รายงานการศึกษา : สำรวจ..นโยบาย ‘การศึกษา’ ‘พรรคการเมือง’ ไหน ?? โดนใจ..

รายงานการศึกษา : สำรวจ..นโยบาย ‘การศึกษา’ ‘พรรคการเมือง’ ไหน ?? โดนใจ..

นับถอยหลังอีกไม่ถึงเดือน ก็จะถึงวัน “เลือกตั้ง” สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ซึ่งพรรคการเมืองต่างๆ ชิงลงพื้นที่หาเสียง ประกาศนโยบายเพื่อแก้ปัญหาด้านต่างๆ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สาธารณสุข การเกษตร สิ่งแวดล้อม รวมถึง นโยบายด้านการศึกษา “มติชน” จึงถือโอกาสนี้ รวบรวมนโยบายด้าน “การศึกษา” ของพรรคการเมืองหลายๆ พรรคที่มีความโดดเด่น มานำเสนอ

เริ่มจาก พรรคเพื่อไทย (พท.) ที่ประกาศนโยบายหลักๆ ออกมาแล้ว โดยเฉพาะนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่เรียกเสียงฮือฮาอย่างมาก ส่วนนโยบายด้านการศึกษา ทาง พท.ได้ชูให้เป็นหนึ่งในเรื่องที่ต้องการพัฒนาเพื่อสร้างความมั่นคง และเกิดเท่าเทียมในสังคม โดยมีนโยบายส่งเสริมการศึกษา ดังนี้

ส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านขั้นตอน Learn to Earn เพื่อ “เรียนรู้มีรายได้ เรียนรู้ง่ายตลอดชีวิต” คือทุกคนสามารถเข้าถึงการเรียนรู้ได้ทุกช่วงทุกวัย สามารถโอนหน่วยกิตที่สะสมไว้ หางานได้ในทุกช่วงของชีวิต นโยบายจบปริญญาตรีอายุ 18 ปี ปรับระบบการศึกษาจาก 6-6-4 ไปสู่ระบบการศึกษาที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น เพื่อสนับสนุนคนเข้าสู่ตลาดแรงงานเร็วขึ้น พร้อมกับนโยบาย “Free tablet for all” อย่าง โครงการ 1 นักเรียน 1 แท็บเล็ต และ โครงการ 1 ครู 1 แท็บเล็ต เพื่อเปิดโอกาสทางการศึกษาผ่านออนไลน์

Advertisement

นอกจากนี้ ยังมี โครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน (ODOS) เพิ่มโอกาสการเข้าถึงการศึกษาให้กับประชาชน คือเรียนฟรีต้องฟรีจริง เพิ่มงบอาหารกลางวัน และบริการรถรับส่งนักเรียนฟรี เรียนอาชีวะฟรีมีอยู่จริง ปั้นสถานศึกษาอาชีวศึกษาเป็นศูนย์สร้างสรรค์สร้างตัวได้ มีโรงเรียน 2 ภาษาในทุกท้องถิ่น สอนภาษาต่างประเทศ เช่น ภาษาอังกฤษ และภาษาจีน ตั้งแต่ชั้น ป.1 ใช้ครูต่างประเทศสอนเสริมร่วมกับครูไทย ทั้งในห้องเรียน และออนไลน์ และมีศูนย์การเรียนรู้แบบ TCDC และ TK Park ให้ครบทุกจังหวัด

ส่วนพรรคการเมืองเก่าแก่อย่าง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้ชูนโยบายการศึกษาที่ทันสมัย แบ่งเป็น 4 ด้าน ดังนี้ 1.ด้านการจัดการศึกษาระดับอนุบาล ประถมศึกษา มัธยมศึกษา และอาชีวศึกษา โดยจัดให้มี โครงการเรียนฟรี มีคุณภาพ ตั้งแต่อนุบาลถึงชั้น ม.6 และระดับประกาศนียบัตริวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) สนับสนุนอาหารเช้า และอาหารกลางวันฟรี และสนับสนุนนมฟรี 365 วัน สร้างหลักสูตรแกนกลางทุกช่วงชั้นที่เทียบเท่ามาตรฐานสากล สนับสนุน และส่งเสริมโครงการส่งเสริมการเรียนรู้ ด้วยอุปกรณ์เทคโนโลยีทันสมัย (โครงการ Smart Device) เพื่อสนับสนุนการเรียนรู้ในยุคดิจิทัลปัจจุบัน และสนับสนุนให้นักเรียนสามารถเข้าถึงองค์ความรู้ที่หลากหลาย ได้ทุกที่ ทุกเวลา ผ่านอุปกรณ์ Smart Device

2.ด้านการจัดการศึกษาระดับอุดมศึกษา จะส่งเสริมการเรียนฟรีระดับปริญญาตรีในสาขาที่ตลาดต้องการ พร้อมกับขยายกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ในระดับปริญญาตรีให้เพียงพอ และจะยกระดับ กยศ.เป็นกองทุนเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยจะขยายให้ประชาชนมีสิทธิกู้ยืมด้วย 3.ด้านการศึกษา และเรียนรู้ตลอดชีวิต จะจัดการเรียนรู้เพิ่มเติมแก่ประชาชนทั่วไป โดยให้สิทธิเลือกเรียนตามความถนัด และสนใจ ส่งเสริมการจัดการศึกษาด้วยหลักสูตรออนไลน์ (E-Learning) ในแขนงวิชาที่หลากหลายจนถึงระดับปริญญา

Advertisement

และ 4.ด้านการปฏิรูปการศึกษาทั้งระบบ ปชป.จะเน้นปรับปรุงการบริหารจัดการการศึกษาตั้งแต่ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน จนถึงระดับมหาวิทยาลัยอย่างจริงจัง และเป็นเอกภาพ ส่งเสริมสนับสนุนการกระจายอำนาจตรงไปที่โรงเรียน โดยให้โรงเรียนเป็นนิติบุคคล ให้ชุมชนมีอำนาจในการจัดการ พัฒนา สร้างระบบที่เหมาะสมกับการจัดการศึกษาของชุมชนตนเอง พร้อมกับพัฒนาครู และสร้างแรงจูงใจเพื่อให้ได้ครูดี ครูเก่ง มีสมรรถนะในการคัดกรอง และจัดกิจกรรมที่เหมาะสมกับเด็ก ให้ครู และบุคลากรทางการศึกษาได้รับผลตอบแทน และสิทธิประโยชน์อย่างเต็มที่ และพัฒนาหลักสูตรการวัดและการประเมินผล ในทุกระดับการศึกษา โดยเนันการประเมินผลด้วยอัตนัย เพื่อให้นักเรียน นักศึกษาได้พัฒนาทักษะในการคิดวิเคราะห์ พัฒนาความเข้าใจ และตระหนักในคุณค่าของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และลดความซับซ้อน และความเหลื่อมล้ำทางโอกาส ที่เกิดขึ้นจากระบบการสอบเข้ามหาวิทยาลัย

สำหรับพรรคที่มาแรงโดนใจคนรุ่นใหม่อย่าง พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ก็คลอดนโยบายการศึกษา คือ การศึกษาไทยก้าวหน้า เน้นที่ประสิทธิภาพ เพื่อแก้ปัญหาการศึกษาไทยที่มีมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นประเด็นที่นักเรียนไทยเรียนหนักเป็นอันดับต้นๆ ของโลก แต่ระบบไม่สามารถแปรความขยันของผู้เรียนออกมาเป็นทักษะที่แข่งขันกับหลักสากลได้ การที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้รับงบประมาณสูงมากทุกปี แต่ยังไม่สามารถลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาในประเทศ เรียนฟรีก็ยังไม่ฟรีจริง หรือคุณครูที่ต้องทำงานหนัก แต่กลับหมดเวลาแต่ละวันไปกับเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับการสอน

ทาง ก.ก.ยังเน้นนโยบายการศึกษาไทยก้าวหน้าของพรรค ซึ่งถูกออกแบบบนพื้นฐานที่ว่า นักเรียนหนึ่งคนที่เติบโตในประเทศไทย ต้องได้รับการศึกษาที่ประกอบด้วยอย่างน้อย 6 คุณสมบัติ หรือ 6 ด้าน รวม 20 นโยบาย ด้านที่ 1 การศึกษาที่ฟรีจริง ประกอบด้วย 1.เรียนฟรี อาหารฟรี มีรถรับส่ง 2.ทุกโรงเรียนมีงบพอ และ 3.โรงเรียนโปร่งใส ปราศจากทุจริต

ด้านที่ 2 การศึกษาที่ปลอดภัย ไร้อำนาจนิยม ประกอบด้วย 4.ส้วมสะอาด อาคารสถานที่ปลอดภัย ซึมเศร้ามีที่ปรึกษา 5.กฎโรงเรียนต้องไม่ขัดหลักสิทธิมนุษยชน 6.ครูละเมิดสิทธิ พักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทันที และ 7.ยกเลิกตั้งแถว ใช้เวลาอัปเดตเหตุการณ์บ้านเมือง

ด้านที่ 3 การศึกษาที่มีคุณภาพ ปฏิวัติการศึกษา สร้างคนให้ทันโลก ประกอบด้วย 8.ออกแบบหลักสูตรใหม่ เน้นทักษะที่ได้ใช้จริง 9.ชั่วโมงเรียนดีมีคุณภาพ ลดคาบเรียน-การบ้าน-การสอบ 10.โรงเรียน 2 ภาษา นักเรียนพูดภาษาอังกฤษได้ และ 11.เปิดข้อสอบ TCAS ย้อนหลัง ทั้งหมดพร้อมเฉลยทันที

ด้านที่ 4 การศึกษาที่คืนครูให้ห้องเรียน คืนคุณค่าให้วิชาชีพครู ประกอบด้วย 12.คืนครูให้นักเรียน เลิกนอนเวร ลดงานเอกสาร ยกเลิกพิธีรีตองในการประเมิน-รับแขก 13.นักเรียนประเมินครู ครูประเมินผู้อำนวยการโรงเรียน และ 14.งบอบรมให้ครู-โรงเรียน ตัดสินใจเองว่าจะเรียนรู้อะไร

ด้านที่ 5 การศึกษาที่ไม่จำกัดอยู่ที่โรงเรียน ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต ประกอบด้วย 15.คูปองเปิดโลก สูงสุด 2,000 บาทต่อปี สำหรับเรียนรู้นอกห้องเรียน 16.เรียนฟรีอาชีวะถึงระดับ ปวส. จบแล้วมีงานทำ และ 17.แพลตฟอร์มเรียนรู้ตลอดชีวิต เรียนฟรีไม่จำกัด รับรองคุณวุฒิพร้อมระบบจัดหางาน

และ ด้านที่ 6 การศึกษาที่ใกล้ชิดผู้เรียน นักเรียน-ครู-ผู้ปกครองมีส่วนร่วม ประกอบด้วย 18.กระจายอำนาจให้โรงเรียน เติบโตได้ภายใต้ท้องถิ่น 19.บอร์ดโรงเรียน ต้องมีตัวแทนนักเรียน และ 20.สภาเยาวชน มาจากการเลือกตั้ง เสนอกฎหมายไปที่สภาผู้แทนราษฎรได้

ขณะที่พรรคอื่นๆ ยังไม่มีนโยบายด้านการศึกษาออกมาให้เห็น อาทิ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่เปิดอาวุธหลักในเลือกตั้ง 2566 ภายใต้การขับเคลื่อน 3 นโยบาย คือ “สวัสดิการประชารัฐ เศรษฐกิจประชารัฐ และสังคมประชารัฐ” แต่ยังไม่มีประเด็นด้านนโยบายด้านการศึกษาออกมาอย่างเป็นทางการ

สำหรับ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้ประกาศนโยบายที่ตอกย้ำผลงานของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา กับสโลแกน “ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ” โดยเบื้องต้นประกาศแล้ว 13 นโยบาย หนึ่งในนั้นมีนโยบายการศึกษา คือ ให้ทุนเรียนวิชาชีพอำเภอละ 100 ทุน แต่ยังไม่มีรายละเอียดของโครงการ

ส่วน พรรคภูมิใจไทย (ภท.) มาด้วยคอนเซ็ปต์ “พูดแล้วทำ” พร้อมกับเปิด 16 นโยบายหลัก หนึ่งในนั้นมีนโยบายด้านการศึกษา โดยเน้นว่า ใครๆ ก็มีสิทธิเรียนจบได้ใบปริญญาอย่างเท่าเทียม โดยจะผลักดันการเรียนออนไลน์ ให้เรียนฟรีตลอดชีวิต พร้อมกับได้ใบปริญญา

ปิดท้ายที่ พรรคไทยสร้างไทย ที่นำโดย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ชูนโยบายการศึกษา โดยจะผลักดันเรียนฟรีจนจบปริญญาตรี ไม่เป็นหนี้กองทุน กยศ.อยากเรียนอะไรต้องได้เรียน และไม่ต้องย้ายประเทศหนี

ต้องลุ้นกันว่า นโยบายด้านการศึกษาของพรรคการเมืองใด จะโดนใจนักเรียน นักศึกษา ผู้ปกครอง และคนในแวดวงการศึกษา หรือไม่ !!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image