พุทธศาสนิกชน ร่วมกราบสักการะ พระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุ แล้ว กว่า 2 ล้านคน วธ. เตรียมอัญเชิญมาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ วัดมหาธาตุวชิรมงคล จ.กระบี่ 14 มี.ค. เปิดให้ประชาชนสักการะ 15-18 มี.ค.
เมื่อวันที่ 13 มีนาคม นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า รัฐบาล โดยกระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับรัฐบาลสาธารณรัฐอินเดีย โดยกระทรวงวัฒนธรรมอินเดีย สถานเอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย สถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ได้ร่วมกันอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ จากสาธารณรัฐอินเดีย มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ ประเทศไทย เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 สักการบูชา ตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์-3 มีนาคม 2567 เวลา 08.00-20.00 น. ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง และให้ประชาชนได้เข้าสักการบูชา ณ หอคำหลวง อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่ วัดมหาวนาราม จังหวัดอุบลราชธานี ขณะนี้ มีประชาชนได้เข้าร่วมสักการบูชากว่า 2 ล้านคน
รัฐมนตรีว่าการ วธ.กล่าวต่อว่า ในส่วนจังหวัดกระบี่ ได้เตรียมจัดพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุ ของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ จากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอินเดีย มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ วัดมหาธาตุวชิรมงคล (วัดบางโทง) ระหว่างวันที่ 15-18 มีนาคม 2567 โดยในวันที่ 14 มีนาคม 2567 เวลา 07.00 น. มีพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุ ออกจากท่าอากาศยานทหาร กองบิน 21 จังหวัดอุบลราชธานี ไปยังท่าอากาศยานกระบี่ จากนั้นอัญเชิญประดิษฐาน ณ วัดมหาธาตุวชิรมงคล ต.นาเหนือ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่
และในวันที่ 15 มีนาคม 2567 เวลา 07.00 น. จังหวัดกระบี่ ได้จัดริ้วขบวนอัญเชิญอย่างยิ่งใหญ่ตระการตาจากพลังศรัทธาของพุทธศาสนิกชน บริเวณทางเข้าวัด ประกอบด้วย ขบวนช้าง 10 เชือกสวมเครื่องทรง บนช้างมีคนนั่งถือตราสัญลักษณ์ 72 พรรษา, พระบรมฉายาลักษณ์, ธงชาติไทย, ธงชาติอินเดีย ขบวนธงชาติไทย ธงชาติอินเดีย ธงธรรมจักร ธงฉัพพรรณรังสี ขบวนชุดประจำชาติอินเดีย และชุดประจำชาติไทย (ภาคใต้) ขบวนโคมประทีปดอกบัว ขบวนคณะผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ ขบวนเรือพระประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุในมณฑป ขบวนโนราเฉลิมพระเกียรติ ขบวนนางรำพื้นบ้านชุดผ้าพื้นเมือง และขบวนจิตอาสาพระราชทาน
โดยเคลื่อนขบวนมายังวัดมหาธาตุวชิรมงคล และอัญเชิญขึ้นประดิษฐานบนมณฑป จากนั้นเปิดให้ศาสนิกชนเข้ากราบสักการะถึงวันที่ 18 มีนาคม 2567 เวลา 07.00-21.00 น. และในทุกๆ ช่วงเย็นเวลา 18.00-19.00 น. จะมีพิธีเจริญพระพุทธมนต์เสริมสิริมงคลให้กับศาสนิกชนที่เข้ากราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ และในวันที่ 19 มีนาคม 2567 เวลา 10.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น จะอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุ ขึ้นสู่เครื่องบินกองทัพอากาศอินเดีย ออกจากท่าอากาศยานกระบี่ สู่กรุงเดลี สาธารณรัฐอินเดีย
“นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทย ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชน ร่วมสักการะพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ จากสาธารณรัฐอินเดีย มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ ประเทศไทย อย่างยิ่งใหญ่ตระการตา เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เพื่อเสริมสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว โดยขอความร่วมมือประชาชนแต่งกายโทนสีขาว สุภาพ เสื้อมีแขน กระโปรง ผ้าถุง หรือกางเกง ไม่สั้น ไม่รัดรูป กระเป๋าผ้า ถุงพลาสติก (ใส่รองเท้า) ดอกไม้ธูปเทียน (นำกลับบ้านไปบูชาได้) ยาติดตัว (ยารักษาโรคประจำตัว) ยาดม ยาลม ยาหม่อง ร่มสำหรับบังแดดกันฝน เพื่อความสะดวกด้วย” รัฐมนตรีว่าการ วธ.กล่าว