ไฟรั่ว ไฟดูด ไฟช็อตต่างกันยังไง พร้อมแนะนำวิธีป้องกันอันตราย

ไฟรั่ว ไฟดูด ไฟช็อตต่างกันยังไง พร้อมแนะนำวิธีป้องกันอันตราย

อุบัติเหตุไฟฟ้าลัดวงจร เป็นคำคุ้นหูที่เรามักเห็นตามหน้าข่าว หรือสื่อออนไลน์กันเป็นประจำ แต่เคยสงสัยกันหรือเปล่าว่า ไฟรั่ว ไฟดูด และไฟช็อต มีความแตกต่างกันอย่างไร สาเหตุในการเกิดเหมือนกันไหม และจะมีวิธีป้องกันได้อย่างไรบ้าง เราจะมาไขข้อสงสัยให้ได้รู้กัน

ไฟรั่ว ไฟดูด ไฟช็อต ต่างกันยังไง?

เพราะปัญหาที่เกี่ยวกับวงจรไฟฟ้าภายในบ้านไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แต่อาจมีอันตรายถึงชีวิตและทรัพย์สินของผู้อยู่อาศัยได้ เราจึงต้องเข้าใจถึงความแตกต่างของปัญหาทั้ง 3 แบบที่พอเจอกันบ่อยที่สุด ว่าแตกต่างกันอย่างไรบ้าง

ไฟรั่ว ไฟดูด ไฟช็อตต่างกันยังไง พร้อมแนะนำวิธีป้องกันอันตราย

ไฟรั่ว คือ

การรั่วไหลของกระแสไฟฟ้าจากวงจรไฟฟ้าไปสู่ภายนอก อย่างเช่น ผิวของสายไฟบ้าน หรือบริเวณโลหะของเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งมีสาเหตุมาจากการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ขาดการบำรุงรักษาอุปกรณ์ไฟฟ้าอยู่เป็นประจำ การใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าผิดวิธี และการเสื่อมสภาพของฉนวนอุปกรณ์ไฟฟ้า ซึ่งจุดที่มีไฟรั่วเป็นเวลานานจนเกิดความร้อน มักจะเกิดเป็นเปลวไฟและกลายเป็นเพลิงไหม้ในที่สุด

ไฟดูด คือ

อาการที่ร่างกายไปสัมผัสโดนบริเวณที่เกิดกระแสไฟรั่วไหล ทำให้กระแสไฟพยายามวิ่งเข้าสู่ร่างกายก่อนลงดิน ซึ่งจะส่งผลให้ร่างกายเกิดอาการเกร็ง หัวใจเต้นผิดจังหวะ และเต้นอ่อนลงจนหยุดเต้นจนอาจเสียชีวิตได้ในท้ายที่สุด

ไฟช็อต คือ

การลัดวงจรของกระแสไฟฟ้าจากเส้นหนึ่งไหลผ่านไปยังอีกเส้นหนึ่ง โดยไม่ผ่านตัวโหลดกระแสไฟ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าใดๆ ซึ่งมีสาเหตุมาจากบริเวณฉนวนไฟฟ้าที่ชำรุด และสายไฟทั้งสองเส้นไปแตะกันโดยบังเอิญ จนเกิดความร้อนสูงจากการไหลเวียนที่ผิดปกติของกระแสไฟทั้งเส้น และกลายเป็นประกายไฟที่อาจก่อให้เกิดเพลิงไหม้ได้เช่นเดียวกันกับไฟรั่ว

วิธีป้องกันอันตรายจากปัญหาไฟรั่ว ไฟดูด ไฟช็อต

วิธีป้องกันอันตรายจากปัญหาไฟรั่ว ไฟดูด ไฟช็อต

แม้ว่าการเกิดเหตุไฟฟ้าลัดวงจร ไฟรั่ว ไฟช็อต หรือโดนไฟดูด จะดูอันตรายและน่ากลัว แต่หากเรารู้จักวิธีในการป้องกันอันตราย และดูแลอุปกรณ์ในบ้านให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานเสมอ ก็ไม่มีอะไรที่ต้องกังวลใจ ส่วนวิธีป้องกันจะมีอะไรบ้าง มาไล่เรียงไปพร้อมๆ กันดีกว่า

  • หมั่นตรวจเช็กอุปกรณ์ไฟฟ้า : ปัญหาส่วนใหญ่ในการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร ล้วนเกิดมาจากการเสื่อมสภาพ หรือชำรุดของอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้านเป็นส่วนใหญ่ จึงควรรีบเปลี่ยนทันที เมื่อเห็นสายไฟขาด แตก บวม 
  • ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มี มอก. : ควรเลือกใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ผ่านการรับรอง มอก. ระดับสากล เพราะมีความปลอดภัยมากกว่า การซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าราคาถูกนำเข้า ที่ไม่ผ่านการรับรองใด และเสี่ยงต่อการเกิดไฟช็อตจนกลายเป็นเหตุเพลิงไหม้ได้ 
  • ติดตั้งเบรกเกอร์ : เป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่น่าจะใช้กันแทบทุกบ้าน เพราะสามารถช่วยตัดกระแสไฟที่ลัดวงจร หรือรั่วไหลให้ลงดินในทันที แต่ควรเลือกติดตั้งอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานเช่นกัน 
  • ไม่ใช้ไฟเกินกำลัง : เป็นปัญหาที่หลายคนมักไม่ค่อยรู้ ว่าหนึ่งในสาเหตุที่เกิดไฟฟ้าลัดวงจร คือการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีกำลังวัตต์สูง แต่ต่อปลั๊กพ่วงรวมกับการใช้งานอื่นๆ มากเกินไป จนรับกระแสไฟไม่ไหว และเกิดการลัดวงจรในท้ายที่สุด
  • ห้ามใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าเมื่อตัวเปียก : ในยุคที่คนติดเทคโนโลยีกันมากขึ้น หลายครั้งเราอาจจะลืมคิดเวลาอาบน้ำออกมาเสร็จ แล้วเผลอจับมือถือที่กำลังชาร์จไฟอยู่ หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าชนิดอื่น ซึ่งมีความเสี่ยงสูงต่อการโดนไฟดูด

สรุปบทความ ไฟช็อต-รั่ว-ดูด ต่างกันยังไง มีวิธีป้องกันยังไงบ้าง

อุบัติเหตุไฟฟ้าลัดวงจร เป็นคำคุ้นหูที่เรามักเห็นตามหน้าข่าว หรือสื่อออนไลน์กันเป็นประจำ แต่เคยสงสัยกันหรือเปล่าว่า ไฟรั่ว ไฟดูด และไฟช็อต มีความแตกต่างกันอย่างไร สาเหตุในการเกิดเหมือนกันไหม และจะมีวิธีป้องกันได้อย่างไรบ้าง เราจะมาไขข้อสงสัยให้ได้รู้กัน