“ช่างนัททำทอง”จากหนุ่มพิการแต่กำเนิด แต่หัวใจไม่เคยยอมแพ้ เรียนรู้-สู้จนรวย

ช่างนัททำทองสุดเจ๋ง ผู้พิการแต่หัวใจไม่เคยยอมแพ้ ซื้อรถบีเอ็มZ4 ซื้อบ้าน พ่อแม่สุดภูมิใจ

13 พ.ค.61 เรื่องราวของช่างทอง ผู้มีหัวใจไม่ยอมแพ้ ที่พิการแค่เพียงร่างกาย แต่จิตใจกลับแข็งแกร่ง ต่อสู้ชีวิตฝ่าฟันจนประสบความสำเร็จในชีวิต สร้างความภาคภูมิใจมายังครอบครัว นายสิวนัส แสงสำราญ หรือ ช่างนัท ชาว ต.ตะค่า อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี วัย 29 ปี ผู้ที่มีร่างกายพิการมาแต่กำเนิด เริ่มต้นชีวิตมาจากครอบครัวฐานะปานกลาง มีพี่น้องรวม 3 คน เป็นผู้ชายทั้งหมด ตนเองเป็นลูกชายคนกลาง สามารถสร้างรายได้จากหลักสิบ หลักร้อย กลายมาเป็นหลักแสนในเวลาเพียงแค่ไม่กี่ปี

นาย สิวนัส หรือ ช่างนัท ได้เปิดเผย เรื่องราวของตนเองกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองนั้นมีความพิการตั้งแต่กำเนิด เมื่อเกิดมาพอเริ่มจำความได้ ตนไม่เคยรู้สึกท้อใจในโชคชะตาชีวิตเลย เพราะมีครอบครัวคอยให้กำลังใจมาโดยตลอด ตนนั้นไม่ได้เรียนหนังสือ ก็ช่วยทางบ้านทำงานเล็กๆน้อยๆ เท่าที่ตนทำได้ ต่อมา ตนได้เริ่มโตขึ้น เมื่อปี 2548 เริ่มต้นชีวิตการทำงาน โดยส่วนตัวมีความชอบด้านพระเครื่อง จึงไปเรียนรู้อบรมด้านการทำกรอบพระเครื่อง ที่เป็นพลาสติก และรับจ้างเลี่ยมกรอบพระทำเรื่อยมา เป็นเวลากว่า 10 ปี ซึ่งตนก็สั่งสมประสบการณ์จนเชี่ยวชาญ เลยมาเปิดร้านเป็นของตัวเองเล็กๆที่บ้าน จนมีลูกค้าเดินทางมาทำกรอบพระมากขึ้น จากนั้นตนก็เริ่มเรียนรู้จากการเลี่ยมกรอบพระพลาสติก มาเป็น เลี่ยมกรอบพระทองคำ ด้วยการแกะสลักลวดลาย ตามแบบลักษณะของตัวเองที่คิดขึ้นมา และตามแบบที่ลูกค้าสั่ง ด้วยความปราณีตและสวยงามตามแบบฉบับช่างนัท

ปัจจุบันที่ร้านช่างนัท รับงานสั่งทำเป็นจำนวนมาก คือ การแกะสลักลวดลายทองบนสร้อยเหลดหลวงพ่อรวย มีทั้งแบบ ฝังเพชร ยกซุ้มเถาวัลย์ฝังเพชร ยกซุ้ม 3 ชั้น ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของร้านช่างนัทในแบบฉบับของช่างนัท จนลูกค้าชื่นชอบ ทำให้เป็นที่บอกต่อ และ ด้วยความที่ตน เป็นคนตรงไปตรงมา ทำงานด้วยความตั้งใจมาตลอดระยะเวลา 13 ปี ที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบันมีลูกค้ามาสั่งงานเป็นจำนวนมาก ทำให้มีรายได้มากขึ้น จากหลักสิบ มาสู่หลักร้อย หลักพัน หลักหมื่น จนกลายมาเป็นหลักแสน ต่อเดือน มีลูกค้าทั้งชาวไทย และต่างชาติ

Advertisement

จากนั้น ได้เริ่มคิดขยายกิจการ เมื่อปีที่แล้ว  โดยได้มาเปิดร้านเล็กๆขึ้นในหมู่บ้าน พีพี 9 ที่ ต.ไผ่ขวาง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี มีพนักงานที่เป็นช่างทองมีฝีมือ จำนวน 7 คน และมีพี่ชายที่จบวิศวกรรมโลหะจากประเทศญี่ปุ่นกลับมาช่วยงาน โดยเป็นคนรับงานจากลูกค้า และช่วยดูแลเพจร้าน ส่วนน้องชายอีกคน วัย 24 ปี ก็ช่วยงานด้านโซเชียล ทั้งเฟสบุ๊คและตอบลูกค้าในเพจร้าน ทำให้กิจการเริ่มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน สามารถซื้อบ้านและซื้อรถยนต์ได้ และยังมีรายได้เลี้ยงดูพ่อแม่ให้สบายอีกด้วย

ช่างนัท ยังกล่าวต่ออีกว่า ที่ตนอยู่ได้ทุกวันนี้ โดยไม่เคยคิดสั้น หรือ น้อยใจในโชคชะตาชีวิตของตัวเอง ถึงแม้ว่าร่างกายจะพิการ แต่ตนก็ไม่เคยนำปมด้อยของตัวเอง มาเป็นสิ่งที่ทำลายชีวิต ความฝัน อนาคต แต่กลับมีแรงผลักดันและแรงบันดาลใจที่จะต่อสู้ชีวิต ถึงแม้ครั้งหนึ่ง จะเคยมีคนดูถูกว่าตนนั้นร่างกายพิการ จะไปได้ถึงไหนกันเชียว ตนก็เก็บคำพูดเหล่านั้นมาเป็นแรงผลักดันและสร้างแรงบันดาลใจให้ลุกขึ้นสู้ โดยสามารถใช้ชีวิตอย่างปกติเหมือนคนอื่นทั่วไป ส่วนหนึ่งตนเชื่อว่า ตนมีกำลังใจที่ดี จากครอบครัวที่อบอุ่น ที่ให้ความรักมาโดยตลอดตั้งแต่เล็กจนโต จนทำให้ตนรู้สึกว่า ตนต้องไม่ทำให้พ่อแม่ผิดหวัง ตนต้องลุกขึ้นมาต่อสู้ ไม่ยอมแพ้โชคชะตา และตนก็เชื่อว่า ความรักของครอบครัวและความเชื่อมั่นในตัวเอง จะสามารถทำให้ชีวิตตัวเองมีคุณค่าได้ จึงอยากให้เรื่องราวของตนสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนที่พิการ และ คิดท้อแท้กับชีวิต ขออย่าสิ้นหวัง เมื่อเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราเลือกที่จะทำได้ พร้อมทิ้งทาย กับ คติในการใช้ชีวิตของช่างนัท ว่า “ ใจที่ยอมรับ แต่ไม่เคยยอมแพ้ ”

Advertisement

ด้าน คุณแม่ของช่างนัท นางมณเฑียร แสงสำราญ ได้เปิดเผยว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา ตนได้ให้กำลังใจลุกชายมาโดยตลอด ซึ่งลูกชายของตนเป็นคนเข้มแข็ง ไม่เคยมีวันไหนที่ร้องไห้ และบ่นท้อแท้ชีวิต กลับเป็นกำลังใจสำคัญของทุกคนในครอบครัว ช่างนัท เป็นคนเก่ง มีความสามารถ และเป็นคนต่อสู้ชีวิต ไม่น้อยใจในโชคชะตา ทุกวันนี้ จึงรู้สึกภาคภูมิใจในตัวของลูกชายคนนี้มาก และอยากให้เรื่องราวของเค้าสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image