เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ที่กองกำกับการสายตรวจ(กก.สตร.)กองบังคับการสายตรวจและปฎิบัติการพิเศษ(บก.สปพ.)ถนนวิภาวดี พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ(บก.สปพ.)พ.ต.อ.สำราญ นวลมา รองผบก.สปพ. พ.ต.ท.นิวัฒน์ พึ่งอุทัยศรี รองผกก.ศูนย์รวมข่าว พ.ต.ท.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์ สว.งานสายตรวจ 2นำทีมสืบสวนปราบปรามอาชญากรรมที่ใช้สื่อโซเชียลมีเดียจำหน่ายสิ่งของผิดกฎหมาย เช่น อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนเถื่อน ยาเสพติด และการกระทำความผิดประเภทอื่นอย่างต่อเนื่อง ต่อมาสืบสวนทราบว่า วัยรุ่นผู้ค้ายาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) มาซุกซ่อนไว้ภายในหมู่บ้านเพอร์เฟคพาร์ค เลขที่ 11/78 ซอยร่มเกล้า 64 แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร จากนั้นจะแบ่งจำหน่ายให้กับลูกค้าย่านร่มเกล้า และซอยมิสทีน (ถ.ราษฎร์พัฒนา หรือ ซ.รามคำแหง 160) อีกทั้งยังจัดจำหน่ายกัญชา ให้กับลูกค้าทางออนไลน์และโซเชียลมีเดีย ในช่องทางกลุ่มลับในแอพพลิเคชั่นไลน์ และเฟซบุ๊ค เมื่อตกลงราคาและลูกค้าโอนเงินชำระค่ายาเสพติดแล้วจะแพคยาเสพติดส่งให้ลูกค้าผ่านทางบริการไปรษณีย์ จึงสนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ทหารร้อย รส.ม.พัน.2 พล.ร.2 รอ. อาศัยอำนาจตามคำสั่ง คสช.ที่ 13/2559 ลงวันที่ 29 มีนาคม 2559 เข้าตรวจค้น จับกุมนายปิยณัฐ หรือตูน ศิริสุนทร อายุ 18 ปี พร้อม กัญชาอัดแท่ง จำนวน 37 แท่ง รวมน้ำหนักประมาณ 37 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ในห้องนอน เครื่องชั่งน้ำหนัก สำหรับชั่งกัญชา จำนวน 2 เครื่องอุปกรณ์แพ็คกล่องพัสดุไปรษณีย์ จำนวน 30 ชุด และโทรศัพท์มือถือ ที่ตรวจสอบพบว่ามีการติดต่อซื้อขายยาเสพติด เป็นตลาดค้าขายยาเสพติดออนไลน์ 3 เครื่อง จึงแจ้งข้อหา“มียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” และยังทำการตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดของนายปิยณัฐฯ คือ รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้าซีวิค สีเทา ทะเบียน พก 1393 กทม.จำนวน 1 คัน , สร้อยคอทองคำ น้ำหนักรวม 3 บาท และเงินสดที่ได้จากการจำหน่ายกัญชา จำนวน 73,600 บาท รวมตรวจยึดทรัพย์สินมูลค่า 250,000 บาท
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่าสอบสวน นายปิยณัฐ ทำให้ทราบว่าในกลุ่มผู้ที่จำหน่ายยาเสพติดด้วยกันในพื้นที่ จะจำหน่ายยาเสพติดคนละประเภทแตกต่างกันไปเช่น กัญชา ยาบ้า ยาไอซ์ ยาเค ยาแก้ไอและใบกระท่อม แต่มักจะหาลูกค้ามาแบ่งปันกันในกลุ่ม หากซื้อขายสำเร็จจะขยายฐานลูกค้าเพิ่มเติมทั้งทางออนไลน์ และการลักลอบขายแบบส่งถึงมือที่บ้าน แต่ยังใช้ช่องทางออนไลน์ในการติดต่อสื่อสารซื้อขายยาเสพติดเป็นหลัก จึงทำการขยายผลล่อซื้อยาบ้าจากนายเซียร์ ซึ่งเป็นรุ่นพี่ของนายปิยณัฐ และเป็นผู้ค้ายาเสพติดในกลุ่มเดียวกัน จำนวน 4,000 เม็ด สอบถามราคาแล้วจึงพบความจริงที่น่าตกใจว่า ยาบ้าที่จำหน่ายมีราคาถูกเฉลี่ยเม็ดละ 22 บาทเท่านั้น จากการขยายผลล่อซื้อ สามารถจับกุมผู้จำหน่ายยาเสพติดในเครือข่ายย่านร่มเกล้า ได้เพิ่มเติมคือ นายศราพิชัย หรือเซียร์ ศิริประยงค์ อายุ 20 ปี พร้อมของกลางยาบ้าสีส้มลักษณะทรงกลมแบน ประทับตรา 999 จำนวน 2 มัด ซึ่งในหนึ่งมัดจะมีจำนวน 10 ถุง แต่ละถุงบรรจุยาบ้า 200เม็ด แบ่งเป็น ถุงซิปสีน้ำเงินจำนวน 8 ถุง และถุงซิปสีดำรูปแอปเปิ้ล ยี่ห้อ “ไอโฟน” 2 ถุง รวมยาบ้า 4,000 เม็ดโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง รุ่น กาแลคซี่ เจ 7 จำนวน 1 เครื่อง รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ 110 ไอ สีขาว ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน จึงแจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1( ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย จากการสอบปากคำนายศราพิชัย และนายปิยณัฐ ผู้ต้องหาทั้งสองราย และรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขยายผลไปยังตัวการรายอื่นที่ยังมีพฤติกรรมจำหน่ายยาเสพติดผ่านทางช่องทางออนไลน์รายอื่นเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง ต่อไป
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ(บก.สปพ.)กล่าวว่า ในวันพุธที่ 7 มิถุนายน จะทำงานเชิงรุกโดยจะประสานกับผู้จัดการบริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด มาประชุมร่วมกันเพื่อกำหนดมาตราการการทำงานเพื่อทำงานเชิงรุกกดดันสกัดกั้นลำเลียงยาเสพติด อาวุธสงครามและวัตถุระเบิดที่ฝากส่งทางไปรษณีย์ทางสำนักงานและสาขา
