ส่องตลาดรถ EV มือสอง ดูราคา 8 รถไฟฟ้า 100% อีกหนึ่งทางเลือกที่น่าช้อนซื้อ

  • 98
  •  
  •  
  •  
  •  

ปัจจุบันความสนใจในการหาซื้อรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% หรือรถยนต์ EV ก็ยังคงไม่แผ่วลง เทรนด์ยอดจดทะเบียนยอดจองรถยนต์ EV ในประเทศไทยยังคงเพื่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมๆไปกับเทรนด์ของแบรนด์รถยนต์สัญชาติต่างๆที่เริ่มทำตลาด EV ในประเทศไทยเพิ่มขึ้น ขณะที่โครงสร้างพื้นฐานที่เข้ามารองรับโดยเฉพาะสถานีชาร์จ (EV Charger Station) ก็เริ่มครอบคลุมเกือบทุกพื้นที่ในประเทศไทยแล้วเช่นกัน

นอกจากตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 100% มือหนึ่งที่คึกคักอย่างต่อเนื่องแล้ว แน่นอนว่าหลังจากรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยมาเป็นเวลาหลายปีส่งผลให้เราจะเริ่มเห็นรถยนต์ไฟฟ้าเข้าสู่ตลาดรถมือสองกันมากขึ้นในบทความนี้เราจึงไปสำรวจราคามือ 2 ของรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเด่นๆจำนวน 8 รุ่นด้วยกันจากตลาดซื้อขายรถยนต์มือ 2 ในประเทศไทยหลายแหล่งและก็พบว่าราคาน่าสนใจเลยทีเดียว

1. Nissan LEAF

Nissan นับเป็นค่ายรถยนต์ค่ายแรกๆที่นำรถยนต์ไฟฟ้าเข้าสู่ตลาดประเทศไทย โดยเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่นแรกอย่าง Nissan LEAF ในปี 2018 โดยในเวลานั้นเปิดตัวด้วยราคาที่สูงถึง 1,990,000 บาท เรียกว่าสูงจนเจอเสียงบ่น จน Nissan ต้องออกมาแก้เกมด้วยการลดราคาลงถึง 2 ครั้งด้วยกัน ครั้งแรกเกิดขึ้นในวันที่ 3 มีนาคม 2020 ที่ปรับลดราคาลงมาอยู่ที่ 1,490,000 บาทเพื่อให้แข่งขันกับรถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีนที่กำลังเข้ามาทำตลาดในไทยได้ ก่อนที่ในเดือนกรกฎคม 2022 Nissan จะประกาศลดราคาลงมาอีกเหลือเพียง 959,000 บาทเท่านั้น

สำหรับ Nissan Leaf สามารถวิ่งได้ไกล 311 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง และจากการสำรวจราคามือสองในปัจจุบันพบว่ามีราคาอยู่ที่ 750,000-899,000 บาท

2. MG ZS EV

MG ZS EV เป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกที่ MG นำมาขายในประเทศไทย เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2019 ตั้งราคาเอาไว้ที่ 1,190,000 บาท เรียกว่าราคาดีที่สุดในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในเวลานั้น และนับเป็น SUV Crossover ไฟฟ้ารุ่นแรกในไทยก็ว่าได้ ทำให้ MG ZS EV กลายเป็นรถไฟฟ้าที่ขายดีมาย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่นั้น

สำหรับสเปค MG ZS EV สามารถทำระยะทางได้ 330 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ส่วนราคา MG ZS EV มือสองที่มีระยะไมล์ตั้งแต่หลักหมื่นกลางๆถึงหมื่นต้นๆในปัจจุบันพบว่าอยู่ที่ราคาระหว่าง 599,000-749,000 บาท

3. ORA Good Cat

ORA Good Cat เป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของค่าย Great Wall Motor ที่นำเข้ามาทำตลาดในไทยเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2020 ด้วยราคา 989,000 – 1,190,000 บาทแล้วแต่รุ่น และด้วยรูปร่างหน้าตาและสีสันที่โดดเด่น น่ารักถูกใจคนรุ่นใหม่ทำให้ ORA Good Cat ก็ขายดีมากๆนับจนถึงปัจจุบัน ทั้งรุ่นที่วิ่งได้ 400 กิโลเมตรต่อชาร์จ ไล่ไปถึงรุ่น 500 ultra ที่ทำระยะได้ถึง 500 กิโลเมตร

สำหรับราคาของ ORA Good Cat ในตลาดมือสองในเวลานี้พบว่ามีราคาอยู่ระหว่าง 799,000 บาทถึง 829,000 บาทเท่านั้น แล้วแต่เลขไมล์และรุ่น

4. MG EP

หลังจาก MG ประกาศเปิดตัว MG EP รุ่น Minorchange ออกมาเมื่อไม่นานมานี้ ทำให้ MG EP รถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่นก่อนหน้าที่เปิดตัวในช่วงปี 2020 – 2021 ก็เริ่มออกสู่ตลาดรถมือ 2 แล้วเช่นกัน สำหรับ MG EP มีจุดเด่นที่ภาพลักษณ์เคร่งขรึม Low Profile ไม่ได้โดดเด่นวัยรุ่นแบบ ORA Good Cat แต่ให้อรรถประโยชน์จัดเต็มแบบ Station Wagan เหมาะสำหรับครอบครัว โดยในเวลานั้น MG EP เปิดตัวมาด้วยราคา 988,000 บาท เรียกได้ว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกที่มีราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท

สำหรับสเปค MG EP ขับขี่ได้ระยะทางไกลสุด 380 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ส่วนราคาในตลาดรถยนต์มือสอง ในเวลานี้ MG EP มีราคาอยู่ที่ 689,000 – 899,000 บาทแล้วในเวลานี้

5. Volvo XC40

Volvo XC40 Pure Electric เป็นรถยนต์ไฟฟ้าจากแบรนด์ Volvo ที่เปิดตัวในปี 2021 ได้รับเสียงชื่นชมทั้งจากรูปลักษณ์และการขับขี่นุ่มนวลสมกับเป็นแบรนด์ยุโรป และ Volvo XC40 ก็เรียกได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนให้ Volvo กลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้งขณะที่ยอดจอง XC40 ก็หลั่งไหลกันเข้ามาจนทำให้ลูกค้าต้องรอนานกันถึง 6 เดือนเลยทีเดียวในเวลานั้น แม้จะเปิดราคามาอยู่ที่ 2,590,000 บาทก็ตาม

สำหรับ Volvo XC40 สามารถทำระยะทางวิ่งได้สูงสุดที่ 400 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้งสำหรับราคาที่ขายในตลาดรถยนต์มือสองเวลานี้ก็ลดลงมาเล็กน้อยอยู่ที่ 2,190,000 – 2,330,000 บาท

6. MINI COOPER SE

มินิ เปิดตัว Mini Cooper SE (คูเปอร์ เอสอี) รถมินิ 3 ประตู ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ในประเทศไทยครั้งแรกในช่วงต้นปี 2020 ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 2,290,000 บาท มาด้วยรูปลักษณ์ที่คลาสสิคถูกใจแฟนๆมินิ อย่างไรก็ตามหลังจาก Mini ออก Cooper SE รุ่นล่าสุดประจำปี 2023 ออกมาในช่วงต้นปีพร้อมกับออฟชั่นเพิ่มเติมพร้อมปรับราคาขึ้นเล็กน้อย ก็ทำให้ราคาในตลาดมือสองของรุ่นนี้นั้นน่าสนใจมากขึ้น

สำหรับ Mini Cooper SE มีสเปคทำระยะทางได้สูงสุด 217 กิโลเมตรต่อชาร์จ ขณะที่ราคาในตลาดรถยนต์มือสองนั้นมีราคาอยู่ที่ 1,690,000 – 1,890,000 บาท

7. BMW i3s

สำหรับใครที่กำลังมองหารถไฟฟ้าแบรนด์ยุโรป ขนาดกระทัดรัดที่ราคาไม่ถึง 2 ล้านบาทคงต้องหันมามอง BMW i3s รถยนต์ไฟฟ้า 100% จากค่าย BMW ที่เคยเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2019 แต่ราคาเปิดตัวเรียกได้ว่าแพงสุดกู่ที่ 3,730,000 บาท ก่อนที่จะกลับลำลดราคาลงถึง 1.5 ล้านบาทในอีก 1 ปีต่อมาเหลือ 2,230,000 บาท แต่นั่นก็ไม่ได้กระตุ้นให้คนหันมาสนใจมากนักเนื่องจากสเปคที่ไม่ได้โดดเด่นกว่ารถยนต์ไฟฟ้าคู่แข่งทำให้ BMW เลิกทำตลาด BMW i3s ในเวลาต่อมา

อย่างไรก็ตามหลังจาก BMW เลิกทำตลาด BMW i3S ไปเราก็เริ่มได้เห็นรถรุ่นนี้ถูกทยอยปล่อยขายในตลาดรถยนต์มือสองกันแล้วด้วยราคาที่ย่อมเยาว์ลงมาไม่ถึง 2 ล้านบาท อยู่ที่ 1,790,000 – 1,890,000 บาทเท่านั้นพร้อมกับสเปควิ่งไกลสุด 280 กิโลเมตรต่อ 1 ชาร์จ

8. Neta V

คันสุดท้ายที่เราจะมาสำรวจราคากันก็คือ Neta V รถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่เรียกว่ามีราคาถูกที่สุดแบรนด์หนึ่งในตลาดประเทศไทย สำหรับรถ Neta V เข้ามาเปิดตัวในประเทศไทยครั้งแรกเมื่อปี 2022 ที่ผ่านมา โดยราคาเปิดตัวอยู่ที่ 760,000 บาท (ไม่รวมสิทธิพิเศษจากภาครัฐ) ซึ่งปัจจุบันก็พบว่า เริ่มมี Neta V ออกขายในตลาดมือสองบ้างแล้วแม้ว่าจะไม่มากก็ตาม

สำหรับ Neta V ที่สามารถทำระยะวิ่งได้สูงสุดที่ 384 กิโลเมตร ต่อ 1 ชาร์จ มีราคามือสองที่วางตลาดเริ่มต้นที่ 490,000 บาท ซึ่งก็เรียกได้ว่าถูกกว่าราคามือ 1 หนังจากหักส่วนลดมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐซึ่งจะทำให้ราคาลดลงมาเหลือ 549,000 บาทแล้ว

นั่นก็คือรถยนต์ไฟฟ้า 8 รุ่นที่น่าสนใจในตลาดมือ 2 สำหรับใครที่อยากใช้รถไฟฟ้าแต่อยากประหยัดเงินและไม่ซีเรียสที่จะต้องเป็นรถยนต์มือ 1 ดังนั้นรถไฟฟ้ามือสองก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดีเพราะหลายๆคันก็ยังคงมีเลขไมล์น้อยมากๆ ไม่ถึง 5 พันกิโลเมตร และยังมีประกันแบตเตอรี่ที่มาพร้อมกับตัวรถอีกหลายปี ไม่ต่างจากซื้อรถใหม่ ใครที่สนใจก็สามารถนำรุ่นรถไปค้นหาได้ผ่านเว็บไซต์ขายรถยนต์มือสองชื่อดังอย่าง One2Car, Carsome, Kaidee Auto, Chobrod รวมถึง Facebook Marketplace กันได้


  • 98
  •  
  •  
  •  
  •