เปรียบเทียบ เครื่องพิมพ์วันที่ผลิต ระบบรีดร้อน (TTO) กับ Hot stamp
เครื่องพิมพ์วันที่ผลิต ระบบรีดร้อน Thermal Transfer Overprinting (TTO) และระบบสแตมป์ร้อน ( Hot stamp )เป็นการพิมพ์ข้อมูลบนวัสดุบรรจุภัณฑ์แบบยืดหยุ่น เช่นเดียวกัน แต่ทั้งสองระบบมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านต้นทุนและประสิทธิภาพ ทางเราจึงได้เปรียบเทียบทั้งสองเทคโนโลยี และ เพื่อให้ผู้ประกอบการพิจารณาและเลือกใช้เครื่องพิมพ์ที่ตอบโจทย์กับอุตสาหกรรมได้โดยตรง
ความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีเครื่องพิมพ์
ระบบแสตมป์ร้อน( Hot stamp) และระบบรีดร้อน (TTO)
เครื่องพิมพ์ระบบแสตมป์ร้อน( Hot stamp )
เครื่องพิมพ์ระบบ Hot stamp ผู้ใช้จะต้องตั้งเครื่องพิมพ์ให้ถูกความร้อน โดยที่ให้ริบบอนอยู่ระหว่างหัวพิมพ์และพื้นผิว จากนั้นให้หัวพิมพ์ถ่ายเทความร้อนลงบนริบบอน ทำให้หมึกริบบอนละลายลงบนพื้นผิว
- เครื่องพิมพ์ Hot stamp เป็นที่รู้จักกันดี เรื่องความทนทาน และค่าใช้จ่ายเริ่มต้น
- เครื่อง Hot stamp ใช้สำหรับการพิมพ์ข้อมูลบนบรรจุภัณฑ์แบบยืดหยุ่น ในการใช้งานระบบที่ไม่ต่อเนื่องเท่านั้น
เทคโนโลยีระบบรีดร้อน (TTO) มีหัวพิมพ์และริบบอน สำหรับถ่ายเทความร้อนที่สัมผัสกับพื้นผิวยืดหยุ่น ให้มีส่วนที่ให้ความร้อนขนาดเล็ก ให้ความร้อนอย่างแม่นยำ เพื่อถ่ายโอนหมึกไปยังพื้นผิวเป้าหมาย
ส่วนที่ให้ความร้อน จะถูกควบคุมด้วยโปรแกรมเพื่อสร้างภาพดิจิตอลเรียลไทม์ รวมทั้ง บาร์โค้ดความละเอียดสูงข้อความและกราฟิก
- ระบบ TTO สามารถจัดการแอพพลิเคชันได้ทั้งแบบต่อเนื่องและไม่ต่อเนื่อง
- เครื่องพิมพ์ TTO ใช้ต้นทุนในการดำเนินงานน้อยมาก และมีความสามารถในการพิมพ์ข้อมูลที่จำเป็นได้ เหมาะสำหรับอุตสาหกรรม อาหาร ขนมขบเคี้ยว เบเกอรี่ ขนมหวาน และอาหารแช่แข็ง
ต้นทุนการดำเนินงาน
ต้นทุนค่าใช้จ่ายสำหรับเครื่องพิมพ์ระบบ Hot stamp น้อยกว่า 50% ในการลงทุนเริ่มต้นของระบบ TTO เนื่องจากระบบ TTO มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แต่ ระบบ TTO ใช้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการน้อยกว่า ระบบ Hot stamp
วัสดุสิ้นเปลือง
วัสดุสิ้นเปลือง อย่างริบบอนเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน เมื่อพิมพ์บนบรรจุภัณฑ์ที่มีความยืดหยุ่น ริบบอนทำมาจากวัสดุโพลีเอสเตอร์ที่มีชั้นของหมึกอยู่ด้านบน ริบบอน Hot stamp มีความหนากว่าริบบอนระบบ TTO เพราะต้องทนทานต่อการสัมผัสและอุณหภูมิที่เกี่ยวข้อง เป็นผลให้ริบบอน Hot stamp มีราคาสูงกว่าเทียบกับระบบ TTO โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ มีค่าใช้จ่ายสารเคมีบางตัวในริบบอนที่ราคาสูงขึ้น ทำให้ราคาริบบอนเพิ่มขึ้น
เครื่องพิมพ์ TTO ใช้ริบบอนน้อยกว่าเครื่องพิมพ์ Hot stamp เพราะเทคโนโลยีระบบ TTO สามารถควบคุมการเคลื่อนที่ของริบบอน ซึ่งจะช่วยประหยัดการใช้ริบบอน โดยทั่วไปเครื่องพิมพ์ Hot stamp จะปล่อยช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างการพิมพ์ ซึ่งทำให้เกิดการสูญเสียริบบอน
ดังนั้นเทคโนโลยีระบบ TTO ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย ด้วยคุณสมบัติการลดช่องว่างระหว่างการพิมพ์ และลดการใช้ริบบอน
นอกจากนี้ ริบบอน Hot stamp ยังมีแนวโน้มที่จะแตกโดยเฉลี่ย 1 ถึง 3 ครั้งต่อการเปลี่ยน ทำให้เกิดการหยุดทำงานและเกิดของเสียในขณะที่มีการเปลี่ยนริบบอน และจำเป็นต้องเปลี่ยนประเภทของ Hot stamp (มักทำจากทองเหลืองหรือเหล็กกล้า) เป็นระยะ ๆ
เนื่องจากมีการสึกหรอหรือสูญหาย ตัวอักษรมักมีขนาดเล็ก (1/4 ถึง 3/8 นิ้ว) ซึ่งทำให้ยากต่อการจัดการและเสียง่าย เป็นเรื่องปกติที่จะต้อง มีการเปลี่ยนตัวอักษรแบบยกชุด แม้มีตัวอักษรพังเพียงตัวเดียว ส่วนการพิมพ์แบบดิจิทัล ระบบ TTO จึงไม่มีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง แต่ต้องเปลี่ยนหัวพิมพ์ TTO เป็นระยะ ๆ
การปฎิบัติงานและการหยุดทำงาน
ริบบอนเครื่องพิมพ์ Hot stamp สั้นกว่าริบบอนเครื่องพิมพ์ TTO ( ริบบอน Hot stamp ยาว 300 เมตร เมื่อเทียบกับริบบอน TTO ที่ยาวถึง 1,200 เมตร) เครื่องพิมพ์ Hot stamp มีช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างการพิมพ์ทุกครั้ง ทำให้สิ้นเปลื้องริบบอนสูง และในกระบวนการผลิต เครื่องพิมพ์ Hot stamp จะผลิตได้ช้าลง เมื่อการเปลี่ยนริบบอนแต่ละครั้ง
นอกจากนี้ขั้นตอนการตั้งค่าหรือเปลี่ยนข้อความ Hot stamp ยังยุ่งยากเมื่อเทียบกับการเปลี่ยนแบบ TTO ผู้ประกอบการที่ใช้เครื่องพิมพ์ Hot stamp ต้องรอให้เครื่องเย็นลง เพื่อให้สามารถเปลี่ยนข้อความด้วยตัวเองได้
และต้องตรวจดูให้แน่ใจว่าตัวเครื่องได้หันทิศทางไปทางที่ถูกต้อง จากนั้นให้ความร้อนสูงขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่ระบบจะสามารถพิมพ์ได้ ขั้นตอนนี้อาจใช้เวลาประมาณ 15 ถึง 20 นาที หากต้องการเปลี่ยนข้อความระบบ TTO ผู้ดำเนินการเพียงแค่ทำการปรับเปลี่ยนหน้าจอและการพิมพ์จะเริ่มขึ้นอีกครั้งซึ่งใช้เวลาเพียงสองสามวินาที ช่วยลดเวลาหยุดทำงานและช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถทำงานทันที
ความละเอียดในการพิมพ์
ความละเอียดในการพิมพ์ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของแบรนด์ ชั้นหมึกบนริบบอนเครื่องพิมพ์ Hot stamp มีลักษณะหนา ส่งผลให้ข้อความที่พิมพ์มีสีเข้ม สิ่งนี้อาจมีความสำคัญเมื่อพิมพ์ข้อความลงบนพื้นหลังที่มืด (เขียวหรือดำ) ด้วยสีอ่อนเช่น สีเหลือง หรือ สีขาว จะทำให้การพิมพ์มีความละเอียดลดลง และมีแนวโน้มที่จะตกตะกอน (ชิ้นเล็ก ๆ ของหมึกหลุดออกมาจากริบบอนหรือวัสดุพิมพ์)
ในส่วนเครื่องพิมพ์ TTO มีขอบตัวอักษรที่คมชัดและมีคุณภาพการพิมพ์สูงกว่าเครื่องพิมพ์ Hot stamp และหัวพิมพ์ TTO มีจุดพิมพ์ความร้อน 12 จุดต่อมิลลิเมตรเพื่อให้ได้ความละเอียดในการพิมพ์ 300 จุดต่อนิ้ว
ริบบอนระบบแสตมป์ร้อน
(ของเสีย 6 mm ระหว่างพิมพ์)
ริบบอนระบบรีดร้อน
(ประหยัด 0.5mm ระหว่างพิมพ์)
การพิมพ์แบบ Variable หรือ static
ก่อนที่จะเลือกระหว่าง Hot stamp และ TTO สิ่งสำคัญคือต้องตรวจสอบว่าแอ็พพลิเคชันการพิมพ์ต้องการแบบเรียลไทม์หรือไม่ เครื่องพิมพ์ Hot stamp เป็นแบบอะนาล็อก ดังนั้นจึงสามารถพิมพ์ข้อมูลแบบคงที่ หากต้องการพิมพ์ รหัสล็อตหรือวันที่หมดอายุ ต้องมีได้รับการอัปเดตด้วยตัวเอง สำหรับการเปลี่ยนข้อความทุกบรรทัด หรือการเปลี่ยนแปลงข้อความในทุกๆวัน ส่วนเครื่องพิมพ์ TTO จะพิมพ์ข้อความหรือตัวแปรต่างๆ แบบเรียลไทม์ เช่น รหัสเฉพาะที่เปลี่ยนแปลงสำหรับทุกแพ็คเกจ หรือข้อมูลตัวแปร เช่น เวลาในการผลิต วันหมดอายุ ได้ในทุกๆบรรจุภัณฑ์
การเรียกคืน
ในกรณีที่มีการเรียกคืนเทคโนโลยีดิจิทัล TTO ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแยกแยะผลิตภัณฑ์ได้อย่างแม่นยำมากขึ้นในช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งสามารถกำหนดเป้าหมายเป็นช่วงนาทีหรือวินาที ผู้ใช้ระบบอะนาล็อก เช่น Hot stamp อาจเปลี่ยนรหัสหลัง จากเปลี่ยนทุกครั้งซึ่งอาจหมายความว่าต้องใช้เวลาในการผลิตมากถึงแปดชั่วโมง ซึ่งถือว่าไม่ดี
ช่วงเวลาที่กว้างเช่นนี้อาจทำให้มีการทิ้งหรือเรียกคืนผลิตภัณฑ์จำนวนมาก แม้ว่าชุดทั้งชุดจะไม่เสียหายก็ตาม นอกจากค่าใช้จ่ายในการเรียกคืนที่สำคัญแล้ว บริษัทอาจประสบความเสียหายกับแบรนด์ ดังนั้นข้อมูลตัวแปรแบบเรียลไทม์สามารถช่วยแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และลดผลกระทบจากการเรียกคืน ซึ่งความผิดพลาดในการพิมพ์ มักเกิดขึ้นบ่อยครั้ง
การปลอมแปลงสินค้า
ปัจจุบันปัญหาการปลอมแปลงสินค้า มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ต่อปี การออกแบบโครงสร้างและกราฟิกที่มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับการแสดงคุณลักษณะของแบรนด์ ช่วยป้องกันการปลอมแปลงสินค้า จากความเหมือนของบรรจุภัณฑ์ได้
ดังนั้นการติดฉลากเพียงอย่างเดียว ทำให้ผลิตภัณฑ์มีความเสี่ยงที่จะถูกก๊อปปีได้ง่าย ซึ่งเป็นสิ่งผิดกฎหมาย เป็นผลให้ผู้ผลิต ถูกบังคับให้เพิ่มชั้นป้องกัน ซึ่งสำคัญที่สุด คือ การตรวจสอบผลิตภัณฑ์และติดตามร่องรอยของไลน์การผลิตจากจุดที่ได้รับอนุญาต เครื่องพิมพ์ที่สามารถพิมพ์ข้อมูล และรหัสเฉพาะของสินค้า จึงมีบทบาทสำคัญในการการป้องกัน และสร้างความเชื่อมั่นของแบรนด์ ซึ่งระบบ TTO สามารถตอบโจทย์การพิมพ์บาร์โค้ด 2D เพื่อป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้
การปฏิบัติตามกฎข้อบังคับ
ปัจจุบันกฎหมายบัญญัติให้ผู้ค้าปลีก ให้ข้อมูลแก่ผู้บริโภค ตามที่ประเทศนั้น ๆ ได้กำหมดไว้ เช่น วันที่ผลิต วันหมดอายุ เลขที่จดแจ้ง เครื่องพิมพ์Hot stamp จึงควรมีข้อมูลเพียงพอที่จะปฏิบัติตามข้อกำหนด อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญ คือ ต้องกำหนดพื้นที่การพิมพ์ที่จำเป็น เพื่อเพิ่มข้อมูลที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ซึ่งเครื่องพิมพ์ Hot stamp มีพื้นที่พิมพ์มาตรฐานสูงสุด 2 นิ้ว โดย 2 นิ้วจะใช้ขนาด 3/4 นิ้ว x 1 นิ้วครึ่ง
เครื่องพิมพ์ TTO มีพื้นที่การพิมพ์ที่ใหญ่ สำหรับการพิมพ์ข้อมูลจำนวนมาก ระบบ TTO ในโหมดการทำงานแบบต่อเนื่องมีพื้นที่การพิมพ์ 2 นิ้ว x 6 นิ้ว และระบบ TTO ในโหมดการทำงานแบบไม่ต่อเนื่องมีพื้นที่พิมพ์ 2 นิ้ว x 3 นิ้ว
ความสามารถของเครื่องพิมพ์
เมื่อประเมินความแตกต่างระหว่างเทคโนโลยีการพิมพ์ที่เป็นขั้นตอนสำคัญคือ การกำหนดความต้องการการพิมพ์ในปัจจุบันและอนาคต
ประเภทของบรรจุภัณฑ์
เครื่องพิมพ์จำเป็นต้องใช้ในไลน์การผลิตหลายไลน์หรือไม่?
หากเครื่องพิมพ์จะใช้บรรจุภัณฑ์ ที่มีส่วนผสมของวัสดุแข็งและยืดหยุ่น (กระดาษแข็งพลาสติกและฟิล์ม) เครื่องพิมพ์ Hot stamp อาจเป็นทางออกที่ดี เครื่องพิมพ์ Hot stamp สามารถใช้พิมพ์บนชิ้นส่วนพลาสติกหรือยางแข็งได้ เครื่องพิมพ์ TTO เหมาะสำหรับการพิมพ์บนวัสดุที่มีความยืดหยุ่น เช่นพลาสติก และ ฟิล์ม ฟอยล์ หรือฉลากกระดาษ สำหรับการพิมพ์บนฟิล์มที่ละเอียดอ่อนมาก เช่นโพลิเอธิลีนความหนาแน่นต่ำ (เช่นหดตัว) TTO จะทำงานได้ดีที่สุด
การพิมพ์ระบบ Hot stamp สามารถละลายผ่านทินเนอร์ ซึ่งอาจทำให้เกิดการปนเปื้อนของผลิตภัณฑ์ เนื่องจากให้ความร้อนมาก พื้นที่ขนาดใหญ่และสัมผัสกับฟิล์มนาน ส่วนหัวพิมพ์ TTO มีตัวต้านทานขนาดเล็กที่ให้ความร้อนพื้นที่พิมพ์อย่างแม่นยำและมีการเปิด / ปิดเร็ว ดังนั้นจึงไม่ติดต่อกับพื้นผิวที่นานพอที่จะส่งผลต่อความสมบูรณ์ของบรรจุภัณฑ์
การเคลื่อนที่ของไลน์การผลิต
ในไลน์บรรจุภัณฑ์อาจมีการหยุดนิ่งและเคลื่อนที่ได้ โดยที่การพิมพ์เกิดขึ้นเมื่อพื้นผิวอยู่นิ่ง (การพิมพ์ไม่ต่อเนื่อง) หรืออาจไหลอย่างต่อเนื่องในขณะที่พิมพ์เกิดขึ้น (การพิมพ์ต่อเนื่อง) เครื่อง Hot stamp ทำงานเฉพาะในโหมดการพิมพ์แบบไม่ต่อเนื่องเท่านั้น ระบบ TTO มีความสามารถในการพิมพ์ทั้งแบบไม่ต่อเนื่องและแบบต่อเนื่อง
การเปลี่ยนแปลงข้อมูลการพิมพ์
ความต้องการของอุตสาหกรรม ในการเปลี่ยนแปลงข้อมูลบนผลิตภัณฑ์ยังมีเป็นระยะ เช่น ข้อมูลส่วนผสม หรือโภชนาการ หากมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูล ระบบ TTO ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเปลี่ยนแปลงข้อความในการพิมพ์ได้ง่ายและรวดเร็ว โดยมีการหยุดของไลน์การผลิตน้อยที่สุด และด้วยพื้นที่การพิมพ์ขนาดใหญ่
นอกจากนี้ยังช่วยให้สามารถพิมพ์ข้อมูลที่แตกต่างกันในแต่ละผลิตภัณฑ์ ผู้ดำเนินการ TTO จะใช้อินเทอร์เฟซระบบดิจิทัล (ตัวควบคุม) เพื่อปรับเปลี่ยนข้อความใช้เวลาประมาณหนึ่งถึงสองนาที ในการเพิ่มกราฟิกและโลโก้ใหม่ลงในระบบ โดยการอัพโหลดภาพไปยังเครื่องพิมพ์และจัดตำแหน่งให้เหมาะสมกับบรรจุภัณฑ์ผ่านตำแหน่งพิมพ์บนตัวควบคุม ในทางตรงกันข้าม
เครื่องพิมพ์ Hot stamp ต้องมีการเปลี่ยนแปลงข้อความด้วยตัวเอง หากต้องการเพิ่มตัวอักษรใหม่โลโก้หรือเครื่องหมายอื่น ๆ ไปยังเครื่องพิมพ์ Hot stamp อาจต้องสั่งพิมพ์ใหม่ และต้องมีการปรับแต่ง การดำเนินการนี้ใช้เวลาหลายวัน สำหรับการควบคุมคุณภาพ ในระหว่างการเปลี่ยนข้อความ
ระบบ TTO สามารถลดข้อผิดพลาดของผู้ดำเนินการได้โดยการ จำกัดการเข้าถึงรหัส เพื่อป้องกันไม่ให้มีการเปลี่ยนแปลงข้อความโดยไม่ได้รับอนุญาตจากความผิดพลาดที่ไม่ได้ตั้งใจ เครื่องพิมพ์ Hot stamp ไม่สามารถให้การป้องกันดังกล่าวได้
ระบบเครือข่าย
เครื่องพิมพ์ระบบเครือข่าย สามารถปรับปรุง แก้ไขการตั้งค่าเครื่องพิมพ์ ช่วยติดตามการผลิตและให้การจัดการส่วนกลาง สำหรับแต่ละผลิตภัณฑ์ เนื่องจากระบบ TTO เป็นระบบดิจิตอลจึงสามารถเชื่อมต่อเครือข่ายได้ เครื่องพิมพ์ Hot stamp ไม่มีฟังก์ชันนี้
การสร้างเครือข่ายกลุ่มเครื่องพิมพ์ TTO สามารถส่งข้อความไปยังเครื่องพิมพ์ได้โดยตรงจากส่วนกลาง ช่วยเพิ่มความสะดวกในการจัดการการหรือการเปลี่ยนแปลงงานของเครื่องพิมพ์ และตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานแล้ว โรงงานจึงสามารถใช้ซอฟต์แวร์การจัดการระบบเครือข่าย และข้อความ เพื่อให้มั่นใจว่า การเข้าการพิมพ์ข้อความในแต่ละไลน์การผลิตสอดคล้องกันโดยไม่คำนึงถึงเทคโนโลยีที่ใช้ในการพิมพ์ข้อมูล
เมื่อพิจารณาการเลือกเครื่องพิมพ์ เพื่อพิมพ์ข้อความ บาร์โค้ด ลงในบรรจุภัณฑ์ที่มีความยืดหยุ่น แม้ว่าเครื่องพิมพ์ Hot stamp อาจมีต้นทุนเริ่มต้นต่ำกว่าระบบ TTO แต่ระบบ TTO เป็นระบบที่ใช้งานได้ดี และสามารถให้ผลตอบแทนที่สั้นในการลงทุนได้ ปัจจุบันผู้ผลิตต้องดูข้อมูลการพิมพ์และตัวแปรเพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดที่ทันสมัยซึ่งจะช่วยปกป้องแบรนด์และผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี บริษัท Tomco Automatic Machinery Co., Ltd. ยินดีให้คำแนะนำ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ line: @tomco
