แนะนำผลไม้หน้าฝน รสชาติอร่อยพร้อมสรรพคุณมากมาย
ประเทศไทยถือเป็นประเทศแห่งการเพาะปลูก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลไม้ไทยที่มีหลากหลายชนิดและมีการออกผลผลิตตลอดทั้งปี ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปในแต่ละฤดู ดังนั้นหากชื่นชอบการทานผลไม้หรืออยากทานผลไม้แต่ไม่รู้จะเลือกทานอะไรดี การเลือกผลไม้ตามฤดูกาลของไทยจะทำให้ได้รสชาติ และคุณภาพของผลไม้ที่ดีกว่า อีกทั้งยังได้ราคาที่ถูกลงกว่าการซื้อผลไม้นอกฤดูกาลรับประทานอีกด้วย
สำหรับในช่วงฤดูฝนที่เริ่มต้นตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคมไปจนถึงเดือนตุลาคม มีผลไม้หน้าฝนที่ออกผลผลิตมาให้ได้เลือกซื้อเลือกทานกันมากมาย แต่จะมีผลไม้ประเภทไหนบ้าง มีคุณประโยชน์อย่างไร และมีเทคนิคการซื้อแบบไหนให้ได้คุณภาพและรสชาติที่ดี KTC ได้รวบรวมเรื่องน่ารู้มาฝากกัน
แนะนำผลไม้ประจำฤดูฝนในแต่ละเดือนที่ต้องลิ้มลอง
ผลไม้ประจำหน้าฝนหลายชนิด
ในช่วงฤดูฝนเป็นหนึ่งในฤดูที่มีผลไม้ออกผลผลิตหลากหลายชนิด เป็นช่วงที่ดินมีความอุดมสมบูรณ์ทำให้เหมาะแก่การเพาะปลูกและเก็บเกี่ยวผลผลิตเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งในแต่ละเดือนจะมีผลไม้ที่ออกผลผลิตผลัดเปลี่ยนกันไป ดังนี้
ผลไม้ที่ออกผลผลิตในช่วงเดือนพฤษภาคม ได้แก่ ทุเรียน ขนุน ระกำ เงาะ ลูกหว้า สละ มังคุด ลิ้นจี่ และแก้วมังกร
ผลไม้ที่ออกผลผลิตในช่วงเดือนมิถุนายน ได้แก่ ระกำ สับปะรด ทุเรียน ขนุน มะละกอ เงาะ มังคุด และกระท้อน
ผลไม้ที่ออกผลผลิตในช่วงเดือนกรกฎาคม ได้แก่ กล้วยหักมุก กล้วยน้ำว้า กล้วยไข่ กล้วยหอม ส้มโอ มะยม แตงไทย น้อยหน่า ลำไย ส้มเขียวหวาน (เพชรบุรี) สับปะรด ลางสาดและฝรั่ง
ผลไม้ที่ออกผลผลิตในช่วงเดือนสิงหาคม ได้แก่ กล้วยหอม กล้วยไข่ ฝรั่ง มะเฟือง ลำไย ลองกอง ลางสาด สับปะรด มะยม น้อยหน่า ส้มเกลี้ยงและส้มโอ
ผลไม้ที่ออกผลผลิตในช่วงเดือนกันยายน ได้แก่ มะกอกน้ำ องุ่น มะยม ฝรั่ง ลองกอง ลางสาด เสาวรส กล้วยน้ำว้า กล้วยหอม สับปะรดและมะเฟือง
ผลไม้ที่ออกผลผลิตในช่วงเดือนตุลาคม ได้แก่ ส้มซ่า ส้มเขียวหวาน มะขามป้อม สาเก ขนุน มันแกว ลองกอง องุ่น เสาวรส มะเฟือง ฝรั่ง กล้วยน้ำว้า กล้วยหอม และลองกอง
ผลไม้ไทยที่นิยมในช่วงฤดูฝน รสชาติอร่อย หาซื้อง่าย
ผลไม้ประจำฤดูฝนที่คนนิยมทานมีหลากหลายชนิดไม่ว่าจะเป็น ทุเรียน มังคุด ลำไย กระท้อน ส้มโอ น้อยหน่า กล้วย ลองกอง สับปะรด และเงาะ โดยแต่ละชนิดจะมีคุณประโยชน์อย่างไร และสามารถเลือกซื้อแบบไหนให้ได้ผลไม้ที่มีคุณภาพและรสชาติอร่อยตามไปดูกัน
1. ทุเรียน
ทุเรียนผลไม้หน้าฝนกลิ่นหอม หวานมันอร่อย
ทุเรียนผลไม้ยอดนิยมที่ถือเป็นราชาแห่งผลไม้ไทย เพราะไม่เพียงแต่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ยังมีรสชาติที่หวาน มันอร่อย เนื้อสัมผัสที่มีทั้งความกรอบและนุ่มกำลังดี มีหลายสายพันธ์ุให้เลือกรับประทาน อาทิ ก้านยาว กระดุม หมอนทอง พวงมณี นกหยิบ หลงลับแล ชะนี ซึ่งแต่ละสายพันธุ์จะมีรสชาติ ความหอมและเนื้อสัมผัสที่แตกต่างกันออกไปสามารถเลือกทานได้ตามความชื่นชอบ
คุณประโยชน์ของทุเรียน : เนื้อทุเรียน 100 กรัมจะให้พลังงานอยู่ที่ 174 กิโลแคลอรี พร้อมทั้งมีคาโบร์ไฮเดรต เส้นใย ไขมัน โปรตีน วิตามินเอ วิตามินบี 3 วิตามินซี โพแทสเซียม และมีค่าดัชนีน้ำตาลที่สูงถือเป็นผลไม้ที่มีไขมันมาก จึงควรบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ ซึ่งทุเรียนเป็นผลไม้ที่ไม่เหมาะกับผู้ป่วยเบาหวาน โรคหัวใจและความดันโลหิตสูง เนื่องจากมีน้ำตาลสูงและอุดมไปด้วยไขมัน
วิธีการเลือกซื้อทุเรียน : หลายคนอาจชื่นชอบการทานเนื้อทุเรียนในลักษณะที่แตกต่างกันออกไป แต่ถึงอย่างไรควรรู้ถึงวิธีการเลือกซื้อเพื่อให้ได้ธุเรียนที่สุกกำลังดีไม่อ่อนหรือแก่จนเกินไป โดยการเคาะฟังเสียงทุเรียนสุกเวลาเคาะจะมีเสียงโปร่ง ๆ ที่เกิดจากเนื้อทุเรียนร่อนออกจากเปลือกด้านในแล้วถือว่าสุกกำลังทาน และมีกลิ่นหอมกำลังดี รวมกับสังเกตบริเวณหนามทุเรียน สีเปลือก และร่องพูว่ามีสีที่เริ่มเป็นสีเขียวปนน้ำตาลแล้วหรือไม่ เพราะหากเปลี่ยนสีแล้วถือว่าทุเรียนสุกพร้อมทาน
2. มังคุด
มังคุดผลไม้หน้าฝนราชินีแห่งผลไม้ไทย
ราชินีแห่งผลไม้ไทยที่ต่างชาติชื่นชอบ ถือเป็นผลไม้เขตร้อนมักออกผลผลิตในช่วงฤดูฝน รสชาติอร่อยหวานอมเปรี้ยวกำลังดี มีรูปร่างเป็นเอกลักษณ์ โดยมังคุดของไทยถือเป็นผลไม้ส่งออกอันดับต้น ๆ ของประเทศเลยทีเดียว
คุณประโยชน์ของมังคุด : มังคุดเป็นผลไม้ที่มีคุณประโยชน์มาดมาย อาทิ สารแซนโทน (Xanthone) ที่มีส่วนช่วยในการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดอาการอักเสบ ความดันโลหิตและอาการแพ้ต่าง ๆ
วิธีการเลือกซื้อมังคุด : การเลือกซื้อมังคุดควรเลือกที่ขั้วมีสีเขียวและเปลือกมีสีม่วงอมแดงเข้ม ลูกมีขนาดใหญ่กำลังดี เปลือกไม่แข็งหนือนิ่มจนเกินไป
3. ลำไย
ลำไยผลไม้หน้าฝนรสชาติหวานทานได้เพลิน
ผลไม้รสหวานที่สามารถทานได้หลายรูปแบบเนื้อลำไยกินสดเป็นผลไม้ หรือทำเป็นอาหารหวาน เช่น ข้าวเหนียวเปียกลำไย วุ้นลำไย น้ำลำไย เมนูสมูทตี้ หรือแปรรูปอย่างลำไยกระป๋อง ลำไยอบแห้ง เป็นต้น ลำไยเป็นผลไม้ที่มีผลขนาดปานกลางเป็นช่อรวมกัน มีเปลือกสีน้ำตาล เนื้อหนา กรอบ สีขาวครีม เมล็ดสีดำ ลำไยในประเทศไทยสามารถแบ่งออกได้เป็น 4 สายพันธุ์หลักที่นิยมปลูกกันคือ ลำไยกะโหลก กลุ่มลำไยป่า ลำไยกระดูก กลุ่มลำไยเครือหรือลำไยเถา (ลำไยชลบุรี)
คุณประโยชน์ของลำไย : ลำไยสดทั่วไปปริมาณ 100 กรัม ประกอบด้วยน้ำปริมาณมาก รวมถึงมีคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และมีในส่วนของค่าความร้อน มีวิตามิน แคลเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก และน้ำตาลที่ทำให้ลำไยมีรสชาติหหวานอย่างกลูโคส ซูโครส และฟรุกโตส ส่วนต่าง ๆ ของลำไยมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ไม่ว่าจะเป็นใบ ดอก เนื้อผล เปลือกผล ลำต้น กิ่ง และเมล็ด
วิธีการเลือกซื้อลำไย : ควรเลือกซื้อลำไยที่เปลือกเรียบ สีน้ำตาลทองสวย ไม่มีรอยแผลหรือรอยเจาะของแมลง ถ้าลองกดเบาจะต้องรู้สึกว่าเนื้อแน่นเต็มเปลือกไม่เป็นโพรง
4. กระท้อน
กระท้อนผลไม้หน้าฝนที่ทำทานได้หลายเมนู
หนึ่งในผลไม้เขตร้อนที่มีผลสีเหลือง พันธุ์ที่ได้รับความนิยมได้แก่ พันธุ์อีล่า ปุยฝ้าย นิ่มนวล อินทรชิต ทับทิม ขันทอง เทพรส และอีแดง รสชาติเปรี้ยวอมหวาน บริเวณกลางผลจะมีเนื้อพูที่เป็นปุยสีขาวรสชาติหวานนุ่ม หุ้มอยู่บริเวณเมล็ด เป็นผลไม้ที่สามารถทานได้ทั้งแบบสดและนำไปแปรรูปเป็นเมนูอาหารต่าง ๆ อาทิ กระท้อนทรงเครื่อง กระท้อนลอยแก้ว กระท้อนแช่อิ่ม ตำกระท้อน
คุณประโยชน์ของกระท้อน : กระท้อนสุก 100 กรัม จะมีทั้งโปรตีน ไขมัน ใยอาหาร ไฟเบอร์ แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินบี 1 วิตามินบี 3 วิตามินซี รวมถึงมีสรรพคุณทางยาทั้งรักษาโรคผิวหนังกลากเกลื้อน แก้ท้องเสีย ใช้ขับลม แก้บวม ช่วยลดไข้ สร้างเสริมระบบภูมิคุ้มกัน ลดระดับคอเลสเตอรอล ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด รักษาโรคผิวหนัง เป็นต้น
วิธีการเลือกซื้อกระท้อน : วิธีการเลือกกระท้อนต้องดูสีเปลือกมีสีเหลืองทองทั้งลูก ผิวเป็นกำมะหยี่เกลี้ยง ไม่มีรอยแผลจากหนอนและแมลง ผิวตึง จะได้กระท้อนสุกเหมาะแก่การนำมากินสดหรือทำของหวาน
5. ส้มโอ
ส้มโอผลไม้หน้าฝน เพิ่มความสดชื่นระหว่างวัน
ผลไม้เศรษฐกิจชนิดหนึ่งของไทยที่มีรสชาติหวานหรือหวานอมเปรี้ยว มีเนื้อเป็นกลีบและมีเมล็ดฝังอยู่ระหว่างเนื้อ นิยมนำมาทานสด ลักษณะผลสีเขียวอมเหลืองมีเปลือกหนาทำให้สามารถเก็บได้นาน ในไทยมีส้มโออยู่หลายสายพันธุ์ทั้งพันธุ์ขาวแป้น พันธุ์ทับทิมสยาม พันธุ์ทองดี พันธุ์ขาวน้ำผึ้ง พันธุ์ขาวใหญ่ พันธุ์ขาวพวง พันธุ์ขาวแตงกวา พันธุ์ท่าข่อย พันธุ์ปัตตาเวีย และพันธ์หอมควนลัง
คุณประโยชน์ของส้มโอ : ส้มโอเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงที่มาพร้อมสรรพคุณทางยามากมาย อาทิ เนื้อส้มโอช่วยขับสารพิษในร่างกาย ป้องกันและรักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน แก้อาการไอมีเสมหะ ช่วยให้เจริญอาหาร หรือเปลือกส้มโอที่มีสรรพคุณแก้ลม (ระบบไหลเวียนโลหิต) แก้เสมหะ ช่วยแก้อาการแน่นหน้าอก และยังใช้เป็นส่วนประกอบของยาหอมสมุนไพรแก้อาหารวิงเวียนได้อีกด้วย
วิธีการเลือกซื้อส้มโอ : การเลือกซื้อส้มโอควรเลือกที่เปลือกไม่หนาจนเกินไป มีสีเขียวอ่อน น้ำหนักเหมาะสมกับขนาดผล ไม่มีร่องรอยของแมลงกัด
6. น้อยหน่า
น้อยหน่าผลไม้หน้าฝน หวานหอมกินได้ไม่มีเบื่อ
ผลไม้เขตร้อนที่มีรสชาติหวานอร่อย เนื้อละเอียด มีกลิ่นหอมเฉพาะ และมีเมล็ดเยอะนิยมทานแบบสด เจริญเติบโตได้ดีในอากาศและพื้นที่ประเทศไทย ทั้งยังแบ่งออกได้หลายสายพันธ์ุ อาทิ พันธุ์พื้นเมืองหรือพันธุ์ฝ้าย พันธุ์น้อยหน่าหนัง และพันธุ์เพชรปากช่อง ในประเทศไทยจะนิยมปลูกมากทางพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
คุณประโยชน์ของน้อยหน่า : น้อยหน่าอุดมไปด้วยแร่ธาตุและสารอาหารต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นวิตามินซี คาร์โบไฮเดรต เส้นใยอาหาร ไขมัน แคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม โซเดียม และวิตามินต่าง ๆ มีสรรพคุณมากมายทั้งช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ช่วยบำรุงผิวพรรณ เส้นผม และดวงตา มีไขมันต่ำผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนักทานได้ ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล บำรุงหัวใจ รักษาสมดุลของน้ำในร่างกาย เป็นต้น
วิธีการเลือกซื้อน้อยหน่า : การเลือกน้อยหน่าควรเลือกที่ตาโต ผลมีสีเขียวอมน้ำตาลนิด ๆ ลองกดดูเบา ๆ บริเวณเปลือกจะนิ่ม
7. ลองกอง
ลองกองผลไม้หน้าฝน รสชาติอร่อยที่ต้องลอง
ผลไม้ที่อยู่ในตระกูลเดียวกันกับลางสาด มีถิ่นกำเนิดอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถือเป็นหนึ่งในประเภทผลไม้ที่มีราคาค่อนข้างสูง เนื่องจากผลผลิตที่ได้ไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด ในไทยมีลองกองอยู่หลายสายพันธุ์ อาทิ ลองกองทั่วไป ลองกองแปรแมร์ ลองกองธารโต ลองกองคันธุลี ลองกองไม้ ลองกองกาญจนดิษฐ์ และลองกองเปลือกบาง เนื้อมีรสหวานหอม มีเมล็ดน้อยหรืออาจไม่มีเลย นิยมทานแบบสดไม่นิยมนำไปแปรรูป
คุณประโยชน์ของลองกอง : ลองกองเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานต่อ 100 กรัมอยู่ที่ 66 กิโลแคลอรี มีคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน เส้นใยอาหาร น้ำ วิตามินต่าง ๆ ฟอสฟอรัส แคลเซียม รวมถึงมีคุณค่าทางอาหารที่มีประโยชน์มากมาย อาทิ ช่วยลดความร้อนในร่างกาย นำเมล็ดไปใช้รักษาอาการท้องเสีย อาการไข้ ยาขับพยาธิ เป็นต้น
วิธีการเลือกซื้อลองกอง : ควรเลือกพวงที่ผลมีผิวเรียบ ไม่มีรอยด่างหรือรอยดำที่มากจนเกินไป ไม่มีรอยกัดแทะของแมลง มีขนาดผลใกล้เคียงกัน ควรเลือกแบบที่ยังติดกันเป็นพวงมากกว่าเป็นเม็ดที่หลุดออกมา
การรับประทานผลไม้ตามฤดูกาลนอกจากจะมีผลไม้ให้เลือกทานมากมายแล้ว ยังได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ รสชาติอร่อย มั่นใจได้ว่าปราศจากการเร่งโตแต่อย่างใด ทั้งยังมีราคาจำหน่ายในตลาดที่ไม่สูงเมื่อเทียบกับการรับประทานผลไม้เหล่านี้นอกฤดูกาล มีแหล่งเลือกซื้อหลากหลายทั้งจากร้านทั่วไปและซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ ที่พร้อมให้เลือกจ่ายได้สุดคุ้มกับโปรโมชั่นที่น่าสนใจมากมาย
โปรโมชั่นพิเศษสำหรับสมาชิกบัตรเครดิต KTC เท่านั้น
ช้อปสินค้าจากร้านค้าพันธมิตรที่กำหนดในหมวดซูเปอร์มาร์เก็ตสุดคุ้ม ช้อปเท่าไรก็แลกรับได้ เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต KTC ณ ร้านค้าซูเปอร์มาร์เก็ตที่กำหนด ทั้งหน้าร้านค้าและออนไลน์ แลกรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 13%
- เมื่อมียอดใช้จ่าย 1 - 999 บาท/เซลส์สลิป และใช้คะแนน KTC FOREVER เท่ากับยอดใช้จ่าย แลกรับเครดิตเงินคืน 11% หรือ
- เมื่อมียอดใช้จ่ายครบ 1,000 บาทขึ้นไป/เซลส์สลิป และใช้คะแนน KTC FOREVER เท่ากับยอดใช้จ่าย แลกรับเครดิตเงินคืน 13%
- ใช้คะแนน KTC FOREVER เท่ากับยอดใช้จ่าย แลกรับเครดิตเงินคืน 11% หรือ เมื่อมียอดใช้จ่ายครบ 1,000 บาทขึ้นไปต่อเซลส์สลิป และใช้คะแนน KTC FOREVER เท่ากับยอดใช้จ่าย แลกรับเครดิตเงินคืน 13%
โดยต้องลงทะเบียนทุกครั้งที่ต้องการใช้คะแนนแลกรับเครดิตเงินคืน ภายในวันเดียวกันกับที่สมาชิกมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเกิดขึ้นเท่านั้น
**ไม่จำกัดยอดแลกคะแนนสูงสุดตลอดรายการ
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่
ระยะเวลาโปรโมชั่น : ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธ.ค. 66
สำหรับใครที่กำลังมองหาผลไม้ตามฤดูกาลรับประทานในช่วงหน้าฝนเช่นนี้ มีผลไม้หลากหลายชนิดตามที่แนะนำข้างต้น ซึ่งเป็นผลไม้ประจำฤดูที่มักจะออกผลผลิตในช่วงฤดูฝนให้สามารถเลือกซื้อและเลือกทาน โดยนำเทคนิคการเลือกซื้อผลไม้แต่ละชนิดไปใช้รับรองว่าจะได้ผลไม้รสชาติอร่อยและสุกกำลังดีอย่างแน่นอน พร้อมรับความคุ้มค่าจากการเลือกซื้อผลไม้ต่าง ๆ ได้มากยิ่งขึ้นเมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต KTC กับโปรโมชั่นสุดคุ้มที่ห้ามพลาด
ช้อปสินค้าในซูเปอร์มาเก็ตสุดคุ้มกับบัตรเครดิต KTC พร้อมโปรโมชั่นอีกเพียบ