้มีการพัฒนาบ้านวัดจันทร์และหมู่บ้านใกล้เคียงเพื่อก่อตั้ง “ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงวัดจันทร์” ขึ้น เพื่อช่วยให้สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้ราษฎร เพื่อให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นที่นี่เป็น แหล่งท่องไฮไลต์มีทิวทัศน์ ธรรมชาติสวยงาม ของป่าสนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยพื้นที่โครงการหลวงวัดจันทร์ ที่คุ้นเคยของนัก ท่องเที่ยวคือ ที่องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อปป) และอีกหนึ่งจุดคือ ที่ตั้งของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงวัดจันทร์ จะตั้งอยู่คนละพื้นที่ แต่ทั้งสองแห่งอยู่ในพื้นที่ดูแลของ โครงการหลวงเช่นกัน

 

กิจกรรมที่องค์การอุตสากหรรมป่าไม้ (อปป)
– ชมความงามของไอหมอกที่ลอยเหนือน้ำในยามเช้าที่องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้
– ชมใบเมเบิ้ลเปลี่ยนสี (ช่วงเดือน ม.ค.- ก.พ.)
– ปั่นจักรยานดื่มด่ำกับธรรมชาติอันบริสุทธิ์
– เดินป่าศึกษาธรรมชาติซึ่งมีทั้งป่าสนสองใบและสามใบ

ในช่วงฤดูหนาวดินแดนกลางหุบเขาแห่งนี้ จะถูกปกคลุมไปด้วยม่านหมอกและสายลมอันหนาวเย็น ไม่ว่าใครก็ตามที่ได้มาเยือนสถานที่ แห่งนี้ คงไม่พ้นหลงเสน่ห์กับความงาม ที่มองเห็นอยู่ตรงหน้า ที่องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อปป) กับภาพสายหมอกลอยพริ้วปกคลุม ทิวสน และอ่างเก็บน้ำ รวมทั้งสีสันสดสวยของใบเมเปิ้ลที่พร้อมใจกันผลัด เปลี่ยนสีในช่วงฤดูหน้าวตั้งแต่เดือนธ.ค. ก.พ. บวกกับ ธรรมชาติอันอุดมงดงามและไมตรีจิตของชาวพื้นถิ่น ทั้งหมดนี้จะยังคงตราตรึง อยู่ในความประทับใจ ของผู้ที่ได้ไปเยือนตราบนาน เท่านาน นอกจากฤดูหนาวแล้วหากมาเที่ยวในฤดูฝนจะได้พบกับอีกหนึ่งบรรยากาศ ที่เขียวขจีและสดชื่นใน แบบฉบับของการท่องเที่ยว ช่วงกรีนซีซั่นซึ่งสวยงามไม่แพ้กัน

ป่าสนสลับสีระหว่างทางในฤดูหนาว
เมเบิ้ลเแปลี่ยนสีช่วงเดือนม.ค.

วิหารแว่นตาดำ วัดจันทร์
สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่อำเภอ อีกวัดหนึ่งมีวิหารที่แปลกจากวิหารทั่วไป เรียกว่า วิหารแว่นตาดำ หรือวิหารเรย์แบรนด์  เนื่องจากลักษณะของวิหารเมื่อมองจาก ด้านหน้าแล้วคล้ายกับกำลังสวมแว่นตาดำ วิหารนี้ช่างชาวปกากะญอได้เอากระจกกรองแสงสีดำมาติดตรง ช่องลมด้านหน้าวิหาร เมื่อประมาณ 40 ปีที่แล้วนี้เอง ด้วยเหตุเพื่อป้องกันโจรที่เข้ามาลอบขโมยพระประธาน ซึ่งเป็นพระสิงห์สามอายุกว่า 300 ปี

 

จุดชมวิวพระธาตุ ชมวิวอำเภอกัลยาณิวัฒนา
จุดชมวิวพระธาตุ ชมวิวอำเภอกัลยาณิวัฒนา

จุดชมวิวพระธาตุ ชมวิวอำเภอกัลยาณิวัฒนา

หากเดินทางมาถึงอำเภอกัลยาณิวัฒนา  ไม่ควรพลาดมาชมวิวในมุมสูงที่สามารถมองเห็นวิวของอำเภอนี้ได้แบบกว้างไกล  ที่จุดชมวิวพระธาตุ ตั้งอยู่ใกล้กับวัดจันทร์ ไม่ไกลจากโครงการหลวงมากนัก  เส้นทางขึ้นไปยังจุดชมวิวต้องใช้ รถกระบะขึ้นไป เท่านั้นคะ เพราะเป็นเส้นทางดินแดนแคบและชันนิดหน่อย ขึ้นไปประมาณ 1 กิโล เราก็จะได้เห็นเจดีย์สีขาว เรียกว่า โคว่โพหลู่ แปลว่า เจดีย์น้อยเมื่อมองลงไปเบื้องล่างจะเห็นภาพบ้านเรือนของชาวบ้านที่แทรกตัวตามต้นไม้ใหญ่ ที่เขียวขจี ในช่วงฤดูทำนา เราก็จะได้เห็น นาข้าวเขียวขจีมองแล้วสบายตาและสดชื่น

 

 

บ้านห้วยฮ่อม เป็นเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชนเหล่อชอ ที่เกิดจากการรวมตัวกันของ 3 หมู่บ้าน คือ  บ้านห้วยฮ่อม บ้านดอยตุง และบ้านห้วยครก ต. บ้านจันทร์ ซึ่งชาวเขาส่วนใหญ่เป็นชาวปกากะญอที่เข้ามาอาศัยและตั้งถิ่นฐานจนกลายเป็นหมู่บ้าน  มีเรื่องราวของชุมชนที่อยู่คู่กับธรรมชาติและยังคง ใช้วีถีชีวิต แบบดั้งเดิมอยู่มาก ทั้งวัฒนธรรมการแต่งกาย ความเป็นอยู่ อาหารการกิน ประเพณีและความเชื่อแบบโบราณคือการนับถือผี บูชาธรรมชาติ โดยเปิดให้เป็นการท่องเที่ยวชุมชนเปิดให้บุคคลที่สนใจได้เข้ามา เรียนรู้และสัมผัสวิถีชุมชน พักโฮมสเตย์และทำกิจกรรมร่วมกับชาวบ้าน ฤดูท่องเที่ยวที่เหมาะสมคือ ช่วงเดือนก.ย.- ต.ค. เพราะจะได้เห็นนาข้าวขั้นบันไดด้วย  สำหรับการท่องเที่ยงชุมชนบ้านห้วยฮ่อมจะคิดราคาตามนี้

 

ตั้งอยู่ห่างจากศูนย์ประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นสถานที่พักผ่อนย่อนใจชั้นดี ได้เพลิดเพลินกับเหล่าฝูงปลาที่มากินอาหารจากนักท่องเที่ยว ซึ่งเราสามารถนำ อาหารมาให้ปลาได้ ช่วงเวลาที่เหมาะสมคือ ช่วงเช้าและเย็น ในฤดูหนาวมีโอกาสได้เห็นไอหมอกลอยเหนือน้ำอีกด้วย แต่เส้นทางไปยังอ่างอนุรักษ์เป็น เส้นทางออฟโรด ต้องใช้รถขับเคลื่อนโฟรวิล เท่านั้น และรถมอเตอร์ไซต์ก็สามารถไปได้

 

บ้านพักอปป

ที่พักขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ ป ป )
ให้บริการหลายหลัง บ้านพักสะดวกสบายมีเครื่องทำน้ำอุ่นและเครื่องนอน ไม่มีแอร์ พัดลมเพราะอากาศเย็นสบายตลอดปี  มีจุดกางเต้นท์สำหรับให้บริการ นักท่องเที่ยว  ธรรมเนียมกางเต็นท์คนละ 50 บาท ต่อคืน ไม่มีเต็นท์ให้บริการต้องเตรียมมาเอง มีอาหารให้บริการ แต่ต้องแจ้งล่วงหน้า รายละเอียดการจองบ้านพัก  https://www.fio.co.th
โทรศัพท์ 053-249349 โทรสาร 053-260072

การเดินทาง

ขอขอบคุณแหล่งที่มาจาก
www.paiduaykan.com