วิธีสร้างบ่อปลาคราฟ เเบบบ่อ รายละเอียดขึ้นต่อการสร้างอย่างละเอียด ทุกขึ้นตอน พร้อมอัพเดทข้อมูลล่าสุด
บทความนี้เขียนหลังทำบ่อเสร็จ เมื่อ เมษายน 2559 ถึงวันนี้เเล้วก็ผ่านมา 3 ปีเเล้ว
วันนี้จะมา update รายละเอียดเพิ่มเติม รวมถึงคำถามหลายๆคำถามที่ ถามกันเข้ามา
Update ข้อมูลครั้งที่ 1 : 01/01/2560 ปลาโตขึ้น น้ำยังใสอยู่
Update ข้อมูลครั้งที่ 2 : 14/04/2562 ปลาโตถึงขีดสุดของบ่อ กรองเริ่มเอาไม่อยู่
Update ข้อมูลครั้งที่ 3 : 07/06/2562 เพิ่มถังกรองเสริม
(เรื่องถังกรองขอเเยกเป็นอีกบทความนะครับ ถ้าสนใจก็ตามไปอ่านได้ที่ www.watertimerreview.com/article/114)
ผ่านไป 3ปี บ่อยังไม่มีการรั่วซึม
ปลาโตขึ้นจากไซส์ 10-15cms เป็น 40-60cms ถือว่าเป็นที่น่าพอใจกับขนาดบ่อ เเละ คงไม่โตไปกว่านี้เเล้ว
ระบบกรองที่ทดสอบทำเพียง 1ใน5 ของบ่อ เริ่มส่งผล เนื่องจากปลาโตขึ้น เเละ มากขึ้น
ก็ต้องอาศัยเพิ่มความถี่ในการล้างกรอง จาก ปีละครั้ง เป็น ทุก 6 เดือน
ตรงนี้ถ้าใครไม่อยากล้างกรอง ก็เเนะนำทำบ่อกรองขนาด 1/3 ของบ่อนะครับ
ข้อมูลอื่นๆ
รายละเอียด เเบบเเปลน ขั้นตอนการก่อสร้าง ยังเหมือนเดิมนะครับ
การคำนวณปริมาณน้ำ การเลือกปั๊ม การทำกรอง รายละเอียดเพิ่มเติมลงให้ครบถ้วน
ทางร้านไม่รับทำบ่อ หรือ ออกเเบบบ่อนะครับ ใครจะเอาไปปรับใช้ ก็ตามสบายได้เลยครับ
ที่เพิ่มเติมเข้ามา จะเป็นเรื่องการล้างบ่อกรอง ทำเป็น VDO ให้ด้านล่างนะครับ
จะพยายามเเบ่งเป็นเรื่องๆ ตามช่วงเวลา ไล่จากเริ่มต้น ไปทีละประเด็น
...
ผมพยายามเขียนบทความให้ละเอียดที่สุดเท่าที่ความสามารถจะมี
บทความจะยาวเป็นพิเศษ ถ้าอ่านจบเเล้วไม่เข้าใจ เเนะนำจ้างคนมาทำบ่อดีกว่าครับ
...
เริ่มออกแบบบ่อปลา มกราคม 2559
เริ่มจากบ่อเดิมมีปัญหาเรื่องทรุดเเตกร้าวจากรากต้นไม้ ทำการเเก้ไขไปเเล้ว (อ่านย้อนหลังได้ >> "คลิ๊ก")
เเต่ก็ไร้ซึ่งความสวยงาม เลยจะทำบ่อปลาใหม่ก็ตั้งใจว่าจะทำให้ดี ให้สวย เเละ ทนทาน..
เลยมาเเชร์ประสบการณ์ทำบ่อปลา เเล้วทดลองทำอะไรเเปลกๆ น่าจะเป็นประโยชน์เเก่คนที่สนใจ
เอาไปต่อยอด ปรับใช้กันตามสะดวกนะครับ
การสร้างบ่อปลา ถ้าเป็นบ่อใหญ่ๆ จำเป็นต้องใช้ความรู้ ทักษะ ในการออกเเบบ เเละ เเน่นอนว่าค่าใช้จ่ายสูง
เเต่บ่อไซส์เล็กๆ จะเเพงเพราะค่าวิชา เเละ ค่าเสียเวลา เลยตัดสินใจ เลยเก็บข้อมูลเพิ่ม ทั้งจากเวปในประเทศ เเละ ต่างประเทศ
ว่าเค้ามีเทคนิคในการทำบ่อแบบไหน ใช้วิธีกรองเเบบไหนบ้าง เเล้วลองทำเอง จนเป็นที่มาของบทความนี้ครับ
คำเตือน
บ่อปลา ... จัดว่าเป็นของฟุ่มเฟือย มีค่าเลี้ยงดู เเละ ดูเเลรักษา
กรุณาคิดให้ดีก่อนจะเริ่มสร้าง หรือ เลี้ยงปลา
เเต่มีคุณค่าทางจิตใจกับผู้เลี้ยง เพราะฉะนั้นถ้าชอบอยากเลี้ยง
ก็จัดได้ตามกำลังทรัพย์ เเต่ควรเลี้ยงปลาให้ดี ไม่ใช่สักเเค่อยากมีเเล้วไม่ดูเเล
ใครคิดว่าเป็นเรื่องสิ้นเปลือง หรือ ไม่พร้อม เเนะนำอย่าพึ่งใจร้อน เริ่มจากปลาตู้ ดีกว่าครับ
การทำบ่อปลารอบนี้ จะไม่ตรงตาม "ทฤษฏี" ทั้งหมด
ผมเลือกปรับให้เหมาะสมตามพื้นที่ที่ค่อนข้างจำกัด เเละ กำลังเงินในกระเป๋า
โดยคิดถึงค่า ดูเเลรักษาในระยะยาว เลือกใช้อุปกรณ์ระดับทั่วไป หาซื้อได้ตามร้านขายปลาทั่วไป
ไม่ได้อลังการงานสร้างแบบระดับเลี้ยงประกวด เเต่ก็ไม่ได้ถึงกับใช้ผ้ายางมารองเเล้วล้อมด้วยอิฐประสาน
จะเน้นเรื่องความสวยงาน การดูเเละรักษา เเละ สุขภาพของปลา
แนวคิดหลักที่ใช้คิดในการออกเเบบบ่อปลา
1. น้ำต้องสะอาด เพราะ "น้ำคือจักรวาลของปลา" สภาพเเวดล้อมเหมาะสมกับการเลี้ยงปลา
2. บ่อต้องเเข็งเเรง ทนทาน ไม่ทรุด ไม่ร้าว รั่วซึม เเละ สวยงาม
3. ดูเเลรักษา ทำความสะอาดได้ง่าย
4. ทดลองเเนวคิดเเปลกๆ เช่น ลดสัดส่วนบ่อกรอง ไม่เปลี่ยนน้ำเลยหลังล้างบ่อก็ใช้น้ำเดิมตลอด เติมเพิ่มอย่างเดียว
ทบทวนวรรณกรรม
อันนี้สรุปที่น่าสนใจมานะครับ มาจากหลายสำนักข้อมูลตัวเลขอาจจะไม่ตรงกัน ..
บอกก่อนว่า ผมไม่ได้คิดเองนะ (อ่านไว้ให้รู้ เเต่ไม่ต้องเชื่อทั้งหมดก็ได้ครับ เอาเเค่พอเป็นไอเดีย)
1. บ่อปลาคราฟ ควรมีน้ำไหล เเละ มีเสียงน้ำตก ปลาจะไม่ค่อยกระโดด
2. บ่อปลาคราฟ ยิ่งลึกยิ่งดี ควรลึกมากกว่า 1 เมตร
3. หากต้องการให้ปลาโตยาวเเค่ไหน ให้สร้างบ่อให้สัดส่วนความกว้างมากกว่า 1 เท่า เช่น อยากให้ปลาโต 50cms ก็ควรสร้างบ่อให้กว้าง 1 เมต
4. ลักษณะปลาคราฟที่ดี คือ หนาทั้งตัว การที่ปลามีพื้นที่ว่ายเยอะช่วยได้
5. ระบบกรอง ไม่ควรเปิดๆปิดๆ เพราะ จุลินทรีย์ เเละ เเบคทีเรีย อาจจะตาย เป็นหนึ่งในสาเหตุของระบบกรองล่ม น้ำจะเสีย เขียว เเละ มีฟอง
6. ขนาดบ่อกรองควรมีขนาด 1 ใน 3 ของบ่อ หรือ 30% ของปริมาณน้ำทั้งหมด
7. บ่อกรองควรมีการหมุนเวียนของน้ำมากกว่า 15 รอบต่อวัน เช่น บ่อ 6ตัน x 15รอบ = 90,000ลิตร หาร 24ชั่วโมง = 3,750 ก็ต้องหาปั๊มน้ำที่ให้อัตราการไหลมากกว่า 3,750 ลิตร/ชั่วโมงขึ้นไปมาใช้
8. สะดื้อบ่อควรอยู่ตรงกลาง หากบ่อยาวมาก ให้เว้นระยะห่างไม่เกิน 3 เมตร ปรับระนาบให้เอนลงสะดือบ่อ
9. ค่า pH ที่เหมาะสมกับการเลี้ยงปลาคราฟ คือ 7 - 7.5 (อันนี้มีหลายสำนัก)
10. วิธีทำให้น้ำใส เร็ว เเละ ง่ายที่สุดคือ ใช้หลอด UV ให้น้ำไหลผ่าน (1w ต่อน้ำ 1,000 ลิตร) หรือ จะเติมจุลินทรีย์ ฯลฯ
หลักๆ ก็จะมีประมาณนี้ครับ ... (ขอไม่พูดถึงเรื่อง ฮวงจุ้ย นะครับ ชอบยังไง สะดวกเเบบไหน ก็จัดไป)
เริมสร้างบ่อปลา : มีนาคม 2559
พอออกเเบบบ่อตามความต้องการเเล้ว โดยอยากจะทดลอง 2-3 เรื่อง
1. จะไม่มีการเปลี่ยนน้ำเลย (ปกติเราควรต้องถ่ายน้ำ หลังจากเติมน้ำเต็มครั้งเเรก) เเต่ครั้งนี้ผมจะไม่ถ่ายน้ำเลย อยากทดสอบว่าน้ำจะสามารถปรับสภาพตัวเองได้โดยไม่ต้องพึ่งน้ำยา หรือ สารเคมีใดใด โดย เช็คค่า pH (อันนี้ไปได้เเนวคิดมาจากเวป ต่างประเทศครับ เค้าบอกว่าถ้าสภาพน้ำได้พร้อมเมื่อไร ตะไคร่จะเริ่มเกาะขอบบ่อ เเละ น้ำใสเองเมื่อไร สภาพของน้ำก็ถือว่าเหมาะสมสำหรับสิ่งมีชีวิต)
2. ขนาดบ่อกรองจะเล็กกว่าที่ควร เนื่องจากข้อจำกัดทางด้านพื้นที่ โดยเเบบบ่อที่ดีบ่อกรองจะต้องมีขนาด 1 ใน 3 ของบ่อ เเต่ผมจะลดให้เหลือเพียง 1ใน5 โดยจะเพิ่มรอบการหมุนของน้ำ เเละ สร้างลำธารเลียนเเบบกรองตามธรรมชาติช่วยเสริม (หากไม่สำเร็จคงต้องขยันล้างกรองบ่อกรองเเทนเอา ไม่ก็ติดถังกรองเพิ่มนอกบ่อทีหลัง)
3. ไม่ใช้หลอด UV เพื่อทำให้น้ำใส ผมคิดว่าถ้าระบบน้ำสมบูรณ์ เเละ กรองอยู่ตัวเมื่อไร น้ำควรจะใส โดยที่เราไม่ต้องไปยุ่ง ถ้าใช้หลอด UV หรือ น้ำยาอะไร เราจะต้องใช้ไปตลอด เลยตัดปัญหาว่า จะพึ่งกรอง กับระบบปั๊มอย่างเดียว ดูว่าจะรอดมั้ย
4. เรื่องประหยัดระยะยาว คือ ตั้งใจจะใช้ปั๊มน้ำอย่างเดียว ในการสร้างระบบน้ำวน เเละ เพิ่มอากาศในน้ำ (จุดนี้ไม่กล้าเสี่ยง เลยเดินระบบปั๊มอากาศไปด้วย เพราะถ้าเเก้ทีหลังจะลำบาก)
อย่างที่บอกว่าผมตั้งใจทำบ่อ ที่เเข็งเเรง ทนทาน เเละ เหมาะสำหรับเลี้ยงปลา
ฉะนั้นผมตัดวิธีใช้ผ้ายางมารองก้นหลุม เเบบที่เน้นประหยัด ออกไปนะครับ
เริ่มหาช่างครับ ขั้นตอนนี้ ผมเลือกช่างก่อสร้าง ช่างฉาบ ผูกเหล็กเป็น ฉาบได้ ก่อได้ จบ
หาช่างเอง คุมงานเอง เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย
คุยรายละเอียด ขนาด วัสดุ เนื้องานทั้งหมด เเล้วใหช่างตีราคาเหมาเเรงมา
ของผมจัดหามาให้ เเบบนี้ประหยัดไปได้เยอะ เเต่ก็ต้องเสียเวลาคอยคุมงาน
ผมให้ความสำคัญกับการออกเเบบ วางเเผนให้ดีก่อนเริ่ม อาจจะช้า เเต่ดีกว่ามาเเก้หน้างานทีหลัง
ผมออกเเบบง่ายๆ อธิบายให้ช่างดู ช่วยได้เยอะครับ
แบบบ่อปลา
มองจากด้านข้าง มุมตัด จะประมาณนี้ครับ ผมทำเป็นบ่อขุด
บ่อขนาดความจุประมาณ 6 ตัน (ยาว 3 x กว้าง 2 x ลึก 1 เมตร)
ตั้งใจจะเลี้ยงปลาคราฟไม่เกิน 10 ตัว
สะดืออยู่กลางบ่อ เทปูนลาดไล่ระดับจุดลึกสุดอยู่ที่สะดือบ่อ เศษตะกอนจะได้ไหลลงท่อง่ายๆ
มีตัวกรองดูุดฟองผิวน้ำ (Skimmer)
เเล้วอย่าลืม ทำท่อระบายกันน้ำล้น (Over Flow)
มองจากด้านบน จะเเบ่งเป็นบ่อเลี้ยง(สีฟ้า) กับ บ่อกรอง(สีเขียว)
บ่อจริงจะขุดเป็นรูปเเบบอิสระ (Free Form)
ใช้ท่อสะดื้อขนาด 6"นิ้ว ฝังไว้ใต้บ่ออีกที (ใช้ท่อใหญ่ได้เปรียบ) เชื่อมระหว่างบ่อเลี้ยง มาบ่อกรอง
บ่อกรองเเบ่งเป็น 3 ช่อง
1. ช่องเเรก เป็นช่องรับน้ำจากบ่อเลี้ยง ใส่พวกพู่ดักตะกรอนใหญ่ๆ เศษใบไม้ ขี้ปลายาวๆ
2. ช่องกลาง จะรับน้ำล้นจากช่องเเรก โดยจะมีวัสดุกรอง ต่างๆ เเผ่นกรอง เปลือกหอยนางรม หินภูเขาไฟ ไบโอบอล
3. ช่องสุดท้าย จะรับน้ำจากช่องกลาง โดยเจาะรูด้านล่างเกือบสุด ช่องนี้ไม่ใส่อะไร มีเเค่ปั๊มน้ำอย่างเดียว
ด้านข้าง ผมออกเเบบให้เป็นลำธาร ตั้งใจจะทำกรองธรรมชาติ
มุมด้านข้าง บ่อกรอง
เเบ่งเป็น 3 ช่อง
1. ช่องเเรก(ขวาสุด) น้ำเข้ามาจากสะดือบ่อ เเละ จากตัวดูดฟองบริเวณผิวน้ำ (ช่องนี้ผมใส่พู่ดักตะกอนไว้เลย) หลังจากผ่านพู่จะล้นข้ามไปเเนะนำให้ปลายท่อพ้นพื้นบ่อมาสัก 10เซน นะครับตอนทำความสะอาดจะได้ง่าย
2. ช่องที่สอง(ตรงกลาง)ช่องนี้จะใหญ่ที่สุด รับน้ำจากบ่อเเรก โดยน้ำจะล้นจากด้านบน
วัสดุกรอง ไล่จากบนลงล่าง
2.1 ใยเเก้วเเบบหยาบ
2.2 เปลือกหอยนางรม (ระวังบาดกันด้วย คมมาก)
2.3 หินภูเขาไฟ(อย่าใช้ปะการังเลยครับ ผิดกฏหมาย)
2.4 ตระกร้า + ไบโอบอล เพื่อให้จุลินทรีย์เกาะ โดยน้ำผ่านช่องนี้เเล้วจะเข้าสู่ช่องที่สาม
เว้นรูให้น้ำเข้าไปช่องที่สุดท้ายไม่ต้องติดพื้นนะครับ เหลือพื้นที่ให้ตะกอนตกเข้าลงไปด้านใต้ บอลจุลินทรีย์จะจัดการช่วยย่อยต่อ
3. ช่องสุดท้าย(ซ้ายสุด) ผมต่อท่อดูดน้ำเข้าให้อยู่สูงกว่าตัวปั๊ม ป้องกันหากน้ำไหลเข้าช่องสุดท้ายไม่ทัน ปัั๊มจะได้ไม่ไหม้
เเล้วใช้ปั๊มอัดดันน้ำออกตามทางที่เเบ่งไว้ครับ
ระบบน้ำที่ออกจากปั๊ม มองจากมุมด้านบน
ปั๊มน้ำจะอยู่ช่องสุดท้าย (สีเหลือง)
ท่อสีเขียว ขนาด 1นิ้ว เเยกไปตามจุดต่างๆ เเละมีวาล์วเเบ่งปริมาณการไหล
โดยผมเเบ่งน้ำออกเป็น 3 ทาง + ดูดน้ำทิ้ง 1 ทาง
1. เเบ่งน้ำ ลงลำธารข้างบ่อ เเล้วไปไหลตกลงมุมขวา
2. เเบ่งน้ำลงบ่อเลี้ยง
3. เเบ่งน้ำลงบ่อเลี้ยงอีกด้าน
4. ท่อน้ำทิ้งเวลาล้างกรอง
ความจริงบ่อขนาด 6ตัน ใช้ปั๊มทีอัตราการไหลอยู่ที่ 3,750ลิตร ต่อ ชั่วโมง ก็จะได้ 15 เท่า
เเต่เนื่องจากผมทำกรองเล็กกว่าที่ควรจะเป็น เลยเลือกใช้ปั๊มน้ำสำหรับบ่อปลา(85w) 10,00ลิตร/ชั่วโมง
เพราะต้องการเพิ่มรอบการหมุนของน้ำ ชดเชยกับการที่ทำกรองเล็กกว่าที่ควรจะเป็น
์Note : ปั๊ม 85w ค่าไฟจะอยู่ที่ประมาณ 280 บาท ต่อเดือน - ควรเลือกปั๊มสำหรับเปิด 24ชั่วโมง เเพงเเต่ดี
ระบบอัดอากาศ มองจากมุมด้านบน
อันนี้ทำเผื่อไว้ก่อน ใช้ไม่ใช้ว่ากันอีกที
ปั๊มลม สี่เหลี่ยมสีส้ม
ท่อลม ท่อสีส้ม
โดยอัดอากาศไปทั้งบ่อกรอง เเละ บ่อเลี้ยง
1 บ่อกรอง ถ้ามีอากาศจะทำให้จุลินทรีย์ เเละ เเบตทีเรีย ทำงานย่อยของเสียได้ดีขึ้น
2. บ่อเลี้ยง อัดอากาศเข้าจานอากาศกลางบ่อ
3. บ่อเลี้ยง อัดอากาศปล่อยใต้น้ำตก
โดยท่อลมจะมีวาล์วคุมเเรงดันเเต่ละจุด [ถ้าผมตัดตัวนี้ไปได้ ผมจะประหยัดค่าไฟไปได้อีก]
โดยอาศัยการสร้างอ๊อกซิเจนให้ปลา จากพลังงานน้ำล้วนๆ (หัวพ่นน้ำ/น้ำตก/น้ำพุ)
ช่างที่ผมได้มา เน้นงานก่อฉาบจะดีที่สุดครับ หาง่ายไม่เเพงเหมือนช่างฝีมืออื่นๆ
เอาเเบบด้านบนให้ดูคุยรายละเอียด ขอราคาเหมาเเรง
ข้อดีของการเหมาค่าเเรง คือ ช่างจะพยายามทำให้เสร็จเร็ว โดยเราไม่ต้องคอยเร่ง คอยตาม
เเบ่งการจ่ายเงินเป็นงวดๆ ผมเเบ่งถี่หน่อย เพราะไม่มีการเบิกล่วงหน้า หรือ ให้ก่อน
อาจจะหายากหน่อย เเต่ดีกว่าสำรองเงินให้ก่อนเเล้วปวดหัวทีหลัง
ผมเเบ่งจ่ายประมาณนี้ครับ
1. ขุดดิน
2. เทพื้นรอบเเรก
3. ผูกเหล็ก
4. ก่ออิฐ
5. เทพื้นรอบสอง
6. ฉาบผนังบ่อ
7. ขัดมัน
8. เก็บงาน
ถ้าช่างอยากได้เงิน ก็ต้องรีบทำครับ ทำดี เสร็จไว มีพิเศษตลอดทุกงวด เป็นกำลังใจให้ช่างเค้า
เริ่มก่อสร้างบ่อ : 10 มีนาคม 2559
ผมจะลงรูป เเละ รายละเอียดไว้นะครับ ลองดูประกอบเอา น่าจะเข้าใจมากขึ้น
รูปเเบบบ่อ ผมเอาสายยางมาวางเป็นทรงที่เราต้องการ เทปูนขาว ให้ช่างดูเลยตอน
เพื่อยืนยันราคา ถ้าช่างโอเค ก็เริ่ม "ขุด"
ค่อยๆขุดตามรอยปูนขาวที่เทไว้ ..
อย่าลืมเตรียมพื้นที่สำหรับดินที่ขุดขึ้นมาด้วยนะครับ พอดีผมจะปูหญ้าใหม่อยู่เเล้ว เลยถมทับหญ้าเดิมไปเลย
ระหว่างรอเวลาขุดให้ได้ระดับ ก็ออกมาซื้ออุปกรณ์ต่างๆที่ต้องใช้
เริ่มที่ตัวเเรก
1. กรองดูุดฟองผิวน้ำ [skimmer] ตัวเทาๆ กลมๆ มุมล่างซ้ายของรูป
มันคือทำ PVC ลดขนาดที่บากเป็นซี่ เพื่อดักฟอง
2. จานให้อ๊อกซิเจน พร้อมข้อต่อสะดือบ่อ ตัวนี้หาซื้อยากหน่อย ร้านปลาใหญ่ๆถึงจะมีขาย
ร้านปลาตู้ไม่ค่อยมี ข้อดีของมันคือ เป็นท่อสะดือบ่อ เเละ จานอัดอากาศในตัวเดียวกัน
3. ปั๊มน้ำ ผมซื้อ 85W (10,000 ลิตร/ชั่วโมง) เลือกปั๊มเเบบเปิดตลอด 24 ชั่วโมงนะครับ
(ใช้มา 3 ปี เปิดตลอด ยังใช้งานได้ดี เเต่ถ้าไปซื้อพวกปั๊มทั่วไป เปิดต่อเนื่อง ไม่เกิน 6เดือน พัง)
4. ปั๊มอากาศ พอดีรุ่น60wหมด เลยซื้อรุ่น 100W มาเเทน เเต่ก็เอามาก่อนครับ
กลับมาดูบ่อว่าขุดได้ระดับที่เราต้องการรึยัง ??
ให้เผื่อเทปูนก้นบ่ออย่างน้อย 10 เซนด้วยนะครับ
ถ้าได้ระดับความลึกที่ต้องการเเล้วเตรียมเทปูนรองพื้นรอบเเรก
ต้องอธิบายช่างตลอดนะครับ กลัวช่างทำผิดเเบบ จะเสียเวลา เเละค่าใช้จ่าย
อย่างในรูปผมวาดเเบ่งกรองให้ช่างไว้อีกทีจะได้เข้าใจตรงกัน
ผมอยู่เชียงใหม่ ดินเดิมเเน่นอยู่เเล้ว บ่อก็ไม่ได้ใหญ่มาก เลยไม่ได้ลงเสาเข็มเพิ่ม
ขั้นตอนขุดมือ ใช้เวลาไป 3 วัน (ช่างคนเดียว)
13 มีนาคม 2559 ให้ช่างเทพื้นปูนก่อน 1 รอบ
ก่อนวางท่อสะดือ ผมใช้ท่อขนาด 6"นิ้ว ทำสะดือ
ท่อเล็ก ถ้าพวกเศษใบไม้เข้าไปติดจะลำบาก เลยเล่นท่อใหญ่ไว้ก่อน
ผูกเหล็กให้เรียบร้อย เเล้วค่อยเทปูนทับบนท่ออีกรอบ
หาอะไรครอบท่อไว้ก่อน ปูนก็อย่าลืมผสมกันซึมด้วยนะครับ
ให้ช่างปรับระดับบ่อให้เรียบร้อยเลยนะครับ
ตอนเทผมเทพื้นทั้งหมดเป็นพื้นเดียวกัน เเล้วค่อยก่อบ่อกรองทีหลัง
ลดปัญหารั่วซึม (ท่อฟ้าเล็กๆที่โผล่ขึ้นมาทางซ้ายคือ ท่ออากาศ รอต่อเข้าปั๊มลม)
ช่างเริ่มก่ออิฐ โดยเว้นร่องตรงกลางระหว่าง
ดิน กับ เหล็กเส้นที่ผูกไว้ ก่อเสร็จก็เทปูนเพิ่มความเเข็งเเรงให้กับบ่อ
ขึ้นรูปตามทรงบ่อที่ต้องการ ยิ่งโค้งเยอะ ยิ่งใช้เวลา
เทปูนลงช่องว่างระหว่างดิน กับ อิฐ จัดให้เหล็กเส้นอยู่ตรงกลาง
ก่อเสริมขอบบ่อให้ได้ระดับที่ต้องการ
วางระบบท่อ สำหรับ น้ำ เเละ อากาศ
ต่อท่ออากาศมาจุดที่จะติดปั๊มอากาศ
ขั้นตอนนี้ กินเวลาไปอีก 10 วัน
23 มีนาคม 2559 เทปูนทับท่อ เเต่งบ่อให้ได้ทรงที่ต้องการ
ช่วงก่อสร้างนี้ต้องทำใจหน่อยนะครับ
สภาพบ้านไม่กล้าเปิดรับเเขก เละกว่าที่คิดไว้เยอะครับ
ตั้งใจว่าจะให้เสร็จก่อนสงกรานต์
ฉาบเเต่งบ่อ อย่าลืม ผสมกันซึมด้วย
ต่อระบบน้ำให้เรียบร้อย ติดวาล์วปิดเปิด สำหรับควบคุมปริมาณน้ำ
31 มีนาคม 2559 ทีมปลูกหญ้า เข้ามาปรับหน้าดิน
ใครหาข้อมูลจะปลูกหญ้า ดูรีวิวปลูกหญ้า >>https://www.watertimerreview.com/b/36
ช่างทำบ่อ ต่อท่อระบบน้ำ ขั้นตอนนี้ควรจะอยู่ด้วยตลอดนะครับ
บ้างครั้งช่างเข้าใจผิดจะได้เเก้ไขได้ทัน
บางจุดทากาวเชื่อม บ้างจุดไม่ทากาว
เวลาถอดบำรุงรักษาจะได้ง่าย เวลาถอดเปลี่ยนปั๊มน้ำจะได้ไม่ต้องรื้อท่อ
ปั๊มน้ำบ่อปลา เน้นปริมาณ เเรงดันไม่สูง ไม่ทากาวก็ไม่หลุดง่ายๆ
บ่อกรอง ผมยังไม่กันบ่อเเต่ละช่องนะครับ เดี๋ยวทำทีหลังช่างจะได้ทำงานง่ายๆ
เดินท่ออะไรให้เรียบร้อย เเล้วค่อยก่อทีหลังก็ได้ครับ
ในบ่อเลี้ยงผมให้ช่างใส่น้ำไว้ก่อนเลย ดูเรื่องการรั่วซึม
เเนะนำให้ดูระดับน้ำตอนกลางคืน ถ้ากลางวันน้ำจะลดหายจากการระเหย
อันนี้เกือบเสร็จเเล้ว ฉาบเรียบร้อย เหลือเเต่งขอบบ่อ
เเต่งขอบบ่อด้วยอิฐปั้นมือ เเละ เติมน้ำเข้าบ่อ 100%
พยายามให้ช่างเก็บงาน ทำความสะอาดไปเรื่อยๆ
อย่าปล่อยให้ทำความสะอาดตอนสุดท้ายทีเดียว
สรุป ช่างปิดงานได้ 30 มีนาคม 2559 รวมทำบ่อ 20 วัน
เข้าสู่โหมด ปรับสภาพน้ำ
อย่างที่บอกไว้ หลังจากล้างคราบปูน เศษปูนเเล้ว
ผมจะใส่น้ำประปาลงบ่อ ครั้งเดียว เเละ ไม่เปลี่ยนน้ำ เหมือนอย่างที่ควรทำ
ปกติเเล้ว เรามักใส่น้ำให้เต็ม หาต้นกล้วยมาตัด เเล้ว เเช่ในน้ำเพื่อช่วยลดกรดจากปูน
ทิ้งไว้สัก 3-5 วัน ก่อนกล้วยจะเน่า ก็ถ่ายน้ำออก เเล้วใส่น้ำใหม่
ขั้นตอนนี้ผมทำหลังจากเลิกงาน มาทำได้ตอนเย็น งานเลยจะช้าหน่อย
2 เมษายน 2559 วัดค่า pH = 5.5 กรดจากปูน
ทำการทดสอบระบบน้ำ ปรับวาล์วเเต่ละจุดให้เรียบร้อย
ดูน้ำไหล น้ำวนตามที่ต้องการรึยัง
ถ้าน้ำไหลตามที่ต้องการเเล้ว ติดตัวดักฟองผิวน้ำ ที่ต่อเข้าบ่อกรองช่องเเรก
4 เมษายน 2559 ต่อระบบระบบอัดอากาศ
ติดตั้งจานให้อ๊อกซิเจนกลางบ่อ ปรับเเรงดันอ๊อกซิเจนไปจุดต่างๆให้เรียบร้อย
เช็คระดับน้ำ สังเกตุการรั่วซึม ดูการไหลวนของน้ำ หลังจากอัดอากาศลงไป
ตีไม้ปิดบ่อกรอง กับ ตีตู้ไม้ครอบ ปั๊มลม
เป็นตู้เก็บของ เปิดปิดด้านบน เอาไว้นั้งเล่นดูปลา
6 เมษายน 2559 อีกมุม ใกล้เคียงกับที่คิดไว้ ด้านข้างตั้งใจจะทำกรองธรรมชาติ
หาซื้อหินมาเเต่งลำธาร ตอนเเรกว่าจะเอากรวดเเม่น้ำมาลง เเต่คิดถึงตอนทำความสะอาดจะวุ่นวาย
เอาก้อนใหญ่หน่อย เวลาทำความสะอาดจะได้ง่าย
เรียงไว้สลับให้พอมีร่องดักพวกเศษตะกอน
คิดว่าพักคงมีตะไคร่ขึ้น ทำหน้าที่ช่วยกรองอีกทาง
ตั้งเเต่เติมน้ำยังไม่มีการถ่ายน้ำออก เลยอาจจะนานกว่าที่คิด
ทำโครงหลังคา ตรงนี้ผมตัดสินใจตีเป็นระเเนง
กันฝน กันเเดด ได้ระดับหนึ่ง ไม่อยากให้น้ำฝนลงบ่อ
เดี๋ยวปลาจะป่วยง่าย เเละ ช่วยบังเเดด น้ำจะได้ไม่เขียว
12 เมษายน 2559 ทันกำหนด เก็บงานเรียบร้อยก่อนสงกรานต์
ติดระบบพ่นหมอก ช่วยลดอุณหภูมิ รอบๆบ่อ
ใช้ Timer ควบคุมการเปิดปิด ลดร้อนรอบๆบ้านเฉพาะช่วงเวลากลางวัน
ใครสนใจอยากทำบ้าง ลองดูที่ Link นี้ครับ >> https://www.watertimerreview.com/b/35
มีวิธีทำอย่างละเอียดไว้ในนั้น ทำเองได้ไม่ยาก ลดความร้อนได้ดีเลย
ปาร์ตี้กับเพื่อนๆครับ บ่อเสร็จเเล้ว เเต่ค่า pH ยังไม่ผ่าน ยังได้ลงปลา
ปิ้ง ย่าง เเช่น้ำ สบายใจ ... ข้อดีของการมีสวน
อยากกินอะไรก็เอามาปิ้งกินกัน
เล่นน้ำไป กินไป ปิ้งเท่าไรก็หมด
ความสุขเล็กๆ มีสวนอย่าปล่อยให้รกครับ เสียดาย
ืสวนสวยๆ เพิ่มมูลค่าของบ้านได้เยอะครับ
17 เมษายน 2559 กลับมาต่อครับ ผ่านไป 15 วัน หลังจากลงน้ำครั้งเเรก
น้ำเขียวจัดเลยครับ อย่างที่บอกว่าผมอยากทดสอบเรื่องการปรับสภาพน้ำด้วยตัวเอง
ตอนนี้เดินระบบน้ำ กับ อากาศอย่างเดียว ไม่ใส่สาร หรือ กรองอะไรเลย
หวังว่า ธรรมชาติ จะสามารกจัดการตัวเองได้ เหมือนเวปต่างประเทศเค้าทำกัน
ถ้าเป็นไปตามที่คิดเดี๋ยวน้ำจะกลับมาใสเอง โดยไม่ต้องเปลี่ยนน้ำ หรือ ติดหลอด UV
ช่วงนี้ต้องอดทนมาก จะถอดใจถ่ายน้ำเปลี่ยนใหม่อยู่หลายครั้ง
คิดไว้ว่าถ้าผ่าน 30 วัน ยังไม่ดีขึ้น เลิกเเน่นอน
ช่วงนี้ น้ำเขียวจัด ฟองเพียบ ถือว่าทดสอบ Skimmer ดักฟองไปในตัว
เเต่เริ่มเห็นตะไคร่ขึ้นเกาะขอบบ่อเเล้ว
ถ้าคุณไปร้านเเล้วเอารูปให้ดู เค้าจะเเนะนำให้คุณติดหลอด UV
เเก้ปัญหาน้ำเขียวทันที ไม่ก็ให้คุณเติมยา
เเต่ผมลองรอ เเล้วดูว่าน้ำจะปรับสภาพได้เองรึเปล่า
21 เมษายน 2559 ผ่านช่วงน้ำเขียวจัด ฟองเยอะ ไป 1 อาทิตย์ ...
น้ำใสขึ้นจนเห็นก้นบ่อ มีตะไคร่จับก้นบ่อ เเละ ขอบ
ฟองลดลง เเต่ยังมีอยู่ ที่เห็นนี้คือยังไม่ใส่หลอด UV ไม่เติมน้ำยาอะไรทั้งนั้น
ผมยังไม่ได้ลงวัสดุกรองนะครับ เปิดปั๊มน้ำทำน้ำวน
กับ เปิดปั๊มอากาศให้อ๊อกซิเจนอย่างเดียว
ไปดูลำธาร ที่ตั้งใจเลียนเเบบคลองธรรมชาติ มีตะไคร่ขึ้นมาเกาะเเล้วเหมือนกัน
ทุกอย่างดูดีขึ้นมาก เป็นอย่างที่บทความต่างประเทศเค้าบอก
ถ้ามีตะไคร่ขึ้นหมายถึงสภาพน้ำดีขึ้นอยู่ในระดับที่สิ่งมีชีวิตเริ่มอาศัยได้
ข้อดีของตะไคร่คือ ช่วยบำบัดน้ำ เป็นอาหารกินเล่นของปลา
ทดสอบค่า pH วันนี้อยู่ที่ 7 ถือว่าปกติ เเต่น้ำยังมีฟองอยู่ ยังไม่กล้าลงปลา
25 เมษายน 2559 ลองต้องทดสอบเอง
ลงไปเเช่ดูเอง ชัวร์สุด เเช่ไปสักชั่วโมง
เริ่มมีความคิดอยากเก็บไว้เเช่เล่นเอง
ผ่านไป 2 วัน รอดครับไม่มีอาการเเพ้ น้ำยังใสปกติ ค่า pH ปกติ
เริ่มใส่วัสดุกรอง ในช่องตรงกลาง
เริ่มจาก ใส่ลูกบอลสำหรับเลี้ยงจุลินทรีย์ ไว้ใต้ตะกร้า
คว่ำตะกร้าลง ด้านในตะกร้าล่างจะมีลูกบอลสำหรับเลี้ยง จุลินทรีย์
ตามด้วยหินภูเขาไฟ ย้ำกันอีกทีนะครับ
ถ้าร้านเชียร์ขายปะการัง อย่าซื้อ !!
ผิดกฏหมาย เเละ ทำลายระบบนิเวศของทะเล
หินภูเขาไฟจะเบา ลอยน้ำ ผมใช้เปลือกหอยนางรมทับไว้ครับ
เปลือกหอยนางรมคมมาก ระวังบาดด้วยนะครับ
ปิดด้านบนด้วยเเผ่นกรองหยาบครับ เเบบนี้จะเเพงหน่อย
เเต่มันล้างทำความสะอาดง่ายกว่าพวกใยเเก้วสีขาว
ถึงดักเศษได้ไม่ละเอียดเท่าใยเเก้ว เเต่ทำความสะอาดง่ายกว่าเยอะ
เค้าขายเป็นตารางฟุตนะครับ เเบ่งตัดตามขนาด วัดขนาดเเล้วให้ร้านตัดให้ได้เลย
กรองช่องเเรกผมใส่พวกพู่ สำหรับกรองขี้ปลา ใบไม้ ให้ติดดักอยู่ช่องนี้ก่อน
กรองช่องกลางจะได้ไม่ตันง่าย
ตอนนี้ก็มาลุ้นกับครับว่าใส่กรองไปเเล้วจะเป็นยังไงบ้าง
น้ำจะใสขึ้นมั้ย ค่าpH จะเเกว่งอีกรึเปล่า
อันนี้ตู้ไม้ครอบระบบไฟ กับ ปั๊มลม
Braker ใช้เเบบกันดูดด้วยนะครับ น้ำกับไฟฟ้า อะไรกันได้ก็ป้องกันไว้ครับ
หลังจากทดสอบระบบ ทุกอย่างปกติ ค่าpH ปกติ
น้ำใสขึ้นหลังจากใส่วัสดุกรอง ถึงตอนนี้น้ำในบ่อยังเป็นน้ำเเรก
ไม่ใส่สารเคมี ไม่ใช้หลอด UV ไม่ใส่ต้นกล้วย ฯลฯ
อัดเเค่อากาศ กับ ทำน้ำวนอย่างเดียวครับ
ก่อนจะลงปลา ผมลองทดสอบ ปิดระบบอัดอากาศ
ใช้เเรงดันน้ำในการสร้างอ๊อกซิเจน เเล้วดูว่าจะเป็นยังไง
ผมใช้ท่อ PE มาปรับให้เป็นหัวพ่นฟอง
โดยอาศัยหลักเเรงดันน้ำ ดูดอากาศเข้าไป
ทำเเบบนี้ปรับได้เกือบ 360องศาเลยครับ
หรือจะปรับให้เป็นพ่นน้ำบนผิวน้ำ ผมเลือกเเบบนี้เพราะได้ยินเสียงน้ำ
ส่วนอีกด้าน ผมทำเป็นหัวพ่นฟองอีกจุด พ่นเข้าหาตัวดักฟองครับ
ผมใช้จุกปิดท่อ PVC เกลียว 1/2" มาต่อเข้ากับท่อ
ข้อดีข้องหัวพ่นเเบบนี้คือขนาดเล็ก สั้น ลดโอกาสปลาว่ายมาชน
ที่สำคัญ ประหยัดครับ
วิธีทำหัวพ่น เอาตัวปิดท่อ PVC มาเจาะรู
เเล้วหมุนเข้ากับเกลียวท่อที่ฝังในขอบบ่อ
เอาท่อ PE มาต่อ สีเขียว ผมเอาสายยางมาตัดจะได้เเน่นขึ้น
ดูจากด้านหน้าก็ประมาณนี้ครับ
เเค่นี้เราก็จะได้หัวพ่น เเบบสั้น ไม่ถึง 2"นิ้ว
มาใช้งานในราคาไม่น่าเกิน 30 บาท
9 พฤษภาคม 2559 - ลงปลา
หลังจากปิดปั๊มลม ไปอาทิตย์กว่า ทุกอย่างเรียบร้อยดี
ได้เวลาหาปลามาลง ผมซื้อไซส์เล็ก 10-15cms มาลง ซื้อลูกผสมไทยปกติเลย
หลังปล่อยปลาไปไปสักพัก น้ำกลับมาขุ่นอีก น่าจะเป็นเพราะขี้ปลา
เเต่ปลาร่าเริง ว่าย กินอาหารปกติ
รอ 2 อาทิตย์ กลับมาใส เข้าใจว่าน่าจะเป็นช่วงเวลาที่กรองปรับสมดุล
**** จบขั้นตอนการทำบ่อปลาคราฟ ****
สรุป ระยะเวลาในการทำบ่อ
โครงสร้างบ่อปลา 25 วัน
ทดสอบระบบน้ำ จนปล่อยปลา 30วัน
งบประมาณในการทำบ่อ
ค่าเเรงช่างเฉพาะบ่อปลา (เหมา) 10,000 บาท
ค่าอุปกรณ์ก่อสร้าง ปูน ทราย เหล็ก อิฐ ท่อฟ้่า น้ำยากันซึม 10,000 บาท
ปั๊มน้ำ 85w อัตราไหล 10,000ลิตร/ชั่วโมง 4,000 บาท
จานให้อากาศ พร้อมสะดือบ่อ 1,500 บาท
ตัวดูดฟองผิวน้ำ 250 บาท
ปั๊มอากาศ 100W 4,000 บาท
วัสดุกรอง 2,000 บาท
รวมค่าใช้จ่าย : 31,750 บาท (ราคา ณ ปี 2559)
งบประมาณในการดูเเลรักษา (ต่อเดือน)
ค่าอาหาร ประมาณ 200 บาทต่อเดือน (อันนี้เเล้วเเต่ยี่ห้อ)
ค่าไฟ ตอนนี้ใช้ปั๊มน้ำ 85w อย่างเดียว เดือนหนึ่งไม่เกิน 300 บาท
ค่ายา ค่าเกลือ วัสดุกรอง อื่นๆ 200 บาท
รวมทั้งหมด เดือนหนึ่ง ประมาณ 700 บาท
อัพเดทบ่อ 1 มกราคา 2560 หลังผ่านไป 8 เดือน
ปลาโตขึ้น ตะไคร่เกาะขอบบ่อ 100% น้ำใสตามสภาพ ยังไม่ได้ล้างกรอง ไม่ใช้หลอด UV
อัพเดทบ่อ 15 เมษายน 2562 + ขั้นตอนล้างกรอง
ปลาตอนนี้ไซส์ประมาณ 40-50cms ปลาโตขึ้นมาก เพื่อนเอามาปล่อยเพิ่มทำให้กรองเริ่มมีปัญหา ต้องล้างบ่อยขึ้น
เดี๋ยวคงหาวิธีเสริมกรองอีกที
อัพเดท 06 มิถุนายน 2562 + กรองเสริม ตัวเล็ก ประสิทธิภาพสูงเกินตัว
บทความเกี่ยวกับถังกรองเสริม ถ้าสนใจก็ตามไปอ่านได้ที่ www.watertimerreview.com/article/114
หากบทความนี้ มีข้อผิดพลาดตรงไหนต้องขออภัยไว้ด้วยนะครับ
ถ้าคิดว่าบทความนี้อาจเป็นประโยชน์กับผู้ที่สนใจ เเชร์ได้เลยนะครับ
ขอบคุณมากครับ _/\_
"บทความทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของ WaterTimerReview.com ไม่อนุญาตให้ทำการคัดลอกไปใช้เพื่อประโยชน์ทางการค้า เเต่ยินดีถ้า "เเชร์" เพื่อนำข้อมูลไปใช้สำหรับการศึกษาให้เป็นประโยชน์กับชุมชน เเละ สังคม"
(หากนำข้อมูลไปใช้อ้างอิงรบกวนช่วยให้เครดิตเวปด้วยนะครับ)
แนะนำ ส่วนบทความอื่นที่น่าสนใจ
แนะนำเดินระบบรดน้ำต้นไม้ ด้วยตัวเอง (สำหรับมือใหม่) : www.watertimerreview.com/article/109
วิธีคำนวณหัวพ่นจ่ายน้ำ สำหรับบ้านเรือน : www.watertimerreview.com/article/93
เเนะนำการเดินท่อPE สำหรับวางระบบน้ำ : www.watertimerreview.com/article/69
การเดินระบบสปริงเกอร์ Pop Up สำหรับบ้านเรือน : www.watertimerreview.com/article/92
เดินระบบหัวพ่นหมอก ลดความร้อน กรองฝุ่น ด้วยตัวเอง : www.watertimerreview.com/article/35
ระบบน้ำหยด(ท่อไมโคร PE 4มม) เหมาะพื้นที่เล็กๆ : www.watertimerreview.com/article/90
วิธีต่อพวงก๊อกน้ำ แบบไม่ต้องตัดท่อ PVC : www.watertimerreview.com/article/27
เเนะนำกรองเกษตร(กรองตะกอน) : www.watertimerreview.com/article/31
---
บทความเกี่ยวกับหัวพ่นหมอก
แนะนำหัวพ่นหมอกแต่ละประเภท : www.watertimerreview.com/article/101
เลือกหัวพ่นหมอกสำหรับลดฝุ่น : www.watertimerreview.com/article/107
พ่นหมอกยังไงไม่ให้พื้นเปียก : www.watertimerreview.com/article/106
แนะนำการเลือกซื้อชุดปั๊มพ่นหมอก : www.watertimerreview.com/article/120