top of page
ค้นหา
  • รูปภาพนักเขียนtiewjourney

Taj Mahal ทัชมาฮาล หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก อนุสรณ์สถานแห่งความรัก




Taj Mahal (ทัชมาฮาล) หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ อนุสรณ์สถานแห่งความรักที่ Shah Jahan สร้างไว้เพื่อระลึกถึง Mumtaz Mahal มเหสีผู้เป็นที่รัก

Content นี้มีอะไรบ้าง


 





Introduction : Taj Mahal ทัชมาฮาล


Taj Mahal (ทัชมาฮาล) อนุสรณ์สถานแห่งความรัก ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต้องการเดินทางมาเที่ยวสักครั้ง ที่นี่ตั้งอยู่ที่เมืองอัครา รัฐอุตตรประเทศ ทางตอนเหนือของอินเดีย เป็นสุสานขนาดใหญ่ สร้างขึ้นเพื่อพระนางมุมตัช มาฮาล มเหสีอันเป็นที่รักของจักรพรรดิชาห์ จาฮาน แห่งราชวงศ์โมกุล ซึ่งเสียชีวิตขณะให้กำเนิดทายาท เรื่องราวดูเหมือนจะธรรมดา แต่ประวัติของ Taj Mahal นั้น มีเรื่องราวความรัก ความเศร้า ความอาลัย ความโหดเหี้ยม ที่เป็นเรื่องเล่าขาน รวมถึงสถาปัตยกรรมที่งดงาม รายละเอียดการตกแต่งที่ปราณีต ความสมมาตรที่สมบูรณ์แบบของการสร้างที่ผ่านการวางแผนอย่างรอบคอบ ทำให้ทัชมาฮาล เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่คนทั่วโลกสนใจ และได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่





ประวัติ


เรื่องราวแห่งความรักนี้เริ่มจากพระเจ้าชาห์ จาฮาน กษัตริย์องค์ที่ 5 ของราชวงศ์โมกุล ได้บังเอิญพบกับเด็กสาววัย 14 ปี ชื่อว่า "อรชุนด์ พาโน เพคุม" และเกิดเป็นความรักตั้งแต่แรกพบ จนต่อมา ได้มีการจัดพิธีอภิเษกสมรสขึ้น และพระราชทานนามใหม่ว่า "มุมตัซ มาฮาล" แปลว่า อัญมณีแห่งปราสาท หลังจากแต่งงานทั้งคู่ก็ไม่เคยห่างกันเลย ไม่ว่าพระเจ้าชาห์ จาฮานจะไปทรงงานที่ไหน พระนางมุมตัซ มาฮาล ก็ตามไปด้วยทุกที่ ทั้งยังมีส่วนร่วมในการช่วงงานบ้านเมือง จนเป็นที่รักของประชาชนทั่วไป


จนกระทั่งพระนางมุมตัซ มาฮาลได้ให้กำเนิดทายาทองค์ที่ 14 และมีการตกเลือดมาก จนทนไม่ไหวสิ้นพระชนม์ในอ้อมกอดของพระเจ้าชาห์ จาฮาน เหตุการณ์นี้สร้างความทุกข์ เศร้าโศกเสียใจแก่พระเจ้าชาห์ จาฮานเป็นอย่างมาก และได้ริเริ่มความคิดที่จะสร้างอนุสรณ์สถานที่แสดงถึงความรัก โดยได้รวบรวมสถาปนิก ช่างฝีมือ ผู้ออกแบบ ศิลปินชื่อดังกว่า 20,000 คน ใช้เวลาในการก่อสร้างนานเกือบ 22 ปี และมีมูลค่าในการก่อสร้างสูงถึง 32 ล้านรูปี ซึ่งถือว่าสูงมากในสมัยนั้น


ทัชมาฮาล เริ่มสร้างตั้งแต่ปี 1632 จนเสร็จสมบูรณ์ในปี 1653 และได้รับการยกย่องว่าเป็นเพชรน้ำเอกของศิลปะมุสลิมในอินเดีย รวมถึงเป็นผลงานชิ้นเอกของสถาปัตยกรรมโมกุล และสัญลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ความร่ำรวยของอินเดียอีกด้วย


เมื่อการสร้างทัชมาฮาลเสร็จ ได้มีข่าวลือว่าพระเจ้าชาห์ จาฮาน สั่งให้ประหารสถาปนิกผู้ออกแบบ ควักลูกตา ช่างฝีมือที่ร่วมสร้างทัชมาฮาลทั้งหมด เพราะไม่ต้องการให้มีการสร้างอาคารที่มีรูปแบบเดียวกันนี้ซ้ำขึ้นมาอีก บ้างก็ว่าพระองค์มีความคิดที่จะสร้าง Black Taj Mahal หรือทัชมาฮาลสีดำขึ้นที่ฝั่งตรงข้ามบริเวณสวนแสงจันทร์ (Mehtab Bagh) เพื่อเป็นสุสานของตนเอง ให้อยู่ใกล้กับมเหสีอันเป็นที่รัก เมื่อพระโอรสทราบจึงคิดว่าพ่อตัวเองนั้นสติฟั่นเฟือน ใช้เงินในคลังหมดไปกับสิ่งฟุ่มเฟือย จึงได้เข้ายึดอำนาจ และจับพ่อตัวเองไปขังไว้ที่ Agra Fort หรือป้อมอัครา พระเจ้าชาห์ จาฮาน ถูกขังอยู่ในป้อมอัครานานถึง 8 ปี โดยใช้เวลาในแต่ละวันเฝ้ามองผ่านหน้าต่าง เพื่อดูทัชมาฮาลและระลึกถึงภรรยา จนวินาทีสุดท้ายของชีวิต ตามตำนานยังเล่าอีกว่าก่อนที่จะสิ้นลมพระเจ้าชาห์ จาฮานได้จ้องมองเศษกระจกในมือที่สะท้อนภาพของทัชมาฮาล และเสียชีวิตในที่สุด


หลังจากพระเจ้าชาห์ จาฮานสวรรคต ได้มีการนำพระศพไปฝังอยู่ข้างมเหสีมุมตัส ภายในโดมของทัชมาฮาล หากใครได้เข้าไปเยี่ยมชมภายในทัชมาฮาล จะได้เห็นโลงศพอยู่ 2​ โลงด้วยกัน ตรงกลางจะเป็นโลงศพของมุมตัส มาฮาล ส่วนด้านซ้าย จะเป็นของพระเจ้าชาห์ จาฮาน ซึ่งโลงที่เราเห็นนั้น จะเป็นเพียงสัญลักษณ์ที่ตั้งไว้ให้คนทั่วไปเยี่ยมชม ส่วนพระศพจริงนั้น จะฝังอยู่ในอุโมงใต้ทัชมาฮาล




สถาปัตยกรรม


ทัชมาฮาล เป็นการก่อสร้างที่ผสมผสานสถาปัตยกรรมสไตล์อินโด-อิสลาม และโมกุล แม้อาคารของโมกุลส่วนใหญ่จะสร้างด้วยหินทรายแดงเป็นหลัก แต่โครงสร้างของทัชมาฮาลจะทำจากหินอ่อนสีขาวงาช้าง มีการแกะสลักและฝังสีลงไปบนหินอ่อน ซึ่งเป็นงานที่ต้องใช้ความปราณีตมาก ลวดลายบนหินอ่อนจะเป็นดอกไม้ ใบไม้ ซุ้มประตูทั้งสี่ด้านมีการเขียนบทอ่านจากคัมภีร์อัลกุรอาน


ความสมมาตร เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ต้องพูดถึง หากเรามองโดมตรงกลางระหว่างหออะซานทั้งสี่ แล้วแบ่งครึ่งภาพซ้ายขวา ทุกอย่างจะถูกแบ่งครึ่งออกมาเท่ากันอย่างสมบูรณ์ ตั้งแต่ตัวทัชมาฮาลรวมถึงสวนอาคารโดยรอบ ซึ่งความสมมาตรนี้เป็นลักษณะของสวรรค์ที่อยู่ในคัมภีร์อัลกุรอานอีกด้วย


จุดเด่นของทัชมาฮาลคือทำเลที่ตั้ง ซึ่งอยู่ริมแม่น้ำยมุนา จึงไม่มีสิ่งก่อสร้างอื่นที่จะมาบดบังความสวยงามของทัชมาฮาล สามารถมองเห็นได้จากมุมไกล ตั้งสูงเด่นเป็นสง่า







Mehtab Bagh


สวนแสงจันทร์ (Mehtab Bagh) เป็นสวนรูปทรงสี่เหลี่ยมขนาด 300x300 เมตร อยู่ตรงข้ามกับทัชมาฮาล​โดยมีแม่น้ำยมุนาคั่นกลาง ที่นี่เป็นสวนแห่งสุดท้ายที่สร้างแบบโมกุล เรียบแม่น้ำยมุนา ที่สวนแห่งนี้ได้มีตำนานเล่ากันว่าเป็นทำเลที่พระเจ้าชาห์ จาฮาน ได้วางแผนในการสร้าง Black Taj Mahal หรือทัชมาฮาลสีดำ จากข้อความที่ระบุถึงสถานที่ว่าเป็นที่ราบลุ่มมีหญ้าปกคลุมเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำยมุนา และเหมาะกับการชมทัชมาฮาล รวมถึงหลักฐานของซากปรักหักพังของหินอ่อนสีดำ แต่ยังไม่ทันจะสร้างเสร็จพระเจ้าชาห์ จาฮาน ก็ถูกยึดอำนาจและคุมขังที่ Agra Fort หรือป้อมอัครา เสียก่อน


แม้จะเป็นตำนาน แต่มีความเป็นไปได้สูงทีเดียว เราได้เข้าไปเยี่ยมชมสวน Mehtab Bagh แล้ว ยังคิดว่าทำเลของสวนนี้ดีมากๆ สามารถมองเห็นทัชมาฮาลได้แบบไม่มีอะไรบัง แถมคนยังน้อยอีกด้วย ถ่ายรูปได้สบาย ไม่ติดใครเลย ภายในสวนมีร่องรายของการก่อสร้างอยู่ทั้งทางเดินฉาบปูน สระน้ำที่พุ่งตรงไปยังทัชมาฮาล บ่อน้ำพุ ช่วงเวลาในการมาเที่ยวสวน Mehtab Bagh แนะนำช่วงเช้า หรือช่วงเย็นไปเลย เพราะแสงจะไม่แข็งเกินไป มาตอนกลางวันน่าจะร้อนละลาย


ส่วนของสวน Mehtab Bagh จะมีค่าเข้าสำหรับคนไทย จะเป็นเรท BIMSTEC ราคาอยู่ที่คนละ 25 รูปี (ประมาณ 10 บาท) โดยห้ามนำขาตั้งกล้อง ไม้เซลฟี่เข้าไปเหมือนเดิม ฝากไว้ที่ Ticket Booth ด้านหน้าทางเข้าได้ค่ะ ที่สวนนี้เปิดทุกวันตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นยันพระอาทิตย์ตก หรือประมาณช่วง 06.00-18.00 น.






มุมถ่ายรูป


สำหรับสายถ่ายรูป อยากได้รูปสวยๆ วันนี้เรามีมุมห้ามพลาด และทริปเล็กๆ น้อยๆ มาฝากกันค่ะ ในทริปนี้เราวางแผนไปนอนที่อัคราก่อน 1 คืน เพื่อจะได้ตื่นแต่เช้า แล้วมารอที่หน้าประตูทางเข้าตอน 05.30 น. เวลาเปิดของที่นี่ไม่ได้มีตายตัว เพราะเขาจะนับตอนพระอาทิตย์ขึ้น รีบมาก่อนได้ยิ่งดีเลยค่ะ หลังจากเข้าไปด้านในได้แล้ว เดินให้สุดฝีเท้า เดินให้เร็วที่สุด ผ่านซุ้มประตูหินทรายสีแดงไปก่อน เราก็จะเจอกับทัชมาฮาลแล้ว แต่อย่าเพิ่งตื่นเต้นกับภาพตรงหน้าค่ะ เร่งฝีเท้าต่อไป เดินไปให้ถึงตรงกลางสวนเพื่อมุมนี้ค่ะ




พอเราเริ่มถ่ายรูปกันได้สักพัก คนที่เข้ามาพร้อมเรา ก็จะเริ่มเดินมาถึงจุดนี้แล้ว เราไปจุดต่อไปกัน เดินตรงไปทางทัชมาฮาล แล้วเลี้ยวขวา จะเจอกับอาคารหินทรายแดง หามุมโค้งของซุ้มประตู แนะนำตรงกลาง บริเวณนี้มักจะมีคนเอาน้ำมาเทที่พื้น เพื่อถ่ายรูปให้เกิดภาพสะท้อน หรือจะถ่ายแบบไม่สะท้อนก็สวย แบบสวยเลย ถ่ายมากี่รูปก็สวย





มุมอื่นๆ สามารถครีเอทได้ตามใจชอบเลยค่ะ ขอยืนยันอีกเสียงว่าไม่ว่าจะถ่ายมุมไหนก็สวยทุกมุม อันนี้เป็นมุมสวนตรงประตูทางเข้า






นอกจากจะถ่ายใกล้ๆแล้ว ก็ยังมีมุมไกลด้วย อย่างอันนี้เราไปคาเฟ่ในละแวกนั้น ขึ้นไปบนดาดฟ้า สั่งเครื่องดื่มเค้า แล้วเดินหามุมถ่ายรูปได้ตามใจเลยค่ะ




แถมให้อีกมุม อันนี้คือออกจากทัชมาฮาลมาแล้วนะ จะมีซอยด้านข้าง ที่จะเดินไปที่ริมน้ำได้ จะเจอกับคุณลุงรับจ้างพายเรือพาเราไปกลางน้ำ แล้วถ่ายรูปกับหัวเรือแบบนี้เลย ซึ่งอันนี้สวยมากกกก แนะนำให้ไปช่วง Sunset พระอาทิตย์ตกแสงสะท้อนกับตัวทัชมาฮาล สวยแบบลืมหายใจ ค่าเรือเราจ่ายไป 2,000 รูปี (ประมาณ 800 บาท) กับเวลาประมาณ 15-20 นาที ยิ่งไปหลายคนยิ่งคุ้ม








ค่าเข้า + วันเวลาทำการ


  • คนไทย (BIMSTEC) 510 รูปี

  • เปิดวันเสาร์ - วันพฤหัสบดี เวลา 06:00-18:00 น.(พระอาทิตย์ขึ้น จนถึงพระอาทิตย์ตก) ปิดทุกวันศุกร์เพื่อให้คนมาละหมาด


คำแนะนำ


การเข้าไปชมด้านในทัชมาฮาล จะต้องแต่งกายสุภาพ ภายในสุสานห้ามถ่ายรูป จะต้องฝากของไว้ด้านนอก ตอนเราไปเอาพวกของใช้จำเป็นใส่ในถุงใสขนาดเล็ก เพราะที่นี่ห้ามนำขาตั้งกล้อง ไม้เซลฟี่ ไมโครโฟน กระเป๋าใบใหญ่ ฯลฯ เข้าไปค่ะ


เราแนะนำให้ซื้อตั๋วออนไลน์ไป จะสะดวกรวดเร็วกว่า ไม่ต้องไปรอต่อแถวซื้อตั๋วที่หน้าทางเข้า ตั๋วแบบออนไลน์จะมี Qr Code ให้เราสแกนผ่านเข้าไปได้เลย ก่อนเข้าจะมีแถวแยกชายหญิงเพื่อตรวจกระเป๋า และตรวจค้นภายในตัวเราไม่ให้เอาสิ่งแปลกปลอมเข้าไป





 

ชอบคอนเท้นแบบนี้ ฝากติดตามผลงานของเราช่องทางอื่นๆ ด้วยนะคะ 🥰

bottom of page