ผู้เชี่ยวชาญเผย เคยเตือนแล้ว ภัยภูเขาไฟเมราปี หลังปะทุคร่า 13 นักปีนเขา เร่งค้นหาที่ยังสูญหายอีก 10
จากกรณีภูเขาไฟเมราปี ในจังหวัดสุมาตราตะวันตกของอินโดนีเซีย เกิดปะทุพ่นเถ้าถ่านขึ้นเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ส่งผลให้มีนักปีนเขาเสียชีวิตแล้ว 13 ราย และยังสูญหายอยู่อีก 10 รายนั้น ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาภูเขาของอินโดนีเซีย ออกมาเปิดเผยเมื่อวันที่ 5 ธันวาคมว่า เคยเตือนมาตั้งแต่ปี 2011 แล้วว่าไม่ปลอดภัยที่จะปีนภูเขาไฟลูกนี้ที่มีความสูงถึง 2,891 เมตร
นายเฮนดรา กุนาวัน หัวหน้าสำนักงานวิทยาภูเขาไฟ กล่าวว่า เป็นเวลามากกว่า 10 ปีแล้วที่ทางสำนักงานได้ส่งจดหมายเตือนกระทรวงสิ่งแวดล้อมและหน่วยอนุรักษ์ท้องถิ่นเป็นประจำทุกเดือนว่านักปีนเขาควรรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยจากยอดภูเขาไฟ คำแนะนำคือการไม่ปีนขึ้นไปบนยอดภูเขาไฟ โดยไม่มีใครควรขึ้นไปภายในรัศมี 3 กิโลเมตรจากปากปล่องภูเขาไฟ
ขณะที่เจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ของสำนักงานวิทยาภูเขาไฟ กล่าวว่า หน่วยงานของตนอาจทำได้แค่ออกคำเตือนเรื่องความปลอดภัย แต่ขึ้นอยู่กับกระทรวงสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานอนุรักษ์ในพื้นที่ที่จะบังคับใช้
ด้านกระทรวงสิ่งแวดล้อมของอินโดนีเซียยังไม่แสดงท่าทีใดๆ ขณะที่หน่วยงานอนุรักษ์ท้องถิ่นที่อยู่ภายใต้สังกัดกระทรวงสิ่งแวดล้อม กล่าวอ้างว่า การอนุญาตให้ปีนเขาได้มีขึ้นหลังจากได้รับไฟเขียวจากหน่วยงานท้องถิ่นหลายแห่งแล้ว รวมถึงรัฐบาลท้องถิ่นจังหวัดสุมาตราตะวันตก สำนักงานภัยพิบัติแห่งชาติ และสำนักงานค้นหาและกู้ภัยปาดัง ที่ยังปฏิเสธจะให้ความเห็นในเรื่องนี้
ขณะที่การค้นหานักปีนเขาที่ยังคงสูญหายอยู่จำนวน 10 รายนั้นยังดำเนินต่อไป โดยมีทีมนักกู้ภัยท้องถิ่น 200 คนเข้าร่วมการค้นหา โดยขณะเกิดเหตุภูเขาไฟเมราปีปะทุพ่นเถ้าถ่านขึ้นสู่ท้องฟ้าสูงถึง 3 กิโลเมตรเมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมานั้น ได้มีนักปีนเขาอยู่บนภูเขาไฟลูกนี้จำนวน 75 คน ซึ่งนับเป็นการปะทุครั้งรุนแรงที่สุดของภูเขาไฟเมราปีนับจากปี 1979 ที่ครั้งนั้นเป็นผลให้มีผู้เสียชีวิต 60 ราย
