ร้านอาหารน้องใหม่เปิดมาได้เพียง 7 เดือน แต่ลูกค้ากลับแวะเวียนมาจนต้องจองโต๊ะล่วงหน้า เริ่มจากบรรยากาศในร้านตกแต่งแบบไทยย้อนยุค สะอาดตา และโชว์ครัวให้ได้เห็นความเป็นเชฟมืออาชีพของจริง ทุกเมนูทำโชว์และเสิร์ฟทันที เรียกว่าทำไปกินไป เชฟเค้าทำอะไร ใส่อะไร เราก็เห็นทั้งหมด ทั้งการโขลกพริก และเครื่องแกงด้วยครกหิน การย่างโดยใช้ถ่าน ก็ทำโชว์ให้ได้ดูเป็นอาหารตาไม่น่าเบื่อ แถมเปิดเพลงเก่าทั้งลูกทุ่งลูกกรุงเบาๆ เหมือนเราได้ไปบ้านเพื่อนสนิท ที่เป็นความหมายของชื่อร้านที่ตั้งขึ้นด้วยภาษาระยองต้องมีเหน่อๆ ฉันลมิตร ก็คือ “ฉันมิตร” นั่นเอง
นายสมภพ ภู่ธนะพิบูล อายุ 30 ปี เจ้าของร้าน เล่าว่า เรียนจบปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ แล้วไปเรียนทำกับข้าวที่ สวิตเซอร์แลนด์ หลังจากที่ค้นพบตัวเองว่ามีความสุขกับการทำอาหาร พอเรียนจบกลับมาอยู่ร้านอาหารที่กรุงเทพประมาณ 3 ปี ก็เจอสถานการณ์โควิดจึงกลับมาอยู่บ้านที่ระยอง ได้อยู่กับพ่อแม่ และเริ่มเรียนรู้เมนูอาหารหลักของคนระยอง ซึ่งมีวัตถุดิบที่เป็นเอกลักษณ์และมีคุณค่ามากมาย ไม่ว่าจะเป็นอาหารทะเลสด พืชผักต่างๆ จึงตัดสินใจเปิดร้านอาหารไทยเพราะได้ทดลองศึกษา ค้นคว้าจนพบว่า อาหารไทยกินได้ทุกวันไม่น่าเบื่อและอาหารไทยของทางร้านมาจากเมนูท้องถิ่นที่ได้ต่อยอดพัฒนาให้แปลกใหม่อร่อยแบบไม่เคยกินที่ไหนมาก่อน เมนูแนะนำ เช่น “แกงเผ็ดระยองคอหมูย่างน้ำผึ้งใส่แขนงสับปะรด” ความเด่นคือ เราจะใช้คอหมูหมักกับน้ำผึ้งแล้วนำมาย่างให้มีกลิ่นสโมค(ย่างไฟ)เหมือนอาหารฝรั่งเป็นการลีนไขมันในคอหมูออกก่อนที่จะเอามาแกง เมื่อได้กินกับแขนงสับปะรดที่มีความกรอบและมีรสเฝื่อนนิดๆ เสริมความเผ็ดร้อนด้วยสมุนไพร กระวาน บวกกับเครื่องพริกแกงที่มีทั้งลูกผักชีไร่ไพร ก็ทำให้แกงถ้วยนี้หอมอร่อยครบรส ทานกับข้าวสวยร้อนๆ
ส่วนเมนูพิเศษของร้านคือ “ไส้กรอกหมูสะเต๊ะ” ที่ถูกคิดขึ้นมาโดยทำตัวไส้กรอกให้ไส้ในเป็นหมูสะเต๊ะทำเครื่องเทศและน้ำจิ้มผสมเข้าไปกับเนื้อหมู กินกับอาจาด ที่เป็นตัวชูโรง เพราะใช้ตะลิงปิงพืชพื้นบ้านที่ปลูกกันอยู่ริมรั้ว นำตะลิงปิงมาหั่นผสมกับแตงกวาพริกขิงซอย อาจาดตะลิงปิงจึงให้ความเปรี้ยวและเย็นสดชื่น เมื่อทานกับไส้กรอกหมูสะเต๊ะที่มีความหวานก็จะเข้ากันได้ดี อีกเมนูที่พลาดไม่ได้ คือ “หลนกะปิคั่วใส่เนื้อปู” ความพิเศษของเมนูนี้ ที่ไม่เหมือนกะปิคั่วธรรมดาคือการใส่หัวกะทิและเนื้อปูทำให้รสนุ่มนวลมากขึ้น ทานคู่กับผักสดผลไม้พื้นบ้านที่หาได้ตามฤดูกาล เช่น ชมพู่ ดอกผักปัง มะเขือ แตงกวา ถั่วฝักยาว
และที่ลูกค้าต้องสั่งประจำคือ “หมึกผัดซอสพริก” ใช้หมึกสดตัวใหญ่ ที่ชาวประมงนำมาส่งให้ทุกวัน ผัดกับซอสพริกสูตรของทางร้าน รสชาติกลมกล่อม เนื้อนุ่มหนึบจากความสด และกลมกล่อมจากซอสพริก ทานคาวแล้วอย่าลืมตามด้วยของหวาน ที่ไม่เหมือนกับที่อื่น เช่น ขนมหม้อแกง ไม่ใส่ถั่วและแป้ง แต่ใส่เนื้อเกาลัดล้วนๆ ส่วนขนมอินทนิล ก็ไม่ใช้แป้งมัน แต่ใช้แป้งสาคูต้นจากพัทลุงเคี่ยวจนเหนียวหนึบเนื้อเป็นสีม่วงสวยงามจากธรรมชาติปั้นเป็นลูกใส่น้ำเย็น และแช่ในน้ำเชื่อมเวลาทาน ก็นำมาใส่ในถ้วยเสริมด้วยเนื้อมะพร้าวน้ำหอมเผาราดด้วยกะทิสดจากมะพร้าวคั้นเคี่ยวควันเทียนใส่น้ำแข็งเสิร์ฟทันที นอกจากนี้ ยังมี “ส้มฉุน”หรือลอยแก้วผลไม้ ใช้ผลไม้สดๆ ตามฤดูกาล เช่นเนื้อลิ้นจี่สดๆ องุ่น ลำไยราดด้วยน้ำส้มฉุนโรยหอมเจียวและผิวส้มซ่า หวาน หอมชื่นใจ
ที่ร้านผลิต “ซอสพริก” จำหน่ายภายใต้แบรนด์ คี้เอ็งพานิช ซึ่งคำว่าคี้เอ็ง คือชื่อของ สมภพ เจ้าของร้านเป็นชื่อที่ก๋งตั้งให้ นำมาใช้เพื่อเป็นสิริมงคล ซอสพริกไม่ใส่ผงชูรส หวานจากน้ำตาลมะพร้าว ใส่ของทอดได้ทุกอย่างทำเป็นน้ำจิ้มสุกี้ก็ได้ ท่านที่สนใจ ไปรับประทานอาหารไทยสไตล์พื้นถิ่นระยอง ที่ร้านฉันลมิตร อยู่ติดถนนสุขุมวิท เยื้องแขวงการทางระยอง แนะนำให้โทรจองก่อน ที่ร้านเบอร์โทร 062-2264297เปิดเวลา 17.00-22.00 น. และเสาร์-อาทิตย์ เปิด 12.00-14.30 น. หยุดวันอังคาร..
อัจฉรา วิเศษศรี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี