“เวียดนาม” กับความหวังจัดแข่ง Formula 1

แม้ “เวียดนาม” จะถูกถอดออกจากปฏิทินรถแข่ง F1 (Formula 1) ปี ค.ศ. 2023

ทว่า ดูเหมือน “เวียดนาม” จะยังไม่ย่อท้อ
ก่อนหน้านี้ “เวียดนาม” เปิดตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน “รถสูตรหนึ่ง” หรือ Formula 1 ภายใต้ชื่อ F1 Vietnam Grand Prix 2020
การที่ Liberty Media เจ้าของลิขสิทธิ์การแข่งขัน “รถสูตรหนึ่ง” หรือ Formula 1 ได้เคยแถลงข่าวการลงนามในสัญญาร่วมกับ VinGroup (เจ้าของรถยนต์ และรถ EV ประจำชาติเวียดนาม VinFast)
ส่งผลให้วงการรถยนต์ ASEAN สั่นสะเทือนไม่น้อย
เพราะ “เวียดนาม” ถือเป็นประเทศที่ 4 ของเอเชียต่อจาก “ญี่ปุ่น”, “จีน” และ “สิงคโปร์” ที่จะได้มีโอกาสจัดการแข่งขัน F1 นั่นเอง

Liberty Media ประกาศอย่างเป็นทางการว่า Formula 1 ได้เลือก “เวียดนาม” เป็น 1 ในสนามการแข่งขันของ F1 (Formula 1) ตั้งแต่ปี ค.ศ.2020 เป็นต้นไป
โดยสนาม Street Circuit ที่จะใช้ในการแข่งขัน F1 ในครั้งนี้ Liberty Media จะใช้เส้นทางหลักในเมืองหลวงของ “เวียดนาม” คือ “กรุงฮานอย” ผสมผสานกับการสร้างถนนใหม่เพื่อรองรับการแข่งขัน F1 โดยเฉพาะ
ซึ่งต้องบอกว่า นอกจาก “เวียดนาม” จะเป็นประเทศที่ 4 ของเอเชียที่ผ่านการคัดเลือกให้ได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน “รถสูตรหนึ่ง” หรือ Formula 1 ภายใต้ชื่อ F1 Vietnam Grand Prix 2020 แล้ว
“เวียดนาม” ยังถือเป็นประเทศที่ 4 เช่นกัน ที่รับหน้าเสื่อจัดการแข่งขัน F1 แบบ Street Circuit ต่อจาก “โมนาโก”, “อาเซอร์ไบจาน” และ “สิงคโปร์” อีกด้วยครับ
โดย F1 Vietnam Grand Prix 2020 ครั้งนี้ จะมีระยะทางการแข่งขันรวมทั้งสิ้น 5.565 กิโลเมตร รองรับ 24 โค้ง และช่วงทางตรงอื่นๆ ทั้งหมดตามข้อกำหนดของ F1
ซึ่ง “ช่วงทางตรงที่ยาวที่สุด” จะอยู่ที่ระยะประมาณ 1.5 กิโลเมตร ซึ่งจะทำให้บรรดา “ตีนผี” สามารถเร่งความเร็วได้สูงถึง 335 กิโลเมตร/ชั่วโมงเลยทีเดียว!
การแข่งขัน “รถสูตรหนึ่ง” หรือ Formula 1 หรือ F1 Vietnam Grand Prix 2020 นั้น ได้รับการบรรจุในปฏิทินการแข่งขัน “รถสูตรหนึ่ง” ในเดือนเมษายน 2020 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
และจะดำเนินการจัดการแข่งขันขึ้นในระหว่างวันที่ 3 ถึง 5 เมษายน ปี ค.ศ.2020

อย่างไรก็ดี ด้วยสถานการณ์ COVID-19 ที่เกิดขึ้น
ทำใช้ “ชาวเวียดนาม” พากันเศร้าใจ ที่พลาดหวังจะได้ชื่นชม F1 Vietnam Grand Prix หรือ “ฮานอยกรังด์ปรีซ์” จากวิกฤติการณ์ COVID-19 ที่ลากยาวมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2019-2022
ทำให้ดูเหมือนว่า ความหวังที่เมืองหลวงของ “เวียดนาม” แห่งนี้ จะได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน F1 เลือนรางลงเรื่อยๆ
โดย “กรุงฮานอย” ได้กำหนดเปิดตัวแคมเปญ F1 ในปี ค.ศ. 2020 แต่ “การแข่งขันกรังด์ปรีซ์ครั้งแรกของชาติ” ได้ถูกยกเลิกไปเนื่องจากการแพร่ระบาดของ COVID-19
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ “เวียดนาม” ไม่เคยปรากฏชื่อในปฏิทินการแข่งขัน F1 อีกเลย
โดย “เวียดนาม” ได้ลงนามในข้อตกลง 10 ปี กับทาง F1 ในปี ค.ศ. 2018 ด้วยความคาดหวังว่า F1 จะเปลี่ยนภาพลักษณ์ “กรุงฮานอย” และผลักดันตลาดรถยนต์เวียดนามที่กำลังทะยานขึ้น ด้วยความหวังที่จะเป็น 1 ใน 5 เสือเอเชีย
แม้โครงการนี้ “เวียดนาม” ต้องมีค่าใช้จ่ายมากกว่า 60 ล้านดอลลาร์ต่อปี โดย VinGroup (เจ้าของรถยนต์ และรถ EV ประจำชาติเวียดนาม VinFast)
ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจเอกชนรายใหญ่ที่สุดของประเทศเป็นผู้จ่ายค่าธรรมเนียมการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน
แต่หลังจาก F1 ถูกยกเลิกในปี ค.ศ. 2020 “เวียดนาม” ได้ถูกถอดออกจากปฏิทิน F1 ในปี ค.ศ. 2021
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การที่ “เหวียน ดึ๊ก จึง” นายกเทศมนตรี และผู้สนับสนุนรายใหญ่ของ F1 ได้ถูกจับกุมในข้อหาคอร์รัปชัน และต่อมาถูกตัดสินจำคุก 10 ปี
หากไม่มี “เหวียน ดึ๊ก จึง” อนาคตของ F1 ในฮานอย แลดูมืดมน

อย่างไรก็ดี ชื่อ “กรุงฮานอย” อาจปรากฏขึ้นอีกครั้งในปฏิทิน F1 ปี ค.ศ. 2024 ที่กำลังจะประกาศ
หลังจากผ่านไป 4 ปี ดูเหมือนความหวังอันริบหรี่จะกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง แม้กลุ่มแฟน F1 ของเวียดนามในประเทศจะมีไม่มาก
แต่ชาวเวียดนามโพ้นทะเลที่ร่ำรวยและมีอิทธิพลในยุโรปกำลังหาทางสนับสนุน
แม้ “เวียดนาม” จะถูกถอดออกจากปฏิทินรถแข่ง F1 (Formula 1) ปี ค.ศ. 2023
ทว่า ดูเหมือน “เวียดนาม” จะยังไม่ย่อท้อ
นี่อาจจะเป็นโอกาสครั้งแรก และครั้งสุดท้ายของชาวเวียดนาม ที่จะได้ภาคภูมิใจกับการเป็นเจ้าภาพ F1
ได้เห็นนักแข่งรถ F1 ระดับโลก และทีมแข่งรถจริงๆ ในชีวิตจริง
การได้นั่งอยู่ข้างสนามแข่ง F1 เป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมที่สุด
หวังว่า “เวียดนาม” จะสามารถจัดการแข่ง F1 ได้อีกครั้งในเร็วๆ นี้ครับ